บทที่ 9 เห็นแก่ความสัมพันธ์ในคืนนั้น
“ไม่พบ”นคินทร์ผลักประตูห้องทำงานออก “ชงกาแฟให้ผมแก้วหนึ่ง”
พูดจบก็เดินตรงไปที่โต๊ะทำงาน
“คุณภูพูดว่า คุณไม่พบ วันนี้เขาก็จะไม่ไปไหนแล้ว”
นคินทร์หันหน้ากลับมามองเลขานุการแวบหนึ่งแล้ว
เลขานุการก้มหน้าลงทันที
“งั้นก็พามาเถอะ”เขานั่งลง ยื่นมือไปแกะกระดุมสูทออก
โดยเร็วเลขานุการก็ยกกาแฟมา พาภูผาเข้ามาแล้ว
บนใบหน้าของภูผาเต็มไปด้วยความโกรธ เอ่ยปากออกมาถามอย่างสงสัย “ผู้หญิงคนนั้น คุณหามาจากที่ไหน?”
นคินทร์ยกกาแฟขึ้นมา ให้เลขานุการออกไป พูดจบ จึงได้เงยหน้ามองภูผาแวบหนึ่งแล้ว
“คุณดูสิบาดแผลที่ให้ผมมา?”ภูผาชี้ไปที่ลำคอ ชัดเจนมากว่ามีรอยบาด ข้อมือมีผ้าก๊อซพันเอาไว้ “อีกนิดเดียว ก็จะตัดขาดเส้นเอ็นมือของผม”
สายตาของนคินทร์จากบาดแผลของภูผา มองผ่านไป ภายในใจรู้สึกดีอย่างมาก
ทั้งที่ทราบดียังจงใจถามออกมา “เกิดอะไรขึ้น?”
ภูผานึกถึงยังหวาดกลัว “ผู้หญิงคนนั้นกระนั้นเอามีดไปด้วย? วิธีการใช้เชี่ยวชาญจนทำให้คนอึ้งทึ่ง ผมไปโรงพยาบาล หมอพูดว่า อีกนิดเดียวก็จะตัดเข้าที่เส้นเลือดใหญ่ของผมแล้ว ไม่ได้เพลิดเพลินกับหญิงงาม ตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด ผมจึงอยากจะถามคุณ ผู้หญิงคนนั้นหามาจากไหน?”
นคินทร์ได้ฟังว่าเขาไม่ได้เอาเปรียบฟารินดา รู้สึกดีอย่างมาก ร่างกายค่อยๆพิงไปที่ด้านหลัง พิงพนักพิง บนใบหน้ายังคงเย็นชาดังเดิม “จะหาเธอทำไมกัน?”
“แก้แค้นน่ะสิ”
ภูผาเคยเสียเปรียบแบบนี้เมื่อไหร่กัน?
สำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตของฟารินดา เขาไม่ได้ทำความเข้าใจ ยังไม่ทราบจริงๆ
“คิดอยากจะแก้แค้น คุณไปหาเอง”
ภูผา “……”
“ช่างเถอะ ผมจะคิดหาวิธีเอง ทำให้ผมหาเธอเจอ ผมจะจัดการมือเธอทิ้งเสียก่อน ดูสิว่าเธอยังจะกล้าลงมือกับผมไหม!”
เขาพูดออกมาอย่างเคียดแค้น
ในโรงพยาบาล ฟารินดาออกมามาจากห้องตรวจ หนาวสั่นขึ้นมา รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างประหลาด
นี่มีใครสาปแช่งเธอหรือเปล่า?
“หมอฟา งานเลี้ยงส่งหมอนิสาในคืนวันนี้ สองทุ่มที่โรงแรมกรีนไนน์โซนB คุณอย่าลืมมานะ”
มีเพื่อนร่วมงานมองเห็นฟารินดา จึงเตือนออกมาหนึ่งประโยค
มือทั้งสองข้างของฟารินดาสอดอยู่ในกระเป๋าเสื้อกาวน์ ส่งเสียงอืมแสดงการตอบรับแล้ว ภายในใจนั้นไม่อยากจะไปอย่างมาก
นึกถึงความสัมพันธ์ของนคินทร์กับนิสา
ภายในใจก็เย็นวาบ
ตอนกลางคืนสองทุ่ม ฟารินดามาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงส่ง
ในขณะที่เธอกำลังจะเข้าไป มองเห็นที่หน้าประตูมีรถมาจอดสองคัน
นิสาลงมาจากบนรถ ตามด้วยนคินทร์
เธอรีบหลบอยู่หลังเสาอย่างรวดเร็ว
เธอแอบยื่นศีรษะออกไป ทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกันมองดูแล้วเหมาะสมกันอย่างมาก นคินทร์คนนี้คือยังชอบนิสาจริงๆ งานแบบนี้ต่างยินยอมมา
งานเลี้ยงส่งในวันนี้ คนในโรงพยาบาลทุกคนราวกับว่าต่างจะมาร่วมงาน?
“ขอบคุณนะคะที่วันนี้คุณสามารถมาได้”นิสาแต่งหน้าอย่างงดงามแล้ว สวมชุดราตรีที่สง่าอย่างมาก เวลาพูดจา แฝงไปด้วยความเขินอาย
นคินทร์พูดว่า “พวกเราเป็นเพื่อนกัน”
เขายินยอมมาร่วมงานแบบนี้ เพียงเพราะว่า เห็นแก่ความสัมพันธ์ในคืนนั้น
นิสาอยากจะใกล้ชิดกับเขาให้มากขึ้นสักหน่อย แต่ว่าคำพูดที่ตัวเองเคยพูด กลายเป็นอุปสรรคของทั้งคู่ในตอนนี้ไปแล้ว เธอทำได้เพียงรักษาความเหมาะสม “พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
หลังจากพวกเขาเดินไปแล้ว ฟารินดาจึงได้ออกมาจากหลังเสา
ต้องเผชิญหน้ากับนคินทร์ ภายในใจของเธอต่อต้านอย่างมาก คิดไปคิดมาเธอตัดสินใจโทรศัพท์หานิสา อธิบายสักหน่อย พูดว่าตัวเองนั้นมีธุระด่วนมาไม่ได้แล้ว
เธอล้วงโทรศัพท์ออกมา ในขณะที่กำลังจะโทรออก มีเพื่อนร่วมงานเดินเข้ามา ส่งเสียงเรียกเธอแล้ว “หมอฟา”
นิสาที่อยู่ด้านหน้าหันหน้ากลับมา
ฟารินดาถือโทรศัพท์อยู่ในมือ แข็งทื่อไปแล้ว ไม่ทันระวังกดโทรออกแล้ว กว่าเธอจะได้สติขึ้นมา โทรศัพท์ของนิสาก็ได้ดังขึ้นแล้ว
เธอวางสายโทรศัพท์ ยิ้มออกมาอย่างเหยเก “ต้องขอโทษด้วยค่ะ กดผิดแล้ว”
น้ำเสียงราวกับว่ามีความคุ้นเคยอยู่บ้าง นคินทร์หันหน้ากลับมา ก็มองเห็นฟารินดายืนอยู่ไม่ไกล ในมือถือโทรศัพท์อยู่ ลักษณะท่าทางน่าขันอยู่บ้าง
คิ้วซ้ายกระตุกขึ้นมาแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นหมอของโรงพยาบาลรักษ์ประชา
นิสายิ้มอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรค่ะ”
ระหว่างที่พูด เธอเข้าใกล้นคินทร์มากขึ้นบ้างแล้ว
ฟารินดาด้วยความต้องการของนคินทร์ที่มีต่อเธอ อยู่ด้านนอกไม่สามารถแสดงสถานะความเป็นภรรยาของเขาได้ จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้จัก
“ท่านนี้ คือแฟนหนุ่มของคุณ?”เธอยิ้มแย้ม ดวงตาสุกใสคู่นั้นดั่งน้ำ สะอาดบริสุทธิ์ เป็นประกาย
นิสาไม่อธิบาย จึงทำให้คนเข้าใจว่าใช่
นคินทร์ก็ไม่ได้จงใจปฏิเสธ ราวกับว่าจะดูสิว่าฟารินดาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร สายตามองมาที่เธอ
ฟารินดายิ้มแย้มชื่นชมออกมาว่า “พวกคุณคือหนุ่มหล่อสาวสวย เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเสียจริง คู่สร้างคู่สม”
ไม่รู้ว่าทำไม นคินทร์มองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ อยากจะทำลายลงอย่างมาก!
ฟารินดาทราบว่าภายในใจของนคินทร์นั้น ‘ชั่วร้าย’ขนาดไหนเธอจึงเดินออกไปก่อนแล้ว “ฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้ว คุณผู้ชาย”
เธอดึงเพื่อนร่วมงานที่เรียกเธอในเมื่อสักครู่เอาไว้ ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หลังจากเดินออกไปได้สักระยะ เพื่อนร่วมงานคนนั้นก็พูดเสียงเบาว่า “ผู้ชายคนนั้น ประธานบริษัทของทีจีกรุ๊ป ยังหนุ่มมีความสามารถ น่าอิจฉาหมอนิสาเสียจริง มีวาสนาเช่นนี้ ได้คบหากับผู้ชายแบบนี้”
ฟารินดาไม่ได้ร่วมวง
เพื่อนร่วมงานพูดออกมาอีกว่า “คุณพูดซิบนโลกใบนี้ทำไมถึงได้มีผู้ชายที่แสนเพอร์เฟคขนาดนี้? ร่ำรวย หล่อเหลา ยังมีรูปร่าง……”
“คุณทราบได้อย่างไรว่าเพอร์เฟค? ไม่แน่อาจจะวิปริตก็ได้”ฟารินดาทนไม่ไหวจริง เมื่อนึกถึงการกระทำที่เขาเกือบจะบีบคอตัวเองตาย พูดว่าเขาวิปริต ต่างเป็นการชื่นชมเขา
เพื่อนร่วมงานอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้แล้ว
ไม่อาจไม่พูดนิสานั้นถือว่าได้หน้าอย่างมาก แม้แต่ผู้อำนวยการยังมาแล้ว คนในโรงพยาบาลบนๆล่างๆคือมากันครบ โต๊ะงานเลี้ยงโซนBทั้งหมดต่างเหมาแล้ว
“หมอฟา นั่งที่โต๊ะนี้กันเถอะ”
ฟารินดาอยากจะเดินไปยังโต๊ะที่อยู่ตรงมุมสุด ก็ถูกผู้อำนวยการเรียกเอาไว้แล้ว
เธอหันกลับมามองแวบหนึ่งแล้ว นคินทร์กำลังจ้องมองเธออยู่
เธอยิ้มแย้มกับผู้อำนวยการในทันที “ฉัน……”
“มาเถอะ”ผู้อำนวยการดึงเธอนั่งลงมาอย่างนั้นแล้ว
เธอไม่อาจไม่นั่งอยู่ที่นี่ กลับเหมือนดั่งนั่งบนเข็ม
อีกทั้งเธอยังไม่กล้าเงยหน้า
“หมอฟากับหมอนิสาเป็นเพื่อนร่วมชั้นยังเป็นเพื่อนร่วมงาน หมอนิสากำลังจะไปที่โรงพยาบาลใหญ่ คุณควรที่จะชนแก้วกับเธอสักแก้ว” ผู้อำนวยการยังชนแก้วกับฟารินดาสักหน่อยแล้ว
“เธอดื่มไม่เป็น”
นคินทร์เอ่ยปากออกมาอย่างกะทันหัน
กลับทำให้ทุกคนอึ้งไป เธอดื่มไม่เป็น นคินทร์ทราบได้อย่างไร?
ฟารินดาก็ประหลาดใจ เธอมองขึ้นมา ยิ้มกับนคินทร์อย่างเหยเกแล้ว
มือที่วางอยู่ใต้โต๊ะ กำแน่นเข้าด้วยกันแน่นแล้ว
เขาคิดอยากจะทำอะไรอีก!??
นิสารู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง แต่ว่าก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ นึกว่าตัวเองฟังผิดไปแล้ว
“อาชีพการงานของพวกเราไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ ฉันกับหมอฟามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ต่อไปให้ไปแล้ว ก็จะคิดถึงเธอ”นิสาตั้งแต่เริ่มแรกจนจบ บนใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ ยิ่งแสดงออกมาอย่างใจกว้างและสง่างาม
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของนคินทร์ก็ดังขึ้นมาแล้ว เขารับสาย
ไม่รู้ว่าทางด้านโน้นพูดว่าอะไร ได้ยินแค่เขาพูดว่าผมเข้าใจ ก็วางสายโทรศัพท์แล้ว
เขาพึ่งจะวางโทรศัพท์ลง โทรศัพท์ของฟารินดาก็ดังขึ้นมาแล้ว เธอกดรับสาย เสียงของพ่อบ้านชาติดังมาจากทางด้านโน้น “คุณฟา คุณมาที่คฤหาสน์หลังเก่าสักหน่อย คุณท่านอยากพบคุณ ตอนนี้”
ฟารินดาตอบรับแล้ว “ค่ะ”
วางโทรศัพท์ลง เธอจึงพูดกับนิสาว่า “ฉันมีธุระด่วน ต้องขอตัวก่อน ฉันใช้ชาแทนเหล้า อวยพรให้คุณราบรื่นทุกประการ”
พูดจบจึงยกชาที่อยู่บนโต๊ะดื่มลงไปแล้ว
เธอลุกขึ้นมา ในขณะเดียวกัน สายตาของนคินทร์มองมาที่เธอ ที่มุมปากกระตุกยิ้ม “บังเอิญมาก ผมก็มีธุระ เอาอย่างนี้ไหมไปด้วยกัน?”
ฟารินดา “……”
ไม่รู้ว่าทำไม มองดูท่าทางของฟารินดาที่ทำเป็นไม่รู้จักกับตัวเองนั้น ภายในใจของเขารู้สึกไม่พอใจ
เขานั้นอยากจะดูสิว่า เธอจะสามารถเสแสร้งได้ถึงเมื่อไหร่
สายตาของทุกคนต่างรวมมาที่ฟารินดา