บทที่ 2
"ว่าแล้วเชียว สามสิบกว่าปีก่อนหน้าเงินยังไง ก็อย่างนั้น"
มกราก้มหน้านิ่ง เพราะเรื่องราวในอดีตเหล่านั้นเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเกิด ต่อให้อยากช่วยพูดแทนแม่บังเกิดเกล้ามากแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่กล้าทำให้ปู่ไม่สบายใจอยู่ดี
"แกรู้ไหมว่าถ้าแม่แกไม่ไปมีชู้ ป่านนี้พ่อแกก็คงจะไม่หนีไปบวช แล้วถ้าพ่อแกไม่หนีไปบวชตลอดชีวิต ฉันก็คงไม่ต้องมาจ้ำจี้จ้ำไชกับแกแบบนี้หรอก ถ้าจะโทษก็โทษผู้หญิงหยำฉ่าหิวเงินอย่างแม่แกนู่น นั่นล่ะ ต้นเหตุทั้งหมดของเรื่องนี้"
คนที่ยืนฟังอยู่นานเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ด้วยท่าทางอ่อนเพลียเกินจะฝืน
และถ้าหากว่าเขาเป็นคน 'ปากกรรไกร' แบบตุลาสักหน่อยละก็ ป่านนี้คงถามปู่กลับไปแล้ว ว่าทำไมถึงไม่ไปบอกให้หลวงพ่อสึกเสียให้รู้แล้วรู้รอด
"ไปเจอแม่แกมานี่มันเหนื่อยมากหรือ"
"เปล่าครับ" มกราตอบ
"แล้วคราวนี้มันจะแต่งกับใคร นี่ก็งานแต่งงานครั้งที่สามเข้าไปแล้ว ช่างขยันแต่งเสียจริง ดีนะที่แต่งกับพ่อแกไม่กี่ปีแล้วเลิกรากันไป นี่ถ้าขืนบ้านเรายังเลี้ยงปลิงดูดเลือดอย่างแม่แกเอาไว้อยู่ ป่านนี้ธุรกิจของฉันก็คงไม่เฟื่องฟูขนาดนี้หรอก"
"ไม่ทราบครับ"
"ช่ะๆ นี่แกไม่..."
"ปู่ไม่อยากให้ผมสนใจเรื่องของแม่ไม่ใช่หรอครับ" มกราถามแทรกขึ้น ก่อนที่ผู้เป็นปู่ที่ตนเคารพรักจะหาเรื่องด่าทอแม่ของเขาไปมากกว่านี้
"ก็ใช่น่ะสิ แล้วมันจะดีกว่านี้มาก ถ้าแกไม่ออกไปเจอแม่ดารานั่นอีก เพราะฉันไม่ชอบ"
"แต่..."
"หรือแกเห็นว่ามันดีกว่าฉัน"
คำถามของเจ้าสัวสินชัย ส่งผลให้หลานชายคนรองลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วหลับตาพริ้มคล้ายต้องการลืมเลือนเรื่องราวมากมายที่เขาพึ่งประสบพบเจอมาในวันนี้
"สวัสดีครับคุณตา"
มกราลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงระฆังช่วยชีวิต เพราะคนมาใหม่ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ดร.กรกฎ หลานชายคนโตและคนโปรด ที่เกิดจากลูกสาวบุญธรรมของปู่กับย่านั่นเอง
"เจ้ากฎมาแล้วหรือ หอบของพะรุงพะรังอะไรมาอีกล่ะคราวนี้ แล้วทำไมจะมาถึงไม่โทรบอกตาก่อน"
เจ้าของบ้านที่เมื่อสักครู่ยังตะโกนโหวกเหวกโวยวายด่าทอหลานชายคนรองและคนเล็กเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น
"อ้าว... เมื่อตอนเที่ยงผมบอกตุลแล้วนะครับ ว่าตอนเย็นจะเข้ามา" กรกฎตอบกลับด้วยความงุนงง แต่เมื่อเห็นว่าตอนนี้ตุลาไม่อยู่ด้วย จึงถือโอกาสถามถึงเจ้าตัวเสียเลย "แล้วนี่ตุลยังไม่กลับหรอครับ"
"กลับแล้วครับพี่กฎ เดี๋ยวผมไปตามมาให้เฉ่ง"
หลานชายคนโตของบ้านสิรพิพัฒน์ยิ้มขัน แล้วพยักหน้าให้คนอาสาจะไปตามตุลามาให้ทันทีอย่างรู้กัน เพราะเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากจะไปตามหรอก
ก็แค่... อยากลี้ภัยเท่านั้นเอง