บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

คนถูกกล่าวหาว่าเป็น 'หมา' กลอกตาและเหวี่ยงค้อนประหลับประเหลือกส่งมาให้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ

"เรื่องอกหักก็ส่วนอกหัก เกี่ยวกันที่ไหน"

"อ๋อ... หรอ"

"พี่มังกร! ถึงพี่จะแก่กว่าผมสองปี แต่ผมก็กล้าต่อยพี่นะ" ตุลาขู่ เมื่อเขาถูกคู่สนทนากวนกลับ

"คิดว่ากลัว? "

เชฟหนุ่มพรูลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะเขาคงไม่มีปัญญาไปต่อกรกับอดีตนักกีฬาเทควันโดทีมชาติรุ่นเยาวชน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เคยใช้กำลังกับคนในครอบครัวก็เถอะ

"พี่อย่าไปยอมอยู่ในเหล้าไก่คอกหมูของปู่อีกเลย นี่คือคำแนะจากน้องชายที่หวังดีอย่างผม และผมก็เชื่อว่าพี่กฎเองก็คิดเหมือนกัน"

"แต่ปู่แก่แล้ว" มกราแย้ง

"แก่บ้าอะไร แก่แต่อายุละสิไม่ว่า ตะเบ็งเสียงด่าทีไฟแลบยิ่งกว่าอาเฮียขายหมูที่ตลาดสดซะอีก" คนปากกรรไกรเหน็บปู่บังเกิดเกล้าอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะตบบ่าแกร่งของคนข้างตัวซ้ำอีกครั้ง

"หาอะไรสนุกๆ ทำดีไหม ช่วงนี้ปู่ให้พี่ลาพักร้อนนี่"

"อะไรที่ว่าสนุก"

"อืม... ตามหารักแท้เป็นไง"

คนฟังกลอกตาด้วยความอิดหนาระอาใจ เพราะนั่นฟังดูเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี

"ตามไปคนเดียวเถอะ" เขาบอกปัดอย่างไรเยื่อใย

"พี่ไม่เชื่อเรื่องรักแท้หรือพรหมลิขิตบ้างเลยหรือไง ทำไมถึงได้กล้าปฏิเสธแบบนี้" ตุลาถามเสียงห้วนคล้ายจะไม่ยอมรามือโดยง่าย

"เชื่อ แต่ไม่เคยเจอ"

"โถ่! ก็จะไปเจอได้ยังไง ตั้งแต่เล็กจนโตพี่ก็ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบของปู่มาตลอด เรียนโรงเรียนชายล้วน เกรดเฉลี่ยสี่ทุกเทอม กวาดโล่นักเรียนดีเด่นมาทุกปี แถมยังเคยเป็นนักกีฬาทีมชาติอีก รอบตัวมีแต่ผู้ชายเข้าไปละแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดก็มีแต่ป้าติ๋ม แม่ครัวของบ้านใหญ่ไม่ใช่หรอ"

คนใจเย็นพยักหน้าเห็นด้วย แล้วถอนหายใจออกมา

"ลองออกไปพิสูจน์รักแท้หน่อยเป็นไง มีเวลาพักตั้งเดือน"

"นั่นมันไร้สาระเกินไป" มกราบอกปัด

"ไร้สาระตรงไหนวะ พี่มังกรของผมทั้งหล่อทั้งรวย ลูกไฮซ้อไฮโซอยากกระโจนเข้ามาแทะเล็มกันให้พรึ่บ แต่พวกนั้นไม่ได้รักพี่ในแบบที่พี่เป็นพี่เสียหน่อย หรือพี่อยากจะเป็นเหมือน..." คนปากไวรีบหุบปากฉับลงทันควัน เพราะนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่กำลังจะพูดต่อจากนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรพูด

"เหมือนพ่อกับแม่ฉันน่ะหรอ"

"พ่อกับแม่พี่กฎต่างหาก" ตุลาโบ้ย

"ใส่ร้ายได้แม้กระทั่งคนตาย" มกราว่า

"เอ้า! พี่ก็เห็นว่าพ่อพี่กฎเขาหวังสมบัติปู่เหมือนกัน แต่พอรู้ว่าป้าปานไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของปู่ เขาก็หาเรื่องจะหย่า ใช้ได้ที่ไหนวะ ว่าไหม"

"เกิดไม่ทันก็ทำเป็นรู้ดี" คนใจเย็นว่าซ้ำ

"แต่ข้อมูลผมแน่นนะ"

คนฟังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เพราะมันเป็นเรื่องที่ผ่านมาเนิ่นนานมากแล้วจริงๆ "อยากจะพูดถึงพ่อกับแม่ฉันก็พูดเถอะ อย่าไปพาดพิงบ้านอื่น"

"โหยย ก็หลวงลุงแกเป็นพระ พี่จะให้ผมด่าพระว่าโง่ปล่อยให้ผู้หญิงมาหลอกจับหวังสมบัติหรือไง บาปกรรมนะ" ตุลาท้วง

"ได้ข่าวว่านายก็กำลังด่าอยู่"

"เออว่ะ" คนปากไวบอก แล้วยิ้มเจื่อน

แต่คนที่ครอบครัวประสบปัญหาตามที่อีกฝ่ายว่าไม่ได้มีทีท่าเดือดเนื้อร้อนใจอะไร เพราะถึงอย่างไรพวกท่านก็เป็นพ่อแม่ของเขา และก็ใช่ว่าเขาจะดูคนไม่เป็นเสียหน่อย

"สนใจออกไปใช้ชีวิตเป็น 'นายมกรา' แบบที่ไม่มีนามสกุลสิรพิพัฒน์ต่อท้ายไหมล่ะ ผมช่วยพี่ได้นะ" ตุลาเสนอด้วยแววตามีเลศนัย

"ทำเป็นเล่น"

"แต่พี่ก็ดูสนใจคำแนะนำของผมไม่ใช่หรอ"

"นายคิดว่ายุคนี้ไม่มีใครเขาอ่านข่าวธุรกิจกันแล้วหรือไง ฉันออกงานกับปู่บ่อยขนาดนั้น ต้องมีคนคุ้นหน้าคุ้นตาบ้างล่ะ" มกราแย้ง

"เอาไว้ผมหาคนที่ไม่อ่านข่าวธุรกิจเจอเมื่อไหร่ แล้วจะบอกพี่อีกทีก็แล้วกัน" คนมีความคิดพิเรนทร์กล่าวขึ้นอย่างอารมณ์ดี เพราะช่วงเวลาที่เขาจะได้แกล้งให้ปู่ประสาทเสียเล่นเริ่มใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

หึ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel