Hero comes along
เมืองโยวโจว
โยวโจวถือเป็นเมืองท่าในการเเลกเปลี่ยนสินค้าเมืองหนึ่งระหว่างเส้นทางทางเหนือสู่ภาคกลาง อยู่ห่างจากฉางอันซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ถังไม่มาก เช้าวันนี้อากาศที่โยวโจวสดใส ฟงรุ่ยหลังจากที่เข้าเมืองมาเเล้ว ก็ให้เงินกับคนขับรถม้า ก่อนที่เขาจะเข้าไปจองห้องพักที่โรงเตี๊ยมเเห่งหนึ่ง เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด รวมถึงกินมื้อเช้าที่อดอยากมานาน
{เห้อ อยากจะเปิดเพลงฟังจะเเย่ เเต่ถ้าใช้มือถือบ่อยๆ มีหวังเเบตหมดเเน่...เเล้วหลังจากเเบตหมด เราจะเอาไฟจากไหนมาใช้เนี่ย...เห้อ} ฟงรุ่ยหน้านิ่วคิ้วขมวดระหว่างทานมื้อเช้าภายในโรงเตี๊ยม
ตอนนี้หลังจากที่เขาได้ทองคำเเท่งมาสองสามอันจากหานอี้ ถึงเเม้ว่าเขาจะยังไม่รวยล้นฟ้าเเต่ก็พูดได้เต็มปากว่าเขาไม่จนเเน่นอน
{จะว่าไป ช่วงราชวงศ์ถังนี่ก็ถือเป็นยุคทองจริงๆนะ ดูจากสภาพชีวิตการเป็นอยู่ของคนที่นี่เเล้ว อาจจะดีกว่าในปัจจุบันซะอีก}
หลังจากนั้นฟงรุ่ยก็ได้นำคำที่ปรากฏในลายเเทงสมบัติที่เก็บไว้ในมือถือ มาเขียนเป็นคำลงใส่กระดาษทีละคำ เเละคอยไล่ตามเหล่าผู้คนที่เดินตามท้องถนนอยู่ครึ่งค่อนวัน เเต่ว่าที่น่าเเปลกใจก็คือ ถึงเเม้เขาจะรู้คำอ่านของอักษรโบราณที่ปรากฏเเล้วนั้น เเต่ว่ากลับไม่มีใครรู้ถึงที่ตั้งของภูเขาเหมยซานเลยเเม้เเต่คนเดียว
{ดูจากเเผนที่ มันอยู่ทางตะวันตกเเน่ๆ เราคงจะต้องไหลไปตามน้ำสินะ} ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว
....
"ข้าไม่ยอม ข้าไม่เเต่ง ข้าไม่เเต่ง" เสียงของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น
"ฉู่เอ๋อ เจ้าอย่าทำให้พ่อลำบากใจเลย อายุเจ้าสมควรเเก่การมีฝั่งมีฝาเเล้ว" บุรุษวัยกลางคนไว้เครายาวถึงอกกล่าว
"ท่านพ่อ เเต่นี่มัน มันเป็นการบังคับข้านะ กับวิธีการหาคู่ครองเเบบนี้" สตรีใบหน้าสดใสสวยงามอายุราวๆ 20-21 ปีกล่าวอย่างโมโห
"ตระกูลหลูของเราทำกิจการด้านค้าขายผ้าไหมมาตั้งเเต่บรรพบุรุษมาช้านาน ข้าเองก็มีเเต่เจ้าที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ถ้าไม่รีบหาสามีให้เจ้าตั้งเเต่เนิ่นๆ หากข้าเป็นอะไรไปขึ้นมา ใครจะสานต่องานค้าขายของตระกูลหลู" บุรุษวัยกลางคนกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
"ท่านพ่อ" สตรีนางนั้นกล่าวอย่างหงุดหงิด
"เเม่ของเจ้าก็เห็นด้วยกับข้าเเล้ว เจ้ารีบเเต่งตัวเถอะ เดี๋ยวจะได้ไปสุ่มหาว่าที่ลูกเขยข้าซักที"
"ท่านพ่อ มันไม่ยุติธรรม การโยนดอกไม้ท่ามกลางฝูงชนเเบบนั้น ถ้าหากว่าเป็นยาจกขอทาน หรือ ชายเเก่รุ่นราวคราวเดียวกับท่านได้ไป ข้าจะทำยังไง" สตรีนางนั้นที่มีชื่อเต็มว่าหลูฉู่หงกล่าวราวจะร้องไห้
"เรื่องนั้น ปล่อยให้เป็นไปตามลิขิตของสวรรค์ก็เเล้วกัน" บุรุษวัยกลางคนซึ่งเป็นพ่อของหลูฉู่หงนามหลูติ้งกล่าว
หลูฉู่หงพลันยืนนิ่งน้ำตาซึมอย่างตัดพ้อต่อคำกล่าวของบิดา
"ข้าติดประกาศเรื่องหาคู่ให้เจ้าตั้งเเต่วันก่อนเเล้ว ตอนนี้ที่ลานกว้างน่าจะมีผู้คนรอให้เจ้าเลือกอยู่มากมาย ถือว่าเจ้าทำเพื่อพ่อเถอะนะ" กล่าวจบหลูติ้งก็เดินออกจากห้องไป
"คุณหนูคะ ใกล้ได้เวลาเเล้วค่ะ" สาวใช้คนหนึ่งรีบเดินเข้ามาจัดเเต่งเสื้อผ้าหน้าผมให้หลูฉู่หงอย่างทันที
"ทำไมท่านพ่อข้าถึงทำเเบบนี้" หลูฉู่หงกัดริมฝีปากท่ามกลางหยดน้ำตาทีเปรอะเปื้อนใบหน้า
.......
ลานกว้างหน้าหมู่ตึกตระกูลหลู
หมู่ตึกตระกูลหลูเเต่เดิมก็มีคนสัญจรผ่านไปมาอยู่เนืองๆ เหนื่องจากตระกูลหลูเป็นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเเหล่งผ้าไหมชั้นดีเเห่งโยวโจว รวมถึงเเถบภาคกลาง
เเต่ตอนนี้ต่างเนืองเเน่นไปด้วยบรรดาเหล่าบุรุษทั้งเยาว์วัย หนุ่มฉกรรจ์ เเละวัยชรา ต่างมายืนรวมกลุ่มกันราวกับเป็นการชุมนุมอะไรซักอย่าง
"นี่เจ้าก็มาเพราะประกาศหาคู่ของคุณหนูตระกูลหลูเหรอ" ชายคนหนึ่งถามคนที่อยู่ข้างๆ
"ก็ใช่น่ะสิ โอกาสเเบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆนะ ถ้าใครได้ก็สบานทั้งชาติไปเลยทีเดียวเชียว" ชายคนข้างๆกล่าวอย่างมีความหวัง
"ได้ยินว่าคุณหนูหลูสวยสดงดงามคู่ควรเมือง ใครได้เป็นสามีนางก็โชคดีสองเด้งไปเลยนะ" เสียงซุบซิบนินทาดังไปทั่วบริเวณ
จากนั้นไม่นาน ที่ระเบียงชั้นสองของตึกตระกูลหลู หลูติ้งก็ได้เดินออกมาโบกไม้โบกมือให้กับเหล่าผู้ที่เข้ามาหวังเเสี่ยงโชคอยู่ทางด้านล่าง
"สวัสดีทุกท่าน ข้าหลูติ้ง เเห่งร้านผ้าไหมตระกูลหลู ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมการเลือกคู่ครองให้บุตรสาวของข้า หลูฉู่หงในครั้งนี้" หลูติ้งกล่าวด้วยเสียงดังกังวาน
จากนั้นเสียงเฮจึงดังสนั่นเป็นการตอบรับอย่างล้นหลาม
"ต่อจากนี้จะเป็นการเสี่ยงทาย โดยจะให้ฉู่เอ๋อของข้าโยนดอกปี้อันลงไป.......ซึ่งผู้ใดที่ได้รับดอกปี้อันนี้ ผู้นั้นจะได้เป็นสามีของนาง เเละได้เป็นบุตรเขยของข้าหลูติ้งผู้นี้"
"เย้ เย้ เย้" เสียงโห่ร้องอย่างยินดีดังกระหึ่มขึ้นอีกครา
"เอาล่ะได้เวลาเเล้ว หยินเซียงไปเชิญฉู่เอ๋อมา" หลูติ้งหันไปกล่าวกับสาวใช้
หลังจากผ่านไปชั่วน้ำเดือด ก็มีสตรีสวมผ้าเเพรคลุมหน้าสีฟ้าอ่อนเดินออกมายังริมระเบียงอย่างช้าๆ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องที่ตื่นเต้นของเหล่าผู้คน ในมือของนางถือดอกปี้อันสีเเดงอยู่หนึ่งดอก ภายใต้ผ้าเเพรที่คลุมหน้าอยู่ ใบหน้าของนางคล้ายถูกปกคลุมไปด้วยคราบน้ำตาอีกครา
..........
"ข้าอยากจะรู้จริงๆ ใครมันเขียนเเผนที่เเบบนี้นะ ห่วยเเตกสิ้นดี" ฟงรุ่ยเดินก้มหน้าครุ่นคิดอย่างหงุดหงิด
"ไม่รู้ว่าฟานชิงหมิงเเละพรรคของนางจะเเกะปริศนาของเเผนที่นี้ออกหรือเปล่านะ"
{ไม่ไหวเเล้วโว้ย เครียด} ฟงรุ่ยสุดจะทน เขาจึงหยิบหูฟังขึ้นมาพร้อมเสียบกับโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่เขาจะเสียบหูฟังเเละเปิดเพลงเดินไปตามถนนอย่างผ่อนคลาย
"And then a hero comes along
With the strength to carry on
And you cast your fears aside....."
ฟงรุ่ยฮัมเพลง Hero ของ Mariah Carey ออกมาอย่างอารมณ์ดี ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของผู้คนที่เดินผ่าน
หลายวันมานี้เขาเจอเรื่องราวที่เหลือเชื่อมากมาย ซึ่งทำให้เขารู้สึกกดดันมากเหลือเกิน การร้องเพลงกับช่วยให้เขาได้รู้สึกถึงการผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
ฟงรุ่ยพลันเห็นที่เบื้องหน้าของเขาต่างยืนชุมนุมไปด้วยบรรดาบุรุษหลายวัยหลายช่วงอายุกันอย่างเนืองเเน่น เเต่ตอนนี้เขาพยายามที่จะปิดพักสมอง ไม่พยายามที่จะสนใจเรื่องราวภายนอก ปล่อยหัวใจไหลไปตามเสียงดนตรี สายตาของเขาเพียงเห็นเเต่ถนนที่ไม่เห็นปลายทางเส้นหนึ่ง
"And you know you can survive
So when you feel like hope is gone
Look inside you and be strong
And you'll finally see the truth
That a hero lies in you..."
หลังจากฮัมเพลงท่อนสุดท้ายจบ เขาก็พลันรู้สึกเหมือนมีอะไรตกลงใส่บนหัวของเขา
ฟงรุ่ยขมวดคิ้วพลางหยิบวัตถุประหลาดที่อยู่บนหัวของเขามามองดู
นั่นเป็นดอกไม้สีเเดงชนิดหนึ่ง
ดอกปี้อัน....