บทย่อ
'สมิตา' รู้สึกว่าตัวเองต้องรีบไปสะเดาะเคราะห์และอาบน้ำมนต์เก้าวัดเป็นการด่วน เนื่องจากความ 'ซวย' พร้อมใจกันกระโจนเข้าหา ในชนิดที่เรียกได้ว่า 'ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้าแทรก' มีอย่างที่ไหน รถยนต์ลูกรักโดนเฉี่ยวกลางสี่แยก แถมยังโดนใส่ความว่าเป็นเมียน้อยไปอีก เวรกรรม!ทว่านอกจากความซวยที่เข้ามาแล้ว ร้านของเธอก็ยังไม่วายรับ 'ตัวปัญหา' เข้ามาด้วย และเจ้าตัวปัญหาที่ว่านี่ดัน... หล่อ จนเธอแทบจะระเมิดกฎเหล็กของตัวเองอยู่แล้วเชียวนี่ถ้าไม่ติดว่ารับปากรุ่นพี่เอาไว้ สมิตาคงเฉดหัว 'เขา' ออกไปจากร้านกาแฟของเธอเพื่อตัดปัญหาแล้วเนี่ย!
บทที่ 1
... สองเดือนก่อน ...
ณ บ้านสิรพิพัฒน์
"ไอ้มังกร! "
เจ้าของชื่อกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่อย่างฝืดเคือง แล้วเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเจ้าของเสียง ที่กำลังยืนทำหน้าถมึงทึงใส่เขาอยู่บนบริเวณชั้นลอยของบ้านหลังใหญ่
ซึ่งแม้จะมีราวเหล็กลวดลายวิจิตรงดงามขวางกั้น แต่คนถูกเรียกด้วยเสียงตะคอกดังลั่นบ้านกลับรู้สึกราวกับว่าผู้เป็นปู่สามารถกระโจนลงมาบีบคอเขาได้ทุกเมื่อ
"ครับ? "
หลังจากที่ตั้งสติและเตรียมตัวรับมือกับพายุอารมณ์ลูกใหญ่ได้แล้ว ร่างสูงจึงขยับริมฝีปากหยักได้รูปตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสุภาพอย่างที่สุด
"แกแอบไปหาแม่ดาราของแกมาอีกแล้วใช่ไหม ฉันบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าไปเจอมันอีก แกอยากจะให้ฉันเส้นเลือดในสมองแตกตายก่อนหรือยังไง"
มกราก้มหน้ายอมรับผิดอย่างรู้งาน เพราะเขาไม่มีทางเถียงปู่ชนะ และชีวิตนี้ทั้งชีวิตก็ไม่เคยคิดจะเถียงท่านด้วย ผิดกับ...
"โอยยย อย่างปู่น่ะหรือครับ จะเส้นเลือดในสมองแตกตาย ผมว่าปู่น่าจะเส้นเสียงอักเสบก่อนมากกว่า เล่นตะโกนดังไปถึงหน้าหมู่บ้านนู้น กลัวชาวบ้านชาวช่องเขาไม่รู้หรือไงว่าหลานปู่บ้านนี้กำลังทะเลาะกัน"
คนที่พึ่งก้าวเท้าตามหลังลูกพี่ลูกน้องของตนเข้ามาติดๆ เอ่ยท้วงขึ้นด้วยท่าทางสบายอกสบายใจเสียประดา ราวกับว่าการทำให้ปู่บังเกิดเกล้าของทั้งคู่เต้นผ่างเป็นเจ้าเข้า แล้วชี้หน้าพวกเขาด้วยดวงตาเบิกโพลงคาดโทษนั่นเป็นเรื่องสนุกเสียนี่
"ไอ้ตุล! ไอ้หลานเวร! "
คนถูกด่าว่า 'หลานเวร' ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นบ้านอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วเดินเข้ามาตบบ่าลูกพี่ลูกน้องของตนอย่างให้กำลังใจ
"วันนี้ผมช่วยพี่ได้เท่านี้ล่ะ ที่เหลือก็รับมือต่อเองนะครับ เฮ้อ... ง่วงจัง ไปนอนดีกว่า" ว่าจบก็บิดขี้เกียจ แล้วเดินตัดโถงใหญ่กลางบ้านเพื่อเดินผ่านห้องครัว และตรงไปยังบ้านหลังเล็กที่สร้างแยกออกไปจากบ้านหลังใหญ่อีกทีอย่างสบายอารมณ์
มกรามองตามหลัง 'คนช่วย' ไปอย่างอิดหนาระอาใจ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจมาช่วยเขา หรือตั้งใจมาแกล้งให้ผู้เป็นปู่หงุดหงิดมากกว่าเดิมกันแน่
"แกกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ตุล อย่าคิดนะ ว่าฉันจะไม่มีเรื่องให้เฉ่งแก กลับมา! "
คำสั่งของเจ้าสัวสินชัยไม่ได้มีผลใดๆ กับคนที่ทำหูทวนลมเก่งและเป็นไม้เบื่อไม้เมากับท่านมาตั้งแต่เกิดอย่างตุลา เพราะต่อให้ตะโกนออกคำสั่งจนคอแทบแตก หลานชายคนเล็กก็ไม่เคยคิดจะทำตามเลยสักครั้ง เผลอๆ 'ไอ้ตัวแสบ' อาจจะหนีไปอยู่อเมริกากับอดีตลูกสะใภ้ของท่านอีกรอบก็ได้ ใครจะไปรู้!?
เฮ้อ...
แค่คิดคนแก่อายุเจ็ดสิบก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วหันกลับมาให้ความสนใจกับ 'ความหวัง' เพียงหนึ่งเดียวของตนอีกครั้งทันที
"แล้วคราวนี้แม่นั่นมันมาขอเงินแกไปอีกเท่าไหร่"
"ไม่ได้ขอครับ" มกราตอบ เนื่องจากคราวนี้มารดาของเขาไม่ได้นัดเจอเพื่อขอเงิน แต่นัดเจอเพื่อบอกลาต่างหาก
"ช่ะ! คนหน้าเงินอย่างแม่แกน่ะหรือจะไม่ขอเงิน อมพระสิบวัดมาพูดฉันก็ไม่เชื่อหรอก"
"คราวนี้แม่ไม่ได้มาขอเงินจริงๆ ครับปู่ แต่แม่แค่มาลา"
"ลา? พวกเต้นกินรำกินอย่างแม่แกมันจะลาไปไหนได้ หรือว่ามีคนมาเสนอเงินเลี้ยงดูแล้วล่ะ ถึงได้ยอมมาลาบ่อเงินบ่อทองอย่างแก"
ชายหนุ่มรู้สึกเหนื่อยใจนิดหน่อย เนื่องจากวันนี้เขาเจอเรื่องหนักๆ มาทั้งวัน แต่จะให้ทำอย่างที่ตุลาทำ เขาก็ตัดใจทำไม่ลงอยู่ดี
"ครับ แม่กำลังจะแต่งงานใหม่"