3
เรือนร่างอรชรพลันขยับกายขึ้นเล็กน้อย นางรู้สึกปวดตัวยิ่งนัก หญิงสาวจึลปรือตาขึ้นมาพบว่า นางอยู่ในเรือนที่มีหญิงสาวนับสิบคนที่ถูกมัดมือมัดเท้าไว้
สายตานางมองหาสาวใช้คนสนิทพบว่าเสี่ยวสี่ ยังมิได้สติ “เสี่ยวสี่”
สาวใช้ที่นอนอยู่นั้นพลันได้ยินเสียงเจ้านายรีบลืมตาขึ้นมาทันที “คุณหนู”
“พวกเราต้องหาทางออกจากที่นี่”
“ช่วยพวกเราด้วย” สตรีหนึ่งในสิบคนเอ่ยขึ้น พวกนางก็ถูกจับตัวมาเช่นกัน
ฉู่หลินซีกวาดสายตามองพวกนางแต่ละคน ดูจากผิวพรรณแล้วคงจะเป็นคนเมืองเป็นแน่แท้ เหล่าโจรภูเขามันช่างสารเลวยิ่งนัก จับสตรีที่ไม่มีทางสู้มา
ราตรีมืดมิดมาเยือนเดือนดาราขับเคลื่อนขึ้นมาแทนแสงสุริยัน หมู่ดาวดวงน้อยส่องแสงเปล่งประกายพร้อมเดือนดารา ฉู่หลินซีนั้นมองออกไปนอกหน้าต่าง
ทำไมชีวิตข้าถึงได้โชคร้ายถึงเพียงนี้ หนีทางการแล้วยังต้องมาเจอโจรภูเขาอีก
ลานเรือนในรังโจร พวกโจรภูเขาทั้งหลาย นั่งล้อมรอบกองไฟ ค่ำคืนนี้พวกมันมีความสุขยิ่งนักปล้นผ้าต่วนอย่างดีมาตั้งสิบรถเกวียน
“ฉลองกัน คืนนี้มีสาวงามเพียบให้พวกเจ้าได้คลายเหงา” หัวหน้าโจรนามว่าต้าซานเอ่ยขึ้นพร้อมยกจอดสุราเข้าปาก เหล่าลูกน้องโจร พวกโจรภูเขาหัวเราะคิดคักเสียงดังจนได้ยินไปถึงเรือนที่จับตัวเหล่าสาวงาม
“แย่แล้ว พวกเราเสร็จพวกมันแน่” สตรีนางหนึ่งเอ่ยขึ้น
ฉู่หลินซีกับเสี่ยวสี่ต่างมองหน้ากัน จะเอาอย่างไรดีคราวนี้
โครมเสียถีบประตูอย่างแรง บุรุษในชุดสกปรกโสโครกสาวเท้าเข้ามาภายในเรือนที่กักตัวสตรีนับสิบนาง สายตาอันแหลมคมของเขา ทอดมองมาที่สตรีที่แต่งกายในชุดบุรุษใบหน้าช่างงดงามยิ่งนัก
“เจ้าสองคนตามข้า”
สองนายบ่าวทำอันใดไม่ถูก ฉู่หลินซีไม่คิดเลยว่ารอดมาจากทหารจะอยู่ในเงื้อมือโจรภูเขา เป็นการหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ
“ไม่!!!! ข้าไม่ไป” ฉู่หลินซีเอ่ยขึ้น
“หน็อย!!! รนหาที่ตายเสียแล้ว” ฝ่ามือหนาใหญ่กระทบที่ใบหน้างามของฉู่หลินซีอย่างแรง ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ดวงหน้างามอย่างแรง
“คุณหนู” เสี่ยวสี่ประคองร่างงามทันที
“มันจะมากไปแล้วนะ เจ้าโจรภูเขา” เสี่ยวสี่เอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจว่าโจรจะตบนางหรือไม่
“ถ้าไม่อยากโดนเยี่ยงนี้ อย่าได้ขัดขืนเป็นอันขาด” เจ้าโจรภูเขาตวาดขึ้นอย่างเสียงดัง
สตรีที่อยู่ด้านในต่างกลัวจนหัวหดเมื่อเห็นการกระทำเยี่ยงนี้ พวกนางไม่กล้าปริปากแม้แต่น้อย เลยด้วยซ้ำ
สองนายบ่าวถูกบังคับให้มุ่งหน้าไปที่ลานเรือน ฉู่หลินซีปวดที่ดวงหน้างามเล็กน้อย นางทอดสายตามองพวกโจรภูเขานับสิบที่ล้อมวงกองไฟ ต่างร่ำสุรากันอย่างมีความสุข
“หัวหน้า นางมาแล้วขอรับ” ลูกน้องโจรเอ่ยขึ้น
คนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้านั้น ทอดสายตามองสตรี ตรหน้าสองคน ช่างดงามยิ่งนัก “ข้าขอคนนี้แล้วกัน” กล่าวจบหัวหน้าโจรดึงร่างงามของ
“โอ๊ย!!!” เรือนร่างอรชนกระทบเข้าที่หน้าอกหนาใหญ่ของหัวหน้าโจร
“คุณหนู” เสี่ยวสี่พยายามจะดึงคุณหนูของนางไว้ แต่ทว่าสาวใช้กับถูกลากไปอีกฝั่งหนึ่ง
“เสี่ยวสี่” สองนายบ่าวต่างร่ำไห้
“ปล่อยข้านะ” ฉู่หลินซีกระทืบเท้าหัวหน้าโจรอย่างแรง หัวหน้าโจรกระชากศีรษะนาง จนนางล้มลงพื้น
“นังสารเลว”
ฉู่หลินซีนอนหงายลงกับพื้นที่เย็นเฉียบ นางไม่ต้องการเยี่ยงนี้ ดวงหน้าของหัวหน้าโจรช่างอัปลักษณ์ยิ่งนัก มันเลียริมฝีปากราวกับหมาป่ากำลังเขมือบอาการรสโอชะ
“ไม่นะ อย่าเข้ามา”
ด้านลูกน้องโจรช่างเป็นเรื่องตลกขบขันไปเสียแล้ว สตรีทุกนางที่เข้ามาในรังโจรแห่งนี้ต่างถูกพรากพรหมจรรย์อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงจากโชคชะตาอัปยศแห่งนี้ได้
หญิงสาวขยับหนีมันอย่างช้าๆ
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก”
ชั่วเวลานั้นหัวหน้าโจรขึ้นคร่อมเรือนร่างอรชร หัวใจของนางเต้นไม่เป็นจังหวะถ้านางตกเป็นของมัน นางยอมกัดลิ้นตัวเองตายเสียดีกว่า
“อย่า!!!” หญิงสาวกรีดร้องอย่างแรง ทั้งเหม็นบุรุษอัปลักณ์ผู้นี้ มันกำลังจะประกบริมฝีปากงามที่อวบอิ่ม
ข้าไม่มีหน้ามีชีวิตอยู่ต่อเพราะถูกย่ำยีแล้ว
ดวงตาหงส์เบิกกว้างขึ้น นางพรูลมหายใจอย่างแรง ริมฝีปากมันค่อยๆ ลงมากำลังจะประทับทาบริมฝีปากบาง ชั่วเวลานั้น นางหลับตาลง
“อ๊าก!!!” เสียงของมันร้องอย่างเจ็บปวด แล้วร่างหนาก็กลิ้งออกจากเรือนร่างอรชร กระนั้นทำให้ฉู่หลินซีปรือตาขึ้นมาทันที
ภาพที่เห็นตรงหน้า หัวหน้าโจรร้องอย่างเจ็บเปวด มันถูกธนูแทงที่แขน เหล่าลูกน้องโจรต่างวิ่งโกลาหล หาตัวผู้บงการ หญิงสาวได้ทีรีบหลบนี
บุรุษเรือนร่างหนาใหญ่ในชุดเกราะสีน้ำเงิน นั่งบนหลังอาชาคู่ใจ ดวงหน้าหล่อเหลาดุจเทพเซียน รูปหน้าสี่เหลี่ยมเห็นกรามอย่างชัดเจน คิ้วหนาพาดเฉียงดุจกระบี่ ดวงตาดอกท้อทอดมองมาที่หัวหน้าโจรนอนตายอย่างอนาถด้วยลูกธนูของเขา อีกทั้ง จมูกโด่งเป็นสันลงมารับกับริมฝีปากหนาหยักโค้งได้รูป เขาได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง อย่างชัดเจนสตรีนางนั้นกำลังจะถูกย่ำยีโชคดีที่เขาช่วยนางได้ทัน
เขารู้ว่านางหลบหนีออกจากเมืองหลวงโดยการช่วยเหลือของใครคนหนึ่ง เขาตั้งใจว่าจะตามจับนาง แต่ทว่าโชคกับเข้าข้างเขา เมื่อนายทหารรายงานว่ามีการดักปล้นรถเกวียนขนผ้าที่นางนั่งมานั้น เขาก็ไม่รอช้ารีบตามมาทันที
ในค่ำคืนนั้นเหล่าโจรภูเขาได้ตายหมด อีกทั้งของล้ำค่าก็ถูกขนยกมาที่หน้าลานโจร สตรีนับสิบนางต่างนั่งรวมกัน พวกนางดีใจที่ถูกช่วยเหลือ
ชายหนุ่มนามว่า มู่หรงเยว่ท่านแม่ทัพแห่งแว่นแคว้น แคว้นฉีทอดสายตามองเหล่าสาวงามสิบคน ยังขาดคนที่เขาช่วย นางไปไหน
“เรียนท่านแม่ทัพ สมบัติขนครบแล้วขอรับ” นายทหารชั้นผู้น้อยเอ่ยขึ้น
เขากวาดสายตามองไปทางรถเกวียนชายหนุ่มไม่รอช้า รีบสาวเท้ามุ่งไปทางรถม้า
สองนายบ่าวที่หลบอยู่หลังรถเกวียนต่างสบตากัน “แย่แล้วคุณหนู ท่านแม่ทัพมู่หรงเยว่มาทางนี้แล้ว” เสี่ยวสี่เอ่ยขึ้น อย่างวิตกกังวล
ทางด้านฉู่หลินซีไม่คิดว่าเขาจะนำทหารมาปราบหลุ่มโจร อีกทั้งยังช่วยนางอีกต่างหาก นางไม่อยากให้ทางการจับตัวไปเป็นทาส นางจะทำอย่างไรดี ดูเหมือนว่าเขาจะมุ่งมาทางนี้เสียแล้ว เสียงฝีเท้าเดินย่ำเข้ามาเรื่อยๆ
สองนายบ่าวแทบจะหยุดหายใจ พวกนางค่อยๆ ถอยหลังไปเรื่อย เขาหยุดเดินสายตามองเข้าไปในรถเกวียนไม่เห็นมีอะไร
หญิงสาวทั้งสองนางทอดมองรองเท้าหนังคู่ยาว ตอนนี้พวกนางต่างนั่งลงลุ้นว่าท่านแม่ทัพจะออกไปจากรถเกวียนตอนไหน
หายไปแล้ว เขาหายไปกัน หายไปราวกับผีร่องหนได้
“คิดว่าจะหนีทางการพ้นอย่างนั้นรึ” น้ำเสียงที่เย็นเฉียบราวกับก้อนน้ำแข็งพันปีเอ่ยขึ้นทำให้คนฟังตกใจไม่น้อย
สองนายบ่าวรีบหันหลังไปมอง ดวงตาต่างเบิกกว้างขึ้น
เห็นทีครานี้ข้าคงเป็นทาสจริงๆ