บท
ตั้งค่า

5

“ฉันเป็นภรรยาเขานะคะ” ดุจเดือนเป็นเพียงคนเดียวที่พยาบาลพยักหน้าอนุโลมให้ ทั้งสามถึงได้ตามสาวน้อยไปยืนมองร่างที่ระโยงระยางด้วยสายสารพัดรอบกายกำลังหายใจรวยริน

“พ่อจ๋า!!! พ่อเป็นอะไรคะพ่อ”

“หนูดาว!” ณรงค์พยายามจะมองหน้าลูก และอีกสามคนที่มายืนรอบเตียง เขามีอีกหลายเรื่องอยากจะบอก แต่ก็ไม่อาจจะรวบรวมเรี่ยวแรงเพื่อเอาชนะความเจ็บปวดให้เปล่งเสียงออกมาได้มากมายขนาดนั้น

“ผมฝากลูกๆ ด้วย” อาทิตย์ไม่อาจจะซ้ำเติมคนเจ็บได้ด้วยการบอกข่าวร้ายกับการจากไปของคล้ายเดือนเลย จึงพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น “ไม่ต้องห่วงหรอกรงค์ ฉันจะดูแลให้เป็นอย่างดี”

คนเจ็บพยายามพยักหน้าแต่ก็ทำได้ลำบากยิ่ง “ตะวัน! ช่วยน้า!” แสงตะวันรีบเข้าไปยืนใกล้ๆ อย่างไม่ลังเล โดยมีสาวน้อยยืนอยู่ข้างๆ ผู้พ่อ

“น้าจะให้ผมช่วยอะไรบอกมาได้เลยครับ ผมยินดีทำให้ทุกอย่าง” เพราะนี่จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะได้ทำให้เพื่อนพ่อและกลายมาเป็นเพื่อนต่างวัยของเขาอีกทอด

“หนูดาว!” มือไร้เรี่ยวแรงยกขึ้นมาหา ลูกสาวเลยรีบช่วยจับมือพ่อมากุมไว้ทั้งน้ำตาไหลอาบสองแก้ม ไม่ต่างจากดุจเดือนนัก ที่เสียใจเมื่อสามีที่เลิกลากันมาถึงห้าปีจะมีลมหายใจอยู่ได้อีกไม่นาน

“พ่อจ๋า! หนูดาวอยู่นี่ค่ะ”

“ตะวัน!”

“ผมอยู่นี่ครับ มีอะไรให้ผมช่วยบอกผมได้เลยครับ ผมยินดีทำเพื่อน้าเสมอ” แสงตะวันจับแขนคนเจ็บเอาไว้เพื่อให้รู้ว่าเขายังอยู่ไม่ได้ไปไหนไกล พร้อมกับมองสบตาและตั้งใจฟังในคำขอครั้งสุดท้ายก่อนจากไปของเพื่อนต่างวัยว่าจะเป็นเรื่องอะไรกันแน่

“ตะวัน! น้าฝากลูกกับไร่ด้วย”

“ครับ ไม่มีปัญหาผมจะทำทุกอย่างตามที่น้าตั้งใจไว้” เขารีบรับคำเมื่อเห็นลมหายใจอันรวยรินของคนเจ็บ

“ตะวัน! ช่วยจดทะเบียนกับหนูดาวให้น้าได้มั้ย หนูดาวไม่เหลือใครแล้ว ดูแลหนูดาวด้วย!”

วินาทีนั้น แทบไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจของคนในห้องก็ว่าได้ เมื่อคำขอสุดท้ายของคนใกล้ตายทำเอาทุกคนอึ้งด้วยคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องนี้

“รับปากตะวัน! จดทะเบียนกับหนูดาวเดี๋ยวนี้ ก่อนน้าตาย รับปาก!”

สายตาทั้งสี่คู่หันไปมองกัน แล้วหันไปหาคนเจ็บแทบจะพร้อมกัน “รับปาก! ขอร้อง! หนูดาว! จดทะเบียนเพื่อลูกเอง” สาวน้อยผู้ไร้เดียงสาหันไปหาแม่ด้วยความไม่เข้าใจในความต้องการของพ่อ

“ตะวัน! รับปาก!”

“ได้ครับน้ารงค์ ผมรับปากครับว่าจะทำตามที่น้าต้องการ” เมื่อเห็นคนเจ็บรอคำตอบอย่างทุกข์ทรมาน แสงตะวันเลยรีบรับปากทันที

“ทำเดี๋ยวนี้ ขอร้อง! จะรอ! จะรอ!”

“ครับน้า”

“ตอนนี้! จะรอ!” แล้วณรงค์ก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงด้วยความหายห่วง ขณะที่มือยังมีมือลูกสาวกับมือเพื่อนต่างวัยจับไว้ไม่ห่าง เมื่อเห็นว่าคนเจ็บหลับแล้วจึงค่อยๆ พากันออกจากห้องไป

“ไอ้รงค์คงจะมีเหตุผลบางอย่าง ถึงได้บอกให้แกช่วย” อาทิตย์ออกความคิดเห็น เมื่อเดินไปนั่งอยู่ชุดรับแขกตรงมุมตึก แสงตะวันลำบากใจกับคำขอของเพื่อนต่างวัยไม่น้อยหันไปมองพ่อ สลับกับอีกสองแม่ลูกที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยใบหน้างุนงงสงสัยไม่แพ้กัน

“ผมรู้ครับป๋า น้ารงค์คงห่วงไร่ห่วงรีสอร์ตและคงอยากให้ผมดูแลต่อ” เขาจ้องมองสาวน้อยใบหน้าเหมือนคล้ายเดือนเด็กสาวที่เขามักจะเอ็นดูไม่ต่างจากน้องสาวนัก ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ

“ถ้าน้าดุจเดือนยินดีจะให้ผมตามคำขอน้ารงค์ ผมก็อยากบอกให้สบายใจไว้ก่อนนะครับว่า ผมจะจดทะเบียนและมีความเกี่ยวข้องกันเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น พอลูกสาวน้าเรียนจบปริญญาและด้วยเกรดเฉลี่ยรวมไม่ต่ำกว่าสามผมยินดีจะหย่าให้ แล้วคืนกิจการทุกอย่างให้ไปบริหารเองครับ”

“หนูดาวล่ะลูก อยากทำตามที่พ่อขอไว้หรือเปล่า”

ดุจเดือนห่วงทั้งสามี แต่ก็ห่วงลูกสาวที่เหลือเพียงคนเดียวด้วยเช่นกัน จึงหันไปหาเพื่อยกการตัดสินใจนี้ให้ลูกเพียงคนเดียว “หนูดาวไม่รู้ค่ะแม่”

แต่สาวน้อยก็ไม่อยู่ในภาวะจะตัดสินใจอะไรได้โดยไม่มีคำแนะนำของแม่เช่นกัน อีกทั้งยังมีความเสียใจเป็นอย่างมากกับการจากไปของพี่สาวซึ่งมีสายสัมพันธ์อันเป็นเสมือนหนึ่งเดียวเพราะความเป็นแฝด เรียกว่าใครเจ็บ ใครทุกข์ ใครสุข ใครหัวเราะ หรือร้องไห้

อีกคนก็มักจะรับรู้และซึมซับเอาความรู้สึกเหล่านี้ไปด้วย แม้จะอยู่ห่างไกลกันยังไงก็ตาม และผู้พ่อก็กำลังจะจากไปในเวลาอันใกล้นี้ บวกทั้งอายุก็ยังน้อยมากสำหรับเรื่องอย่างนี้ “ผมรับรองว่าเราจะไม่เกี่ยวข้องกันด้วยเรื่องอะไรก็ตาม ลูกสาวน้าจะเรียนต่อหรือทำอะไรได้ตามปกติ ผมจะเป็นคนดูแลทุกอย่างให้แทนน้ารงค์ พอเรียนจบก็หย่ากัน”

แสงตะวันเลยรีบย้ำอีกรอบพร้อมด้วยอาการหมั่นไส้สองแม่ลูกนิดๆ ว่าจะคิดมากไปทำไมนักหนา กับแค่การจดทะเบียนสมรสเพียงในนามแล้วเอาไปให้คนเจ็บปางตายดูเท่านั้น ตัวเขาเองต่างหากควรเป็นฝ่ายคิดมาก เพราะในชีวิตไม่คิดจะจดทะเบียนกับใครเลยด้วยซ้ำ หลังจากชีวิตการแต่งงานแบบไร้ทะเบียนเมื่อหกปีที่แล้วล้มเหลวลงอย่างไม่เป็นท่า

“ถ้าน้าอนุญาตผมก็ยินดีพาไปอำเภอตอนนี้เลยครับ”

“งั้นหนูดาวก็ทำเพื่อพ่อเป็นครั้งสุดท้ายนะลูก”

“แล้วแต่แม่ค่ะ”

ไม่ถึงสองชั่วโมง แสงตะวันก็พาสองแม่ลูกกลับจากอำเภอตรงไปยังห้องไอซียูอีกครั้ง เพื่อเอาทะเบียนสมรสที่คนเจ็บรอคอยอย่างใจจดจ่อให้ดู “เจ้ารงค์ถามกับป๋าหลายรอบแล้ว รีบๆ เอาเข้าไปให้ดูเลยตะวัน” อาทิตย์รออยู่หน้าห้องรีบกวักมือเรียกลูกชายกับลูกสะใภ้เพียงในนามอย่างคนร้อนใจ

“ขอบคุณนะตะวัน”

ณรงค์จ้องมองหน้าเพื่อนต่างวัยกับลูกสาวด้วยความหายห่วง “ฝากหนูดาวด้วย! อย่าไว้ใจใคร! อย่าไว้ใจ...ใคร อย่า...ไว้...ใจ...ใคร...”

“พ่อจ๋า!!!” สาวน้อยร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจเมื่อพ่อไม่ไหวติงใดๆ อีกต่อไปแล้ว นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เหมือนดาวได้เห็นพ่อขณะยังมีลมหายใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel