บทย่อ
ฟารินดาแต่งงานแล้ว แต่เจ้าบ่าวกลับไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นเลยสักครั้ง ภายใต้ความโกรธ เมื่อถึงคืนเข้าหอวันแต่งงาน เธอปล่อยตัวไปมีอะไรกับชายแปลกหน้า มอบครั้งแรกให้กับเขา ต่อมาผู้ชายคนนี้ก็เข้ามาพัวพันในชีวิตของเธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด......
บทที่ 1 ทำเรื่องที่ทรยศที่สุด
ฟารินดาแต่งงานแล้ว เจ้าบ่าวตั้งแต่แรกเริ่มจนจบไม่แม้แต่จะปรากฏตัว
ชุดเตียงนอนสีแดง ตัวอักษรซังฮี้มงคลที่อยู่บนกำแพง สีสะดุดตาราวกับว่าฟาดลงบนใบหน้าของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
อัปยศอดสู!ไม่สบายใจ!?
แต่แล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะ?
ตั้งแต่เกิดมา ชีวิตของเธอต่างก็ถูกกุมอยู่ในมือคนอื่น รวมถึงการแต่งงาน
แต่งเข้าตระกูลจุฑาเทววงษ์ ก็เป็นเพียงเพราะความโลภมากของบิดาของเธอ
คุณปู่ของเธอเคยเป็นคนขับรถของท่านพฤกษ์ ครั้งหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพื่อช่วยชีวิตท่านพฤกษ์จึงเสียชีวิตแล้ว
ในตระกูลเปิดบริษัทเล็กๆ แบกภาระหนี้สินอันมหาศาล กำลังเผชิญหน้ากับการล้มละลาย พ่อที่ฉลาดหลักแหลมทราบว่าเมื่อเอ่ยปากต้องการเงินกับตระกูลจุฑาเทววงษ์ บุญคุณนี้ก็จะใช้หมดแล้ว จากนั้นเขาจึงคิดหาวิธีการการเอาเปรียบผู้อื่นแล้วตัวเองได้ผลประโยชน์อย่างหนึ่งออกมา ยื่นข้อเสนอขอให้นคินทร์หลานชายของท่านพฤกษ์แต่งงานกับเธอ
ด้วยความร่ำรวยของตระกูลจุฑาเทววงษ์เช่นนี้ สามารถให้สินสอดก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งได้อย่างแน่นอน
ทั้งยังสามารถเกี่ยวดองกับตระกูลจุฑาเทววงษ์ได้
ตระกูลจุฑาเทววงษ์เนื่องจากความมีหน้ามีตา ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
การแต่งงานครั้งนี้ทำได้นคินทร์ไม่พอใจอย่างขีดสุด ดังนั้นในการแต่งงานของสองตระกูล ต่างไม่ปรากฏตัว พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอออกมา ไม่ยินยอมให้เธอแสดงสถานะความเป็นภรรยาของเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าคนข้างนอก
เรื่องราวทั้งหมด ไม่มีคนถามเธอว่ายินยอมหรือไม่ยินยอม
เธอทำได้เพียงเบิกดวงตาอันเป็นประกาย ขนตาอันงอลงามที่สั่นไหวเบาๆ แอบซ่อนความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้
ในขณะที่เธอไม่รู้ว่าจะผ่านค่ำคืนการแต่งงานใหม่ในคืนแรกไปอย่างไร ได้รับข้อความจากเพื่อนร่วมงานแล้ว
ขอความช่วยเหลือให้เธอเข้าเวรแทน
เธอเรียกรถมาถึงโรงพยาบาล
ชุดแต่งงานสีแดง เปลี่ยนเป็นชุดเสื้อกาวน์สีขาวแล้ว
เสียงดังปังดังออกมา ประตูห้องประจำเวรถูกผลักออกอย่างแรงในทันใด
เธอพึ่งจะเงยหน้าขึ้นมา ได้ยินเพียงเสียงกริ๊ก ไฟในห้องก็ดับลงแล้ว
ฟารินดาตกใจเสียจนเหงื่อตกขนลุกขึ้นมา
“ใครกัน……”
คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกกดลงบนโต๊ะแล้ว เสียงดังเค้งค้างสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะต่างร่วงลงมา มีดอันเฉียบคมด้ามหนึ่งจ่ออยู่ที่คอของเธอแล้ว ข่มขู่ออกมาว่า “อย่าส่งเสียง!”
ภายใต้ความมืดสลัวเธอมองเห็นเพียงใบหน้าของผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยเลือดกับแววตาอันเย็นชาคู่หนึ่ง
ปลายจมูกได้กลิ่นคาวเลือดอันเข้มข้น เธอทราบผู้ชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บแล้ว
เป็นไปได้ว่าเกี่ยวกับการงานอาชีพ ถูกฝึกมาเมื่อพบเจอปัญหาให้ใจเย็น
เธองอขาขึ้นเบาๆ ลองโจมตีจุดอ่อนของผู้ชาย ทว่าหลังจากนั้นเธอพึ่งจะขยับตัวผู้ชายก็รู้ตัว ออกแรงหนีบขาทั้งสองข้างที่อยู่ไม่นิ่งของเธอ
“ผมมองเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาวิ่งมาทางนี้แล้ว”
เสียงก้าวเท้าเดินใกล้เข้ามาที่หน้าประตู
ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็จะเปิดประตูออกในเร็วๆนี้
ภายใต้สภาวะฉุกเฉิน ผู้ชายก้มลงจูบไปบนริมฝีปากของเธอ
ฟารินดาขัดขืน ผลักผู้ชายออกอย่างง่ายดาย เขาไม่ได้ใช้อาวุธที่อยู่ในมือทำร้ายตัวเธอ
เธอตะลึงงันไปแล้ว
แกร๊ก!
เวลานี้ลูกบิดถูกบิด
ฟารินดาหวั่นใจ เงยหน้าขึ้นมา เธอโอบลำคอของผู้ชายมาจูบ
น้ำเสียงของเธอสั่นเทา กลับแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง “ฉันสามารถช่วยคุณได้”
ลูกกระเดือกของผู้ชายเคลื่อนไหว วินาทีต่อมากลับกลายเป็นผู้ถูกกระทำเสีย ลมหายใจร้อนรดลงข้างใบหูของเธอ แหบพร่าทว่าเซ็กซี่ “ผมจะรับผิดชอบคุณอย่างแน่นอน”
ไม่ เขาเข้าใจผิดแล้ว เธอเพียงแค่แสร้งทำการแสดง
ในวินาทีที่ประตูถูกผลักออกนั้น
เธอเรียนรู้จากละครทีวีส่งเสียงครางออกมา ในเสียงนั้นของลมหายใจหอบแอบแฝงไปด้วยความออดอ้อนความมีเสน่ห์ ทำให้ชายหนุ่มเกิดความหลงใหลแล้ว
ยิ่งทำให้คนที่หน้าประตู ฟังเสียจนใจสั่นไหวขึ้นมา
“โอ้ว้าวกำลังเปิดศึก แอบมีความสัมพันธ์กันในโรงพยาบาล ช่างน่าหวาดเสียวเสียจริง”
ประตูห้องถูกเปิดออก แถบแสงขนาดกว้างส่องเข้ามา แสงไฟจากทางเดินส่องเข้ามาหนึ่งแถบ ส่องลงบนร่างกายของฟารินดา ร่างของชายหนุ่มกดอยู่บนร่างของเธอ ปิดกั้นการสอดแนมของผู้ชายที่หน้าประตูเอาไว้ ภายใต้แสงอันมืดสลัว มองเห็นเพียงร่างที่สอดประสานกันทำให้คนเลือดสูบฉีด
“ไม่มีทางเป็นนคินทร์อย่างแน่นอน เขาบาดเจ็บขนาดนั้น มอบสาวงามให้เขาก็ไม่ทางเพลิดเพลินได้”
“แม่สาวคนนี้ช่างครางเสียงดังเสียจริง”
“แม่งเอ๊ยรีบไป ไปหาคน ไม่อย่างนั้นพวกเราต่างต้องตาย!”
เสียงการเสียดสีเบาๆ เสียงการเดินค่อยๆไกลออกไป
ผู้ชายทราบคนกลุ่มนั้นไปแล้ว แต่เขาพบว่าตัวเองควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว ถูกผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ทำให้หิวกระหายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เป็นไปได้ว่าบรรยากาศได้แล้ว หรือเป็นไปได้ว่าลักษณะท่าทางของทั้งสองอบอุ่นเกินไป ความทรยศที่อยู่ภายในใจของฟารินดาที่ไม่กล้าเผยออกมาในวินาทีนั้นระเบิดออกมาในทันใด
ถูกชีวิตซ้ายขวา ทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
เธอใช้วิธีการปล่อยตามใจไปขัดขืน!
ฟารินดาก็ไม่ได้ขัดขวางขืนมากเกินไป ปล่อยไปตามชายหนุ่ม ท่ามกลางความเจ็บปวดส่งมอบครั้งแรกของตัวเอง
……
เรื่องราวหลังจากนั้นชายหนุ่มจูบลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยความแหบพร่า “ผมจะมาหาคุณ” พูดจบก็ออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
ฟารินดาเป็นเวลานานไม่ลุกขึ้น บริเวณเอวเสียดสีกับขอบโต๊ะ เจ็บปวดแสบร้อน
เวลานี้ถูกผลักมายังขอบโต๊ะ โทรศัพท์ที่ยังไม่หล่นลงไปดังขึ้นมา
เธอยื่นมือไปหยิบขึ้นมา เสียงอันรีบร้อนอย่างมากดังมาจากทางด้านโน้น “หมอนิสาแผนกฉุกเฉินทางด้านนี้มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ บาดเจ็บอย่างสาหัสต้องการการช่วยชีวิต คุณรีบมา”
ฟารินดาปรับน้ำเสียง ตอบกลับไปอย่างสุขุม “ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
วางโทรศัพท์ลง สติของเธอนิ่งไปสองสามวินาที เมื่อสักครู่……
เสื้อผ้าที่กระจัดกระจาย ร่างกายด้านล่างที่เหนียวเหนอะหนะ ต่างบอกกับเธอ เมื่อสักครู่ไม่ได้ฝันไป ทุกอย่างต่างเกิดขึ้นจริงแล้ว เธอในคืนวันแต่งงานใหม่กับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง……
เธอที่เป็นภรรยาคนนี้ ทำเรื่องที่ทรยศที่สุดเรื่องหนึ่ง!
แต่ว่าไม่ใช่เวลาที่จะคิดเรื่องนี้ เธอรีบสวมเสื้อผ้าไปที่แผนกฉุกเฉิน
งานยุ่งอยู่ทั้งคืน
กลับมายังห้องประจำเวร ยังเป็นห้องที่เละเทะกระจัดกระจาย
เธอราวกับว่าเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน สองมือกำแน่นเล็กน้อย
“หมอฟาขอบคุณมากนะคะที่เข้าเวรแทนฉัน”นิสายิ้มแย้มเดินเข้ามา
ฟารินดาฝืนยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรค่ะ”
“ธุระของฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”นิสามองเห็นในห้องระเกะระกะไปหมด เลิกคิ้ว “นี่ทำไมถึงได้?”
ฟารินดาหันหน้ามา ปกปิดสายตาอันกระวนกระวายอันนั้นเอาไว้ “ฉันไม่ทันระวังจึงชนเข้า คุณมาแล้ว งั้นฉันกลับก่อนนะ”
นิสารู้สึกว่าเธอแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก เข้าห้องไปจัดเก็บสิ่งของที่หล่นอยู่บนพื้น
ทว่าหลังจากนั้นในเวลานี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้พาครามผู้ช่วยของนคินทร์มาปรากฏตัวที่หน้าประตู