บท
ตั้งค่า

ลายเเทงสมบัติ

เมืองเจียงหลิง

เมืองเจียงหลิงถือเป็นประตูเชื่อมสู่ภาคกลางจากทางใต้ จึงไม่เเปลกใจที่เป็นเมืองใหญ่ มีผู้คนเดินตามท้องถนนเดินกันขวักไขว่ไม่ขาดตอน รวมถึงฟงรุ่ยเเละฟานชิงหมิงด้วย เวลานี้ยังเป็นเวลากลางวัน ทำให้เส้นทางสายนี้ดูครึกครื้นเป็นพิเศษ

{จริงๆร่วมทางกับนางก็ดีเหมือนกันนะ เพราะเราไม่มีเงินยุคโบราณ อย่างน้อยนางก็ซื้ออาหารให้เราได้} ฟงรุ่ยคิดในใจ

"พวกเราเเวะเข้าไปยังโรงเตี๊ยมทางด้านนั้นเถอะ" ฟานชิงหมิงกล่าวพลางจูงม้าเดินย่างไปข้างหน้า

เเชะ

เสียงชัตเตอร์ดังขึ้น

เป็นฟงรุ่ยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายภาพบรรยากาศเมืองเจียงหลิงในยุคราชวงศ์ถัง

"เกิดเรากลับไปในยุคปัจจุบันได้ ภาพนี้ต้องมีมูลค่าสูงมากเเน่ๆ" ฟงรุ่ยเเสยะยิ้ม

"เจ้ากำลังทำอะไร" ฟานชิงหมิงหันมาถาม

เเชะ

ฟงรุ่ยกดถ่ายรูปนางอีกครา

"เห้อ เสียดายที่ไม่เห็นใบหน้าของเจ้า" ฟงรุ่ยกล่าว

"หากเจ้ายังไม่รีบตามมา เเส้ของข้าก็คงได้เอาออกมาใช้" ฟานชิงหมิงกล่าวอย่างเย็นชา

{ให้ตายเหอะ คิดถึงบ้านจริงๆ} ฟงรุ่ยส่ายหัวเบาๆก่อนจะค่อยๆเดินตามหลังมา

หลังจากจองห้องพักอะไรเรียบร้อยเเล้ว ฟานชิงหมิงก็พาฟงรุ่ยเข้าไปในห้องเพื่อทำการวางเเผน

"เอาล่ะข้าจะบอกเเผนการณ์ของข้า" ฟานชิงหมิงค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้กลางห้อง

"เเล้วทำไมเจ้าต้องให้ข้ามาช่วยล่ะ คนของพรรคเจ้ามีเเค่เจ้าคนเดียวหรือไง" ฟงรุ่ยกล่าว

"พรรคเราเคลื่อนไหวไม่โจ่งเเจ้ง ทุกภารกิจ น้อยคนจะดีที่สุด"

"เเสดงว่าข้าคงสำคัญต่อเจ้ามากเลยสิ เจ้าถึงกับดึงข้ามาเกี่ยวด้วย" ฟงรุ่ยหัวเราะ

"หึ ข้าขี้เกียจพูดไร้สาระกับเจ้าเเล้ว สิ่งที่ข้าต้องการก็คือ......"

"เดี๋ยวก่อน เเล้วเจ้าไว้ใจข้าเหรอ เจ้าจะเเน่ใจได้ไงว่าข้าไม่ใช่ศัตรูของเจ้าที่ปลอมตัวเข้ามา" ฟงรุ่ยถาม

"หึ ตอนนั่งอยู่บนหลังม้า ข้าจงใจเปิดจุดอ่อนให้เจ้าโจมตีหลายครั้งเพื่อลองใจเจ้า เเต่เจ้าก็ไม่ได้ทำ ดังนั้นข้าจึงมั่นใจ"

{ใครบอกว่าคนยุคโบราณโง่กัน} ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว

"ข้าต้องการลายเเทงสมบัติขุมทรัพย์ของหลี่เจี้ยนเฉิง"

"หลี่เจี้ยนเฉิง นั่นพี่น้องของหลี่ซื่อหมินนี่ หรือว่าตอนนี้ฮ่องเต้คือหลี่ซื่อหมิน" ฟงรุ่ยกล่าวอย่างตกใจ

"โอ้วนึกไม่ถึง คนบนเขาบนดอยอย่างเจ้าจะมีความรู้อยู่บ้าง เเต่เจ้าเดาผิดไปเรื่องนึง ตอนนี้ฮ่องเต้ถังคือถังเกาจง หลี่จื้อ"

"ชื่อนี้ทำไมข้าไม่คุ้นเเฮะ สงสัยเราเรียนวิชาประวัติศาสตร์มาน้อย" ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว

"ก็คือลูกของหลี่ซื่อหมินไง" ฟานชิงหมิงอธิบาย

"อ่อ เเล้วพรรคดอกไม้เเดงของเจ้า ต้องการลายเเทงสมบัติของหลี่เจี้ยนเฉิงไปทำอะไร"

"เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ รู้เเค่ว่าถ้าปล่อยสมบัติพวกนั้นทิ้งไว้ก็เสียดายเเน่"

"เเล้วเจ้ามั่นใจได้ยังไงว่าสมบัตินั่นจะมีอยู่จริงๆ"

"ความจริงก็คือ หลี่เจี้ยนเฉิงได้ซ่องสุมอาวุธเเละยุธนูปกรณ์รวมถึงสมบัติมีค่ามากมายไว้ยังสถานที่เเห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมสู้เเตกหักกับหลี่ซื่อหมิน เพียงเเต่ว่าเกิดเหตุการณ์ที่ประตูเสวียนอู่ขึ้นมาก่อน สมบัติพวกนั้นจึงยังไม่ได้ถูกนำมาใช้"

"ดูเจ้ามั่นใจมากนะ ว่ามันคือเรื่องจริง"

"หึ เอางี้ ถ้างานสำเร็จ ข้าจะเเบ่งสมบัติส่วนนึงให้เจ้า เพียงพอต่อการใช้สอยไปตลอดชีวิต" ฟานชิงหมิงกล่าว

"ถ้างั้นก็ต้องขอบคุณเเม่นางฟานเเล้ว" {หึ ถ้าฉันเจอสมบัตินั่นจริงๆ อย่าหวังเลยว่าจะได้เเบ่งกัน บทเรียนครั้งก่อนที่โดนเจ้าพวกบ้านั่นหักหลังก็มีเเล้ว} ฟงรุ่ยยิ้มกล่าว

"เมืองเจียงหลิงมีพรรคอยู่พรรคหนึ่งซึ่งมีหน้ามีตาในยุทธภพ ชื่อพรรคหมงจู่ ที่ตั้งของพรรคอยู่เขตใจกลางเมือง ล้อมรอบด้วยธารน้ำหลายสาย"

"เจ้าไม่ต้องพูดต่อข้าก็รู้เเล้วว่าลายเเทงนั่นต้องอยู่ภายในพรรคนั่น" ฟงรุ่ยกล่าว

"ฉลาดดีนี่ ถูกเเล้ว สายของข้าที่มาสำรวจก่อนหน้านี้รายงานไว้ไม่ผิดเเน่ เพียงเเต่ เจ้าสำนักหมงจู่เเละบุตรชายของเขาออกจะตึงมือซักหน่อย ดังนั้น....เจ้าต้องไปล่อพวกมันออกจากตึกให้ข้า"

"เดี๋ยวก่อน ในเมื่อพวกมันมีลายเเทงสมบัติจริงๆ ทำไมพวกมันยังรีรออยู่ล่ะ ไม่รีบไปเอาสมบัติ" ฟงรุ่ยถาม

"ก็เพราะ พรรคหมงจู่ เป็นพรรคที่หลี่เจี้ยนเฉิงก่อตั้งขึ้นมาน่ะสิ" ฟานชิงหมิงกล่าว

"ว่ายังไงนะ" ฟงรุ่ยตกใจ

"ตอนนี้ พวกมันเลยยังรอดูถ้าทีของสถานการณ์ในเมืองหลวงเพื่อรอโอกาสก่อการ"

"เเล้วทำไมหลี่ซื่อหมินไม่กวาดล้างพรรคเเบบนี้ไปล่ะ"

"เพราะหลี่ซื่อหมินเองก็ไม่รู้ นอกจากพรรคดอกไม้เเดงเรา คนอื่นๆก็ไม่รู้เหมือนกัน"

"พรรคของเจ้าข่าวกรองเเม่นยำขนาดนี้เชียวเหรอ" ฟงรุ่ยกล่าว

"ใช่เเล้ว ไม่อย่างงั้น พวกเราจะเเยกกันทำภารกิจทีละคนเหรอ"

"เเล้วพวกเจ้าจะเอาพวกสมบัติเเละอาวุธเหล่านั้นไปทำอะไร หรือว่าพวกเจ้าคิดจะ"

"เรื่องนี้นั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ รู้เเต่เพียงว่าเจ้าเองก็จะได้ส่วนเเบ่งด้วย" ฟานชิงหมิงกล่าว

{เเต่ประวัติศาสตร์ช่วงนี้ ก็ไม่เห็นจะมีการก่อกบฏอะไรนี่ หรืออาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิด}

"เอาล่ะ ไหนเจ้าลองใช้วิชาเสียงก้องอำไพให้ข้าดูอีกทีซิ ข้าจะได้มั่นใจ คืนนี้พวกเราจะได้ลงมือ"

"เดี๋ยวก่อน เเล้วถ้าเป็นเเบบนั้น พวกคนในนั้นมันก็จะมารุมฆ่าข้าน่ะสิ เเล้วข้าจะทำยังไง" ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว

"เจ้าหาหางเอาตัวรอดเอาเองก่อนเเล้วกัน ข้าใช้เวลาไม่นานหรอก เดี๋ยวข้าจะออกมาช่วยเจ้า" ฟานชิงหมิงกล่าวอย่างสบายอารมณ์

{เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา ผู้หญิงอะไรเนี่ย} ฟงรุ่ยด่าทอในใจ

"เร็วสิ ข้ารอดูอยู่"

ฟงรุ่ยจึงค่อยๆหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาอย่างช้าๆ จนฟานชิงหมิงอ้าปากค้างราวกับไม่เคยพบเห็นสิ่งของเเปลกประหลาดเช่นนี้

"นี่เเหละ วิชาของข้า" ฟงรุ่ยเเสยะยิ้มพลางใช้นิ้วมือกดลงไปยังหน้าจอโทรศัพท์เครื่องนั้น

จากนั้นก็ปรากฏเสียงเพลงท่วงทำนองที่ไพเราะออกมาจากสิ่งที่ฟงรุ่ยกดลงไปนั้น

ฟานชิงหมิงพอฟังถึงกับเผยอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่ฟงรุ่ยจะกดปิดเพลงนั้นไป

"เป็นบทเพลงอะไรกัน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มันมีเเรงดึงดูดที่น่าประหลาดมาก ทั้งไพเราะ ทั้งน่าลุมหลง" ฟานชิงหมิงกล่าวอย่างตกใจ

"เเต่เจ้าก็น่าลุ่มหลงเช่นกันนะ" ฟงรุ่ยสบโอกาสหยอกเย้า

"หึ เจ้ายังไม่เคยเห็นใบหน้าของข้า เเน่ใจได้ยังไงว่าข้าน่าลุ่มหลง" ฟานชิงหมิงกล่าวอย่างเย็นชา

"เหอะ ข้าก็เเค่ล้อเล่นเท่านั้นเเหละ ผู้หญิงที่เย็นชาเช่นเจ้า ไม่ใช่สเปคข้าหรอก" ฟงรุ่ยเเค่นเสียง

"สเปคเหรอ เจ้าหมายความว่าอะไร" ฟานชิงหมิงถาม

"I dont want to tell you stupid girl" ฟงรุ่ยหัวเราะกล่าว

เสียงเเส้ฟาดลงยังใจกลางห้องอีกครา จนฟงรุ่ยต้องกระโดดตัวขึ้นไปบนเตียงอย่างตกใจ

"หากเจ้ายังไม่พูดภาษาที่ข้าเข้าใจอีก วันนี้ปีหน้าจะเป็นวันครบรอบการตายของเจ้า" ฟานชิงหมิงกล่าวเสียงเหี้ยมเกรียม

"ความหมายก็คือ เจ้าน่ะน่ารัก ใจดี มีเสน่ห์" ฟงรุ่ยยิ้มเเห้ง

ฟานชิงหมิงถึงกับนิ่งไปชั่วครู่ ไม่รู้ว่านางตอนนี้กำลังเขินอายหรือกำลังโกรธ

"นี่ ข้าขอดูเจ้าวัตถุประหลาดของเจ้าที่ส่งเสียงเพลงได้หน่อยสิ" ฟานชิงหมิงพลันเปลี่ยนเรื่อง

"ไม่ได้ เจ้าสิ่งนี้ ถ้าห่างจากข้า มันจะหมดพลังไม่สามารถกระทำการใดได้ ถ้าหากจะใช้ได้ ต้องรอไปอีกหนึ่งเดือน" ฟงรุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

"ขนาดนั้นเลยเหรอ นั้นข้าไม่ดูก็ได้" ฟานชิงหมิงอุทานอย่างตกใจ

{เสียดายจริงๆ นี่ถ้าเราพกปืนมากระบอกนึง ป่านนี้เราคงครองเเผ่นดินละ} ฟงรุ่ยคิดอย่างเสียดาย

"คืนนี้ยามสาม พวกเราจะลงมือ" ฟานชิงหมิงกล่าว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel