5 หนูไม่ได้ขาย
ปุณณิศามาทำงานที่ผับได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ในแต่ละคืนเธอได้เงินพิเศษสามพันกว่าบาท บางคืนก็ได้เกือบห้าพัน ถ้าได้เงินดีแบบนี้อีกไม่นานก็คงจะมีเงินไปคืนเจ๊น้ำได้อย่างแน่นอน
“ปุณ แขกที่ชั้นวีไอพีแรกขึ้นไปน่ะ” เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเดินมาตามเธอที่เพิ่งได้นั่งพักหลังจากชงเครื่องดื่มให้แขกตั้งแต่ร้านเปิดจนถึงตอนนี้ก็ตีหนึ่งกว่าเข้าไปแล้ว
“ขอบใจนะหวาน” ปุณณิศายิ้มให้เพื่อนร่วมงานก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของผับ
หญิงสาวเดินขึ้นชั้นสองซึ่งตอนนี้เหลือแขกเพียงแค่สองโต๊ะเท่านั้น โต๊ะหนึ่งเป็นเพื่อนของคุณเมคินเจ้าของร้าน ส่วนอีกโต๊ะเป็นชายวัยกลางร่างท้วมที่นั่งดื่มอยู่คนเดียว
“สวัสดีค่ะ” ปุณณิศายกมือไหว้ก่อนจะนั่งลงข้าง
“มาทำงานใหม่เหรอ เสี่ยไม่เคยเห็นหน้าเลย”
“ค่ะ หนูเพิ่งมาทำได้อาทิตย์เดียวเองค่ะ เสี่ยชอบดื่มแบบไหนคะเดี๋ยวหนูจัดการให้”
“หนูก็ลองเดาใจเสี่ยดูสิ”
“ได้ค่ะ” ปุณณิศาชงเหล้าให้แขกเข้มกว่าปกติอย่างที่ได้รับการฝึกมา
“มันเข้มไปหน่อยเหรอหนู” เสี่ยบรรจงมองแก้วเครื่องดื่มที่สีเข้มสลับกับใบหน้าหวานของคนชง
“แบบนี้ไม่เข้มไปหรอกค่ะ หนูรู้ว่าคนอย่างเสี่ยต้องชอบอะไรที่มันเข้มๆ ไม่เหมือนกับพวกวัยรุ่นอ่อนหัดที่เพิ่งจะเคยกินเหล้าเป็นครั้งแรกที่ใส่เหล้าแค่นิดไม่ต่างอะไรกับกินน้ำเปล่า”
เสียงหวานออดอ้อนอย่างประจบ ทำให้เสี่ยยิ้มแล้วรับแก้วไปดื่ม ปุณณิศาชงเหล้าให้เสี่ยบรรจงอีกไม่กี่แก้ว เสี่ยก็เริ่มจะเมาได้ที่
“เดี๋ยวร้านจะปิดแล้วหนูออกไปต่อกับเสี่ยเลยดีไหม เสี่ยคุยกับหนูแล้วชักติดใจอยากจะไปคุยกันต่อข้างนอก”
“ไม่ดีกว่าค่ะ เสี่ยเมามากแล้วหนูว่าเสี่ยกลับไปพักดีกว่าไหมคะ” ปุณณิศาพยายามทำใจดีสู้เสือ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอกับแขกเมาแล้วพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้
“เมาที่ไหน เสี่ยน่ะคอแข็งจะตาย” เสี่ยเมาจนแทบประคองตัวไม่อยู่แต่ก็ยังอยากจะชวนเธอออกไปข้างนอก
“แต่วันนี้หนูไม่สะดวกค่ะเสีย”
“ไม่สะดวกหรือเล่นตัวกันแน่จ้ะ อยากได้เท่าไหร่ บอกมาเลยเสี่ยจ่ายไม่อั้น” เสี่ยบรรจงมองหญิงสาวด้วยสายตาหื่นกระหาย และคิดว่าคืนนี้จะต้องพาเธอกลับไปด้วยให้ได้เพราะรูปร่างหน้าตาแบบนี้มันถูกใจเขามากกว่าทุกคนที่เคยเจอ
“เสี่ยขาหนูไม่ได้เล่นตัวนะคะ แต่หนูแค่มาชงเหล้าค่ะ ถ้าเสี่ยอยากหาคนออกไปข้างนอกด้วย ด้านล่างก็มีน้องคอยให้บริการอยู่นะคะ” ปุณณิศาปฏิเสธอย่างสุภาพ ก่อนจะรีบลุกขึ้นเพราะตอนนี้มือของเสี่ยเริ่มจะอยู่ไม่นิ่ง
“จะชงเหล้าหรือจะขายตัวมันก็เหมือนก็นั่นแหละ ทำเป็นเล่นตัวไปได้” เสียบรรจงเริ่มโวยวายจนคนหันมามอง
“คนอื่นจะเป็นแบบไหนหนูไม่รู้ แต่หนูแค่มาชงเหล้าหนูไม่ได้ขาย” ปุณณิศาพูดจบก็รีบวิ่งลงไปยังชั้นล่างทันที
“ปุณทำไม่วิ่งลงมาอย่างนี้ล่ะ ทำไมไม่อยู่ดูแลแขก” เมคินเห็นเด็กสาววิ่งลงมาก็ถามอย่างสงสัยเพราะเขารู้ว่าเสี่ยบรรจงชอบเพิ่งเรียกปุณณิศาขึ้นไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“เสี่ยเขาจะชวนปุณออกไปต่อ แต่พอปุณไม่ยอมเขาก็โวยวายหาว่าหาปุณเล่นตัว ปุณบอกเขาแล้วว่าไม่ได้รับงานแบบนั้น ถ้าอยากหาคนออกไปข้างนอกด้วยก็ให้ลงมาเลือกข้างล่าง แต่เขาก็ไม่ยอม” ปุณณิศารีบบอกเจ้านาย เพราะเธอตกลงกับเขาตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานแล้วว่าจะไม่ออกไปกับแขก ถึงแม้จะรู้ว่าออกไปแบบนั้นจะได้เงินมาก็ตาม
“อือ เดี๋ยวฉันจัดการต่อเอง”
“คุณเมคินจะไม่ไล่ปุณออกใช่ไหมคะ” ถ้าถูกเขาไล่ออกตอนนี้เธอคงลำบากแน่ๆ
“เห็นฉันเป็นคนใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เปล่าค่ะ ปุณก็แค่กลัว”
“ไม่ได้ทำผิดอะไรนี่จะกลัวไปทำไง นี่ก็ใกล้เลิกงานแล้วเตรียมกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวเรื่องแขกฉันจัดการเอง” เมคินบอกปุณณิศา ก่อนที่ตัวเองจะขึ้นไปจัดการกับเสี่ยบรรจงซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งแรก เขาถึงไม่โกรธที่ปุณณิศาปฏิเสธแขกและวิ่งหนีลงมา
เมคินขึ้นมาชั้นสองยังไม่ทันได้คุยกับเสี่ยบรรจงเขาก็เมาจนคอพับไปแล้ว
“อ้าว หลับไปแล้ว สันติ พี่ฝากจัดการต่อหน่อยนะ คนขับรถของเสี่ยน่าจะรออยู่ข้างนอก” เขาสั่งพนักงานเสิร์ฟผู้ชายช่วยจัดการ
“ครับคุณเมคิน”
ชายหนุ่มเจ้าของผับส่ายหัวก่อนจะเดินมายังอีกมุมของชั้นสองที่ตอนนี้เพื่อนของเขานั่งดื่มอยู่สามคน
“เด็กร้านนายชงเหล้าเก่งเป็นบ้าเลยว่ะ” คนที่นั่งสังเกตอยู่นานบอกกับเจ้าของผับ
“แน่ล่ะ สิ ถ้าชงไม่เก่งจะรอดมือเสี่ยบรรจงไหมล่ะ เสี่ยนั้นเจ้าชู้จะตาย” เมคินตอบ
“เด็กใหม่เหรอ เพิ่งเคยเห็น” ชานนท์ถามเจ้าของผับ
“อือ เพิ่งมาทำงานได้อาทิตย์เดียวเอง แขกติดกันเยอะเลย น้องเขาช่างเอาใจ”
“เหรอ แต่ที่เห็นเมื่อกี้เขาวิ่งหนีลงไปนะ” ชานนท์สะดุดตาเธอตั้งแต่เดินขึ้นมาชั้นสองเขาเลยสังเกตอยู่ตลอด
“ก็เสี่ยจะพาออกไปต่อ แต่น้องมันไม่ไป”
“ทำไมท่าทางเสี่ยกระเป๋าหนักน่าดูเลย” ปกป้องถามเพราะเรื่องแบบนี้มันเกินขึ้นได้เสมอ ยิ่งกระเป๋าหนักเท่าไหร่โอกาสที่จะพาใครสักคนกลับออกไปด้วยกันหรือจะพากันขึ้นไปยังชั้นสามของผับมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
“เด็กมันขอแค่ชงเหล้ากับดูแลแขกในร้านอย่างเดียว”
“แน่เหรอ ก็เห็นหลายคนก็พูดแบบนี้นะ” ชานนท์แทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เมคินบอก
“คนนี้ยังไม่เคย”
“เขาจะอัพค่าตัวหรือเปล่า”
“ไม่รู้สิ ทำไมถามเยอะจังวะนนท์หรือสนใจ”
“กูว่ามันสนใจแหละ นั่งมองน้องตาไม่กะพริบเลยคนอะไรทั้งขาวทั้งสวย หุ่นน่าฟัดมาก”
“มึงก็จ้องน้องเขาเหมือนกันใช่ไหมล่ะไอ้หมอก” ชานนท์ถามอย่างรู้ทันเพราะเขาเห็นว่าเพื่อนของตนจ้องอยู่เหมือนกัน
“ถ้ามึงสนใจกูจะลองถามดูนะ หล่อๆ อย่างมึงน้องอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”
“อย่าหาเรื่องให้กูเลย แค่เรื่องที่กูเจออยู่ตอนนี้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว”
“เรื่องอะไรวะกูเห็นมึงทำหน้าบอกบุญไมรับตั้งแต่เดินเข้าร้านมาละ” ปกป้องถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“เฮอ...” ชานนท์ถอนหายใจ
“สงสัยจะเรื่องใหญ่ว่ะ” นิธิกรมองหน้าเพื่อนที่วันนี้ดูจะเครียดกว่าทุกวัน
“อือ ก็ใหญ่พอตัวแหละ พวกมึงอย่ารู้เลย เดี๋ยวจะเครียดตามกูไปอีกคน”
“เล่ามาเหอะน่า พวกเรามีกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิด” เมคินก็รู้สึกห่วงเพื่อนไม่น้อยเพราะปกติแล้วชานนท์จะดูร่าเริงกว่านี้โดยเฉพาะเวลาที่ได้ออกมาดื่มเหล้ากับเพื่อน