เดินทาง
ยามค่ำคืน เดอะบัน เซี่ยงไฮ้
เเม้ว่าตอนนี้เป็นยามค่ำคืน หาดไว่ทานเส้นนี้ยังคงมีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินไปมาอย่างขวักไขว่ เเละที่ริมระเบียงทางเดิน ปรากฏผู้ชายกับผู้หญิงสองคนยืนหันหน้าหากันอยู่ ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมา พวกเขาคล้ายกับไม่รับรู้เรื่องราวใด
"อาหยู ช่วยบอกเหตุผลกับฉันตรงๆได้ไหม" ผู้ชายคนนั้นกล่าวด้วยความเศร้า
"อาฟง พวกเราฝืนกันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ฉันมองไม่เห็นอนาคตของพวกเราเลย" ผู้หญิงคนนั้นกล่าวด้วยท่าทีเย็นชา
"อะไรทำให้เธอเปลี่ยนไป ฉันไม่เข้าใจ" ผู้ชายคนนั้นกัดฟันกล่าวอย่างเจ็บปวด
"พวกเราต่างก็โตเเล้ว ฉัน...ก็ต้องการอนาคตที่ดีสำหรับตัวฉันเอง ...เธอน่ะ ไม่ว่าบ้านหรือรถ เธอก็ยังไม่มี..เเค่ที่พัก เธอก็ยังต้องเช่าอยู่เลย" ผู้หญิงคนนั้นหลุบตาลงกล่าว
"เรื่องนี้น่ะ เธอไม่ต้องกังวลหรอก อีกไม่นาน ฉันจะต้องมีให้ได้" ผู้ชายคนนั้นกล่าวอย่างร้อนใจ
"ด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดของเธอน่ะเหรอ ฟงรุ่ย ฉันไม่อยากรอเเล้ว" ผู้หญิงคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่เธอจะค่อยๆเดินผ่านหน้าฟงรุ่ยไป
"หยูเมิ่ง อย่าไปเลยนะ" ฟงรุ่ยน้ำตาเริ่มซึมออกมา มือของเขาพลันยื่นคว้าข้อมือของหยูเมิ่งไว้
หยูเมิ่งหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะสะบัดมือของฟงรุ่ยออกไป ก่อนที่จะเดินจากไปโดยไม่เหลียวเเล ฟงรุ่ยได้เเต่มองตามเงาหลังของหยูเมิ่งด้วยสายตาที่พร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตา
"อาหยู อย่าไปนะ" ฟงรุ่ยตะโกนพลันสะดุ้งตัวขึ้นมานั่ง
"เจ้าตะโกนหาใคร" ฟานชิงหมิงซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆหันมาถาม
ที่เเท้หลังจากเมื่อคืนหลังจากทำภารกิจสำเร็จ ฟานชิงหมิงกลัวว่าพรรคหมงจู่จะรู้ความจริงเเล้วออกตามล่านาง นางจึงรีบพาฟงรุ่ยควบม้าตะบึงออกนอกเมืองเจียงหลิง จนมางับหลับยังใต้ต้นไม้ริมธารเเห่งหนึ่ง
{นี่เรา ฝันไปงั้นเหรอ} ฟงรุ่ยหน้าตามีความเเกตตื่นตกใจ
"อ่อ ไม่มีอะไร" ฟงรุ่ยกล่าว
"ชื่อสตรีที่เจ้าเรียกเมื่อครู่ เป็นชื่อคนรักของเจ้าเหรอ" ฟานชิงหมิงพลันถามขึ้น
"คนรักเหรอ ข้าไม่มีคนรักหรอก" ฟงรุ่ยกล่าวอย่างเลื่อนลอย
"เเล้วอาหยูเป็นใคร" ฟานชิงหมิงไม่ยอมละความพยายามที่จะถาม
"เป็นชื่อหมาของข้าที่เคยเลี้ยงไว้ เเต่มันจากข้าไปเเล้ว" ฟงรุ่ยกล่าวด้วยท่าทีที่เศร้าใจ
"เจ้าตั้งชื่อหมาได้ตลกจริงๆ ยังกับชื่อสตรีเลย" ฟานชิงหมิงอดที่จะหัวเราะไม่ได้
"จริงสิ ข้าขอดูลายเเทงสมบัติที่เจ้าไปเอามาหน่อยสิ ว่ามันเป็นของจริงไหม" ฟงรุ่ยพลันนึกอะไรได้
"เจ้าคิดจะหลอกให้ข้าเอาเเผนที่ให้เจ้าดู เเล้วเจ้าก็จะชิงมันไปจากข้าล่ะสิ" ฟานชิงหมิงกล่าวอย่างเย็นชา
"เจ้าไม่ใช่บอกว่าจะเเบ่งส่วนให้ข้าหรอกเหรอ"
"เเต่ข้าต้องเป็นคนนำทางเจ้า ไม่ใช่ให้เจ้าไปเอง"
"อันที่จริง ข้าเองก็มีวิชาตาทิพย์ สามารถมองเห็นเเผนที่ที่เจ้าเก็บไว้ได้อย่างชัดเจน" ฟงรุ่ยปั้นหน้าเครียด
"คิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าเหรอ" ฟานชิงหมิงเย้ยหยัน
"สมบัตินั่น ซ่อนอยู่ไว้ที่ภูเขาเเห่งหนึ่งใช่ไหมล่ะ" ฟงรุ่ยเเย้มยิ้ม
ฟานชิงหมิงถึงกับสะดุ้งเฮือกใหญ่
"เเล้วก็ยังซ่อนไว้ในถ้ำลึกลับเเห่งหนึ่งภายในภูเขาด้วย" ฟงรุ่ยเเสยะยิ้ม
{วัดใจไปเลย พลอตหนังกำลังภายใน ส่วนมากพวกสมบัติไรพวกนี้ก็ต้องซ่อนไว้ที่พวกหุบเขาเนี่ยเเหละ} ฟงรุ่ยครุ่นคิด
"เจ้า.....หรือเจ้าจะเป็นเทพเซียนจริงๆ" ฟานชิงหมิงอ้าปากค้าง ก่อนที่นางจะล้วงกระดาษสีเหลืองขุ่นใบหนึ่งออกมาจากเเขนเสื้อเเละส่งให้ฟงรุ่ยดู
{เหลือเชื่อ เดาถูกด้วย} ฟงรุ่ยร่ำร้องในใจ ก่อนจะรีบหยิบเเผนที่ใบนั้นมาดู
{เวรกรรม ตัวอักษรโบราณ เราอ่านไม่ออก....ถ้าจะถามชื่อสถานที่จากนาง เเผนเราก็คงเเตกเเน่....}
ฟงรุ่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเเล้ว ถ่ายรูปเเผนที่สมบัตินั้นเก็บไว้
{อย่างน้อยมีรูปเเผนที่ลายเเทงเเล้วก็ไม่เป็นไร เรื่องสถานที่ค่อยหาทางเอาเอง} ฟงรุ่ยคิดในใจ
"เจ้าทำอะไร" ฟานชิงหมิงสงสัย
"ไม่ผิดเเน่ คือสถานที่นี้จริงๆ"
"เจ้าเก่งกาจขนาดนี้ สนใจจะเข้าพรรคดอกไม้เเดงของพวกเราหรือไม่" ฟานชิงหมิงกล่าวด้วยท่าทีที่ชื่นชม
{หรือเราจะควรเออออตามนางไปก่อน เพราะตอนนี้เราก็ไม่มีเงิน ถ้าเเยกกับนางไปตอนนี้มีหวังอดตายเเน่ๆ}
"นั้นข้าขอตามเจ้าไปดูพรรคของเจ้าซักหน่อย ว่ามีความเก่งกาจเพียงใด หากข้าชื่นชอบ ข้าก็อาจจะขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกในพรรคเจ้า" ฟงรุ่ยกล่าว
"ท่านรองประมุขจะต้องชื่นชอบเจ้าเเน่" ฟานชิงหมิงกล่าว
"เจ้าเวลาไม่ได้โกรธนี่ ก็น่ารักดีนะ" ฟงรุ่ยกล่าว
"เจ้าชมเเบบนี้กับสตรีทุกคนเลยรึเปล่า" ฟานชิงหมิงกล่าวช้าๆ
"นี่เเม่นางฟาน ข้าพึ่งจะลงจากเขา เจ้าเป็นสตรีคนเเรกที่ข้าได้รู้จัก" ฟงรุ่ยหัวเราะ
"จริงเหรอ" ฟานชิงหมิงกล่าวเบาๆ
{คิดไม่ถึง หลอกคนยุคโบราณจะสนุกเเบบนี้นี่เอง} ฟงรุ่ยลอบหัวเราะในใจ
"เเต่เจ้ายังไม่เคยเห็นใบหน้าข้า ถ้าหากข้าเป็นสตรีที่อัปลักษณ์เจ้าจะยังชมข้าเช่นนี้เหรอ"
"เเน่นอน" {ถ้าเจ้าอัปลักษณ์ฉันจะชมเพื่อ....} ฟงรุ่ยสบถ
"หึ พวกเราเดินทางกันต่อเถอะ" ฟานชิงหมิงเเค่นเสียงราวกับไม่เชื่อในคำพูดของฟงรุ่ย
{เอาจริงๆนะ ฉันอยากกลับบ้านเเล้ว ให้ตายเถอะ}
"ไปเร็วเราจะไปลั่วหยางกัน" ฟานชิงหมิงกล่าว
"นี่เเม่นาง เจ้าพอจะให้เงินข้าติดตัวไว้หน่อยได้หรือไม่ ข้า...ข้าไม่มีเงินเลย" ฟงรุ่ยกล่าว
"ถ้าข้าให้เงินกับเจ้า เจ้าก็อาจจะหนีไปตั้งนานเเล้วก็ได้" ฟานชิงหมิงเเค่นเสียง
{รู้ดีจังวะ} ฟงรุ่ยสบทในใจ
.........
หลังจากเดินทางหลายวันหลายคืน ทั้งคู่ก็มาถึงเมืองเจิ้งโจว ทางผ่านไปยังเมืองลั่วหยาง
ทั้งคู่รีบเข้าไปพักยังโรงเตี๊ยมเเห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับถนนคนเดินภายในเมือง
"เจ้าว่าพรรคหมงจู่จะยังตามเรามาไหม" ฟงรุ่ยถาม
"ของที่ล้ำค่าหายไปเเบบนั้น พวกมันไม่ร้อนใจออกตามหาสิเเปลก" ฟานชิงหมิงกล่าว
"เเล้วเมื่อเจ้ากลับไปถึงพรรคเจ้าเเล้ว เจ้าจะทำยังไงต่อ จะรีบไปหาสมบัติเลยไหม"
"ข้าตัดสินใจไม่ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับท่านประมุขใหญ่"
"เเล้วเเบบนี้เมื่อไหร่ข้าจะได้ส่วนเเบ่ง" ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว
"เจ้านี่มันละโมบจริงๆ" ฟานชิงหมิงเเค่นเสียง
{โชคดีที่เราถ่ายรูปเเผนที่เก็บไว้เเล้ว ไม่จำเป็นต้องรออะไรหรอก} ฟงรุ่ยยิ้มในใจ