บทที่ 7 ผู้หญิงที่ไม่สะอาดบริสุทธิ์
“คุณฟา? ผมคือผู้ช่วยของคุณคินทร์ คุณคินทร์ขอเชิญคุณ ไปกับผมเถอะ”
มองเห็นครามฟารินดานิ่งไปก่อนสักพัก อีกทั้งคือรีบมองต่ำลงอย่างรวดเร็ว ปกปิดเอาไว้ ตัวเองสามารถมองสีหน้าของเขาออก
ครั้งที่แล้วเธอรักษาคนคนคนหนึ่งแทนระพี คือผู้ชายคนนี้เป็นคนเปิดประตู เขาคือผู้ช่วยของนคินทร์?
งั้นที่บาดเจ็บก็คือนคินทร์?
“คุณฟาเชิญครับ”ครามมองเห็นว่าเธอไม่ขยับตัว จึงเพิ่มน้ำเสียงให้หนักขึ้นอีกระดับแล้ว
ฟารินดาบรรจบการนึกคิดลง พูดออกมา “ฉันยังต้องไปทำงาน”
ชัดเจนว่าปฏิเสธ
เธอไม่อยากจะไปเจอผู้ชายคนนั้นหรอก
“คุณฟา โปรดคิดให้ดี สถานะของคุณในตอนนี้ คุณทำให้ประธานนคินทร์ไม่พอใจแล้ว คุณเสียงานคือเรื่องเล็ก เกรงว่าจะทำลายชีวิตการเป็นหมอทั้งหมดลงเอาได้นะ”
นี่ชัดเจนว่าเป็นการข่มขู่
ฟารินดาจิกมือแน่น พ่อให้เพียงค่าผ่าตัด ค่ารักษาของแม่เธอ ค่าพยาบาล ต่างอาศัยเงินเดือนของเธอเจือจุน เธอสูญเสียงานไปไม่ได้ ไม่สามารถปล่อยอาชีพการเป็นหมอของตัวเองไปได้
เธอทำได้เพียงตอบรับเดินไปกับคราม!
“คุณรอฉันสักครู่ ฉันจะโทรศัพท์ไปลางานที่โรงพยาบาล”เธอขึ้นไปโทรศัพท์ที่ชั้นบนจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำเอามีดผ่าตัดที่อยู่ในลิ้นชักใส่เอาไว้ในกระเป๋าแล้ว นำมาใช้ป้องกันตัว
จัดระเบียบเครื่องแต่งอย่างง่ายๆ หลังจากนั้นก็ลงมา
โดยเร็วเธอก็ถูกพามายังสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง
ฟารินดาไม่เคยมาสถานที่แบบนี้มาก่อน
ชายหญิงนัวเนียกันต่างสามารถเห็นได้ทั่วไป ยังมีผู้หญิงยืนพูดคุยถกเถียงกันอยู่ที่มุมกำแพง
“บนห้องVIPชั้นบนสุดผู้ชายคนนั้นที่กำลังเจรจาธุรกิจกับนคินทร์อยู่ ได้ยินมาว่าหื่นกามมาก อีกทั้งยังเล่นอย่างวิปริต”
“ใช่คนคนนั้นไหม ที่เล่นเอาสาวนางหนึ่งเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด?”
“ใช่ๆ ก็คือเขา”
“จุ๊ ๆ ครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าใครจะซวย ยังไงเสียอย่าได้เลือกโดนพวกเราก็ดี ฉันได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเอาชีวิตรอดมาได้ แต่คือไม่สามารถให้กำเนิดได้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีการอะไรสามารถทำเอาเธอทุกข์ทรมานได้ถึงขนาดนั้น”
ฟารินดาฟังเสียจนขนหัวลุก โดยเฉพาะบทสนทนาของพวกเธอ ยังได้ยินชื่อของนคินทร์
เธอหวั่นใจอยู่บ้าง ฝ่ามือต่างเหงื่อซึม
โดยเร็วลิฟต์หยุดลงแล้ว
ครามมองเห็นสีหน้าของเธอซีดขาว ยังเตือนเธอด้วยเจตนาดีสักหน่อยแล้ว “คุณชัดเจนดี คุณคือแต่งงานกับคุณคินทร์ได้อย่างไร ตอนนี้ขอเพียงคุณยอมเซ็นหย่าแล้ว ก็จะสามารถหลบหลีกการรับมือของวันนี้ไปได้”
จริงอยู่ว่าตระกูลจุฑาเทววงษ์คิดค้างตระกูลศิริเจริญสกุลอยู่ ตระกูลศิริเจริญสกุลยื่นเงื่อนไขออกมาแล้ว ตระกูลจุฑาเทววงษ์ยากที่จะปฏิเสธ แต่ว่า ฟารินดายินยอมหย่าร้างเรื่องเรื่องนี้ก็จะสิ้นสุดลงแล้ว
ฟารินดาจ้องมองคราม ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย เธอถ้าสามารถปฏิเสธได้ ก็คงไม่มีทางแต่งเข้าตระกูลจุฑาเทววงษ์แล้ว
ยิ่งไม่มีทางให้นคินทร์มีโอกาสบีบบังคับตัวเอง
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้ว ก้าวเท้าเดินออกจากลิฟต์
ครามขมวดคิ้ว ไม่พูดมากความ นำพาเธอมายังห้องส่วนตัวอันหรูหราห้องหนึ่ง แสงไฟอันสลัว เธอแวบเดียวก็มองเห็นนคินทร์ที่นั่งอยู่ตรงโซฟา อีกทั้งผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านข้างของเขา
“โอ๊ะ”เธอเดินเข้ามาก็ดึงดูดสาวตาของผู้ชายแล้ว สายตายังคงประเมินเธออย่างตรงไปตรงมาอยู่อย่างนั้น อีกทั้งยังแสดงความคิดเห็นออกมา “ไม่เลว ผิวพรรณขาว ดั่งเครื่องลายครามยังไงอย่างงั้น เอวคอด เข้ามาในอ้อมกอด คงจะอ่อนนุ่มอย่างแน่นอน”
เขากวักมือเรียก “เข้ามา นั่งลงข้างผม”
ฟารินดามองไปดูนคินทร์
เขาพิงอยู่ ขาทั้งสองข้างไขว้กันอยู่อย่างสง่า ใบหน้าทั้งใบซ่อนอยู่ในส่วนที่มืดมิด
เดิมทีเธอไม่อาจคาดเดาสีหน้าของเขาได้
ผู้ชายจึงลุกขึ้นเดินเข้ามา ลำแขนพาดลงบนบ่าของเธอเบาๆ
ยิ้มแย้มถามนคินทร์ “คุณไปหามาจากไหน? เปรียบเทียบกับสาวๆที่แต่งหน้าจัดๆเหล่านั้น งดงามกว่ามากให้ความรู้สึกดีกว่ามาก ท่าทางอันใสบริสุทธิ์นี้ อีกทั้งเหมาะกับรสปากของผม”
นคินทร์ไม่พูดอะไร และก็ไม่ได้ขัดขวางพฤติกรรมของเขา นี่ก็ถือว่าเป็นการอนุญาตไปด้วยปริยายแล้ว?
ภายในดวงใจของฟารินดาเย็นวาบ บีบกระเป๋าในมือแน่น
“ดื่มเหล้าเป็นไหม?”ผู้ชายระหว่างที่พูด มือก็ลูบไปยังเอวของเธอ
เธอถูกผู้ชายคนนี้ทำให้รังเกียจจะตายอยู่แล้ว ร่างกายรู้สึกขยะแขยงแล้ว “ไม่เป็น”
“ไม่เป็นไม่เป็นไร ผมสอนคุณ”ผู้ชายเทเหล้าเต็มแก้วมาแก้วหนึ่ง ยื่นมาใกล้ริมฝีปากของเธอ
เธอเอียงศีรษะคิดอยากจะหลบหลีก กลับถูกผู้ชายโอบเข้าไปในอ้อมกอด เธอยังขัดขืน “ปล่อยฉัน……”
“ต้อนรับแขกเป็นเพื่อนผม ก็เป็นหน้าที่ของคุณ”ร่างกายของนคินทร์ค่อยๆเอนไปด้านหน้า ภายใต้แสงไฟรูปร่างอันได้สัดส่วน ยิ่งดูมีมิติมากขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาเคลื่อนไหว ปลายคิ้วกดลงแสดงถึงความไม่เป็นมิตร “ทำไม่ได้ ก็ไปไกลๆซะ!”
เธอนึกว่า เขาไม่ชอบตัวเอง อย่างมากก็ถือว่าตัวเองเป็นขยะ เป็นธาตุอากาศ
แต่เธอคือคาดไม่ถึง เขาจะชั่วร้ายเช่นนี้
“ฉันดื่ม”เธอผลักผู้ชายออก
หยิบเอาแก้วเหล้าแก้วนั้นที่ผู้ชายยื่นมา ทุกการเคลื่อนไหวมีความลังเล สุดท้ายก็ยังเงยหน้าเทเหล้าลงไป
นี่เป็นการดื่มเหล้าครั้งแรกของเธอ
ดื่มอย่างโหด แอลกอฮอล์แสบร้อนตั้งแต่ลำคอจนถึงกระเพาะ
ทั้งแสบคอทั้งร้อน
เธอขมวดคิ้วแน่น ท่าทางเร้าใจ ผู้ชายอดใจรอไม่ไหว “คุณคินทร์ ผมพาคนไปแล้วนะ?”
ภายในใจของฟารินดาตกใจเหลือคณา อยากจะหนีไปตามสัญชาตญาณ ในวินาทีที่เงยหน้าขึ้นมา เผชิญหน้ากับสายอันลึกล้ำ ทั้งมืดดำดั่งยามค่ำคืน เธอหยุดการเคลื่อนไหวแล้ว นี่ก็คือผู้ชายคนนี้ เจตนาเหยียดหยามเธอใช่ไหม?
โดยเร็ว นคินทร์เบนสายตาออก “คุณ……ตามสบาย”
ผู้ชายยิ้มกว้าง โอบกอดฟารินดาในทันใด ครั้งนี้เธอไม่ได้ขัดขืน
เดินตามผู้ชายออกจากห้องส่วนตัวไปแล้ว
ครามเดินเข้ามา “คุณฟาไปกับภูผา……เกรงว่าความบริสุทธิ์ยากจะรักษา เธอ……”
ถึงแม้ว่าอยากจะให้เธอลำบากใจจนถอยออกไป ยินยอมที่จะออกตัวหย่าร้างเอง แต่ก็ไม่ถึงกลับจะต้องให้เธอเสียตัว?
นคินทร์เทเหล้าให้ตัวเองหนึ่งแก้ว ดื่มหมดทีเดียว แววตาดุดัน “คุณคิดว่าเธอสะอาดบริสุทธิ์มากงั้นเหรอ?”
ครามตะลึงงัน เบิกตากว้างมองบอสใหญ่ ตระกูลศิริเจริญสกุลไม่เพียงละโมบโลภมาก หรือว่าผู้หญิงที่ส่งมายังไม่บริสุทธิ์?
แวบเดียวเขาก็โมโหเดือดดาล น่าเสียดายที่เขายังเห็นใจฟารินดา
ตอนนี้มองดูแล้วเดิมทีไม่ควรค่าที่จะน่าเห็นใจ
“ทั้งๆที่ก็ทราบดีว่าพวกเราจงใจทำให้เธอลำบากใจ เธอต่างไม่ยินยอมที่จะหย่าไปเอง มองดูแบบนี้ เธอคงไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ”ครามพูด
นี่คือคิดอยากจะเกาะตระกูลจุฑาเทววงษ์?
“คุณคินทร์……”
“ไปกันเถอะ”นคินทร์ตัดบทเขา สีหน้าเย็นชา ชัดเจนว่าไม่อยากจะฟังเรื่องใดๆเกี่ยวกับฟารินดา
ครามรู้สึกตัวจึงไม่ได้เอ่ยปากอีก เดินไปที่หน้าประตูห้องส่วนตัว
นั่งอยู่ในรถ แสงเงาวิ่งผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว ในสมองของนคินทร์ต่างเป็นภาพของผู้หญิงคนนั้นเดินไปกับภูผาอย่างเต็มใจ
เธอทั้งๆที่ก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังยินยอม?
ผู้หญิงคนนั้น……
“กลับรถ”
ครามนิ่งไปก่อนสักพักแล้ว โดยเร็วก็เข้าใจได้แล้ว รีบกลับรถไปยังสถานบันเทิงทันที
ทว่าหลังจากนั้นที่สถานบันเทิงหาคนไม่เจอ พูดว่าออกไปแล้ว
นคินทร์สีหน้าไม่ดีออกคำสั่งให้กลับคฤหาสน์
แต่ว่าที่คฤหาสน์ก็ไม่มี ชัดเจนว่าฟารินดายังไม่กลับมา
“ไปตามหา……”
คำพูดของนคินทร์พูดออกมา ประตูถูกเปิดออก ตามด้วยเสียงของฟารินดา
“ป้าสม……”
เธอดื่มเหล้าไม่เป็น แก้วเดียวก็เมาแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะความใจเย็นและการควบคุมตนเองที่แข็งแกร่งจากอาชีพการงานของเธอ เธอเป็นไปได้ว่าคงกลับมาไม่ได้แล้วจริงๆ
ทว่าหลังจากนั้นมองเห็นเพียงป้าสมยืนอยู่ที่นั่น แต่ไม่กล้าเดินหน้าเข้ามา
“ป้า……”
ในตอนที่เธอยังอยากจะเรียกอีกครั้ง ในที่สุดก็ค้นพบแล้วว่าชายหนุ่มยืนอยู่ในห้องรับแขก