บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

คนแรกที่หายตกตะลึงก็คือเจียงซูเจ๋อ เขาลุกขึ้นยืน บอกกับชายหนุ่ม

“หลิ่งเฟย ตามข้ามาสักประเดี๋ยว”

คำพูดของเจียงซูเจ๋อเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากมีเรื่องสำคัญต้องการสนทนาตามลำพัง

ท่ามกลางสายตาที่ยังตะลึงงันไม่หายของสตรีต่างวัยทั้งสอง เจียงซูเจ๋อเดินนำชายหนุ่มออกไปก่อน จากนั้นเซี่ยหลิ่งเฟยค่อยหมุนตัวเดินตามหลังไปติดๆ

ต่อเมื่อพวกเขาเดินเข้ามาจนถึงห้องหนังสือ เจียงซูเจ๋อทำมือไพล่หลัง ขมวดคิ้วเครียด ก่อนเอ่ยถามชายหนุ่มทันทีว่า “เจ็ดปีมานี้ เจ้าหายไปไหนมาหรือ”

เซี่ยหลิ่งเฟยแม้เป็นคนหยาบกระด้าง แต่ในบางเรื่องเขาย่อมรู้ว่ากาลเทศะ และความนอบน้อมคืออะไร

ชายหนุ่มประสานมือ ค้อมกายให้กับผู้อาวุโส

“ขออภัยท่านอาเจียง หลังจากท่านพ่อถูกเนรเทศ ท่านแม่ก็พาข้าไปอาศัยอยู่ที่สำนักคุ้มภัยวิหคเหิน ตอนแรกพวกเราอยู่ที่นั่นมิได้เปิดเผยตัวตนขอรับ”

“ที่แท้พวกเจ้าก็อยู่ทางเหนือของเมืองหลวงนี่เอง” เจียงซูเจ๋อกล่าวด้วยเสียงค่อนข้างสบายใจขึ้นเล็กน้อย นั่นเพราะเขาพอรู้มาว่าเจ้าสำนักคุ้มภัยซ่งเถียนเอ็นดูเซี่ยเชาเหว่ยถึงขั้นรับเป็นบุตรบุญธรรม เซี่ยหลิ่งเฟยเป็นลูกชายของเซี่ยเชาเหว่ย อยู่ที่นั่นย่อมมีฐานะเป็นหลาน

พอคิดมาถึงตรงนี้ เจียงซูเจ๋อก็ยิ่งสบายใจไปเปราะหนึ่ง จึงเริ่มถามต่อ “ตลอดเจ็ดปีมานี้ เจ้ากับแม่ของเจ้าสบายดีหรือไม่”

สีหน้าของเซี่ยหลิ่งเฟยยังคงสงบนิ่งขณะตอบว่า “ท่านแม่ตรอมใจ สิ้นลมในเดือนที่สองหลังจากที่พวกเราเข้าไปอยู่ในสำนักคุ้มภัยขอรับ”

เจียงซูเจ๋อขมวดคิ้วด้วยความเห็นใจ “โถ เซี่ยฮูหยิน ข้ารู้ว่าพ่อและแม่ของเจ้ารักกันมาก แต่ไม่คิดว่านางจะเสียใจถึงขั้นตรอมใจสิ้นลม หลิ่งเฟย ที่ผ่านมาเจ้าคงลำบากมากสินะ อาขอโทษที่ไม่ได้ออกตามหาเจ้าและแม่ของเจ้าให้เร็วกว่านี้”

เซี่ยหลิ่งเฟยตอบหน้านิ่ง “ไม่ใช่ความผิดของท่านอาขอรับ ท่านแม่พูดเสมอว่า ในชาตินี้หากไม่ได้อยู่กับท่านพ่ออีก นางก็จะขอไปรอพบท่านพ่อในชาติหน้า”

ยิ่งได้ยินเช่นนั้น ในอกของเจียงซูเจ๋อยิ่งกระเพื่อมไหวด้วยความเห็นใจ “โถ เซี่ยฮูหยิน”

“แต่ว่า...” เซี่ยหลิ่งเฟยพูดต่อ “ข้าคิดว่าสุขภาพของท่านแม่อ่อนแออยู่แล้ว ยิ่งมีเรื่องทำให้สะเทือนใจ นางก็ยิ่ง...” เขาไม่จบประโยค เพราะยิ่งพูดถึงเรื่องนี้ ยิ่งเหมือนว่าตนกำลังอ่อนแอลง เซี่ยหลิ่งเฟยจึงเปลี่ยนเรื่อง “ท่านปู่บอกเสมอว่าในเมื่อท่านพ่อยังมีชีวิตพวกเราก็ยังพอมีหวัง ในเมื่อท่านแม่ไม่อยู่แล้ว ท่านปู่ก็ยังอยากให้ข้ารอจนกว่าจะหาวิธีล้างมลทินให้ท่านพ่อได้”

เรื่องล้างมลทินเป็นอีกเหตุผลที่เจียงซูเจ๋อคิดอยากทำมาตลอด เพราะตลอดเจ็ดปีมานี้ เขาเองก็หาหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของสกุลเซี่ยเช่นกัน แต่ทว่า ตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจในประโยคของเซี่ยหลิ่งเฟยคือคำว่า ‘ท่านปู่’ มากกว่า

“ท่านปู่?”

เซี่ยหลิ่งเฟยตอบ “เจ้าสำนักคุ้มภัย ซ่งเถียนขอรับ”

“อ้อ” เจียงซูเจ๋อพยักหน้าเข้าใจ ตอนนี้เขาเพิ่งสังเกตเห็นอาภรณ์ที่ชายหนุ่มสวมใส่ เป็นเนื้อผ้าชั้นดี ทั้งสีและลวดลายไม่ธรรมดา “ดูเหมือนเจ้าสำนักซ่งจะเมตตาเจ้ามาก ดีแล้วละ ดีแล้ว”

“บอกท่านอาตามตรง เจ้าสำนักคุ้มภัยวิหคเหินตอนนี้คือข้าขอรับ”

เจียงซูเจ๋อมีสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะพยักหน้ายิ้ม “ดีเหลือเกิน”

เซี่ยหลิ่งเฟยยิ้มบนมุมปาก แต่ชั่วอึดใจต่อมา เสมือนว่าเขานึกอะไรได้จึงเอ่ยถาม “ท่านอาเจียง ข้ามีบางเรื่องอยากถามท่าน”

เจียงซูเจ๋อพยักหน้าอนุญาต “ว่ามา”

“จิวอิน นางมีชายคู่หมายหรือยังขอรับ”

พลันนั้น เจียงซูเจ๋อมีสีหน้าเครียด น้ำเสียงยามเอ่ยออกมาก็เครียดเช่นเดียวกัน “มีแล้ว และข้าก็กำลังรอชายคู่หมายของนางมาสู่ขอนางอยู่เช่นกัน”

ได้ยินคำตอบ หัวใจของชายหนุ่มหดเกร็ง หัวคิ้วขมวดยุ่งโดยที่เขาไม่รู้ตัว และต่อให้เจียงซูเจ๋อไม่จับสังเกต สีหน้าของเซี่ยหลิ่งเฟยล้วนแสดงความรู้สึกออกมาทั้งหมดแล้ว

“เจ้าไม่พอใจรึ?” เจียงซูเจ๋อถาม

“บอกท่านอาตามตรง ข้าไม่พอใจขอรับ”

“เจ้าหายไปเจ็ดปี มีสิทธิ์อะไรไม่พอใจ” สิ่งที่เจียงซูเจ๋อถามนั้นไม่ใช่คำถามประชดประชัน หรือต่อว่า แต่เขาถามถึงสิทธิ์ที่ต่างฝ่ายต่างมี

“ท่านอาพูดถูกแล้ว ข้าไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจ” เซี่ยหลิ่งเฟยยอมรับว่าตนไม่มีสิทธิ์นั้น เพราะคนที่ก้าวออกจากชีวิตของนางก็คือเขา พูดกันตามตรงแล้ว คนที่เป็นฝ่ายผิดคือเขาไม่ใช่นาง แล้วนี่เขายังจะร้องขอสิ่งใดจากครอบครัวของนางได้อีก ไม่มีเลย!

เงียบอยู่ชั่วครู่ ในที่สุด เจียงซูเจ๋อก็ถอนหายใจออกมา และถามชายหนุ่มว่า “หลิ่งเฟย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดจิวอินอายุยี่สิบสองแล้วถึงยังไม่ได้ออกเรือน”

ชายหนุ่มตอบ “เมื่อครู่ท่านอาเพิ่งบอกว่า กำลังรอคู่หมายของนางอยู่”

“ถูกต้อง” เจียงซูเจ๋อพยักหน้า ก่อนจะถามต่ออีกว่า “และรู้หรือไม่ว่านางรอคอยคู่หมายของนางนานเท่าไรแล้ว”

เซี่ยหลิ่งเฟยส่ายหน้า “ไม่รู้ขอรับ”

คราวนี้เป็นฝ่ายเจียงซูเจ๋อที่ตอบ “จิวอินรอคอยคู่หมายของนางมาตลอดเจ็ดปี ห้าปีแรก ทั้งข้าและฮูหยินต่างปฏิเสธแม่สื่อที่มาสู่ขอนาง เพราะหวังใจว่าคู่หมายของนางจะกลับมา แต่พอเข้าปีที่หกและปีที่เจ็ด จิวอินกลับเป็นฝ่ายปลอบใจข้าและฮูหยินว่า นางไม่จำเป็นออกเรือนก็ได้ ขอเพียงได้อยู่กับบิดามารดา ต่อให้ถูกชาวบ้านครหาว่าเป็นสาวแก่นางก็ไม่สนใจ”

ต่อให้เป็นคนโง่งมที่สุดยังฟังความหมายในประโยคของเจียงซูเจ๋อออก แน่นอนว่าเซี่ยหลิ่งเฟยไม่ใช่คนโง่ แต่กระนั้น เขาก็อยากได้รับคำยืนยันที่กระจ่างกว่านี้

“ท่านอาเจียง คู่หมายของนางแซ่อะไร นามว่าอะไร”

เจียงซูเจ๋อมองหน้าเซี่ยหลิ่งเฟย ขณะตอบว่า “คู่หมายของนางแซ่เซี่ย นามว่าหลิ่งเฟย”

หัวคิ้วของเซี่ยหลิ่งเฟยขมวดเข้าหากัน ยอมรับว่าประหลาดใจอยู่มากทีเดียว แต่ในความประหลาดใจนั้น เขารู้สึกผิดต่อนางเช่นกัน

“ท่านอาเจียง ข้าไม่รู้เรื่องนี้เลย หากรู้เร็วกว่านี้ข้าคงไม่ปล่อยให้นางรอคอยอย่างไร้ความหวังจนถูกชาวบ้านครหา”

“ช่างเถิด นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า” เจียงซูเจ๋อว่า ก่อนจะอธิบายเพิ่ม “ตั้งแต่พวกเจ้ายังเด็ก พ่อของเจ้าได้หมั้นหมายจิวอินให้เจ้าด้วยวาจาเปล่า หากเจ้าอายุครบสิบแปดปีเมื่อใด จะส่งแม่สื่อมาสู่ขอจิวอินทันที พูดไปแล้ว เรื่องนี้เหมือนมีเพียงข้าและพ่อของเจ้าที่รู้ อีกอย่างไม่มีใครคาดคิดว่าเจ็ดปีก่อนจะเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น ทำให้โชคชะตาของบ้านสกุลเซี่ยต้องพลิกผัน ข้าคิดว่าพ่อของเจ้าคงไม่มีโอกาสได้บอกเจ้าในเรื่องนี้ด้วยซ้ำ”

“ถึงอย่างไร ข้าก็ต้องขออภัยท่านอาเจียง” เซี่ยหลิ่งเฟยพูดพร้อมประสานมือ ซ้ำยังทิ้งตัวคุกเข่าคำนับ

เจียงซูเจ๋อรีบประคองไหล่ชายหนุ่มให้ลุกขึ้น “ช่างเถอะๆ เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว ว่าแต่ว่า เจ้าถามเรื่องชายคู่หมายของจิวอิน เจ้าคิดจะมาสู่ขอนางแล้วหรือ”

เซี่ยหลิ่งเฟยลุกขึ้นยืนพลางตอบว่า “ข้ามาเพื่อสู่ขอนาง”

เจียงซู่เจ๋อถามต่อ “แล้วจะส่งแม่สื่อมาสู่ขอเมื่อใด”

เซี่ยหลิ่งเฟยตอบ “แม่สื่อไม่มี แต่พิธีการถูกจัดเตรียมที่สำนักคุ้มภัยวิหคเหินแล้วขอรับ”

“ฤกษ์ยามเล่า?”

“ไม่มีฤกษ์ยาม พร้อมจัดพิธีวันนี้เลยขอรับ”

“เร็วขนาดนี้เชียวหรือ” เจียงซูเจ๋ออุทาน จากนั้นครุ่นคิดเล็กน้อยค่อยพูดต่ออีกว่า “ถ้าเจ้าและทางสำนักคุ้มภัยวิหคเหินไม่มีปัญหาอันใด เจ้าพักอยู่ที่นี่สักคืน ขอข้าและอาหญิงของเจ้าได้พูดกับเจ้าให้หายคิดถึงก่อนไม่ได้หรือ แล้วเจ้าค่อยพาจิวอินไป”

ชายหนุ่มหลุบตาคล้ายกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ ทว่าเพียงชั่วครู่ เขาก็ช้อนตาขึ้นมองผู้อาวุโส ก่อนตอบว่า “ได้ขอรับ”

เจียงซูเจ๋อยิ้ม บอกต่อชายหนุ่มว่า “เช่นนั้นเจ้าก็ไปพบจิวอิน บอกเล่าเรื่องนี้ต่อนางด้วยตัวเองเถอะ ข้าคิดว่านางเองก็อยากพบเจ้าเหลือเกินแล้ว”

ชายหนุ่มตอบรับอีกครั้ง “ขอรับท่านอา”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel