มุ่งหน้าสู่เจียงหลิง
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ฟานชิงหมิงก็ได้กลับมาพร้อมกับหยิบปอยผมที่ยาวสลวยกระจุกหนึ่งพร้อมด้วยชุดเเต่งกายเเบบชาวบ้านยุคโบราณสำหรับผู้ชายมาชุดหนึ่ง
"เอานี่ ใส่ซะ" ฟานชิงหมิงโยนสิ่งของวางไว้ข้างกายของฟงรุ่ย พลางคลายจุดที่สกัดอยู่ให้เขา
"ชุดนี่ข้ายังพอเข้าใจ เเต่ผมนั่นเจ้าไปเอามาจากไหน" ฟงรุ่ยลืมตากว้าง
"เจ้าไม่ต้องถามมากความรีบใส่ซะ"
"เเล้วถ้าเจ้าของผมนี่เขาเป็นเหาหรือชันนะตุล่ะ ข้าจะไม่เเย่หรอกเหรอ" ฟงรุ่ยเบ้ปาก
เสียงเเส้ตวัดกับพื้นดังขึ้นอีกครา จนฟงรุ่ยต้องได้เเต่ยิ้มเเห้งๆเเละรีบเปลี่ยนชุดเเละทรงผมในทันที
"พอเจ้าเเต่งกายเช่นนี้ก็ใช้ได้ ดีกว่าการเเต่งกายประหลาดของเจ้าเมื่อครู่" ฟานชิงหมิงกล่าว
"เหอะ ถ้าเจ้ามาอยู่ในยุคข้า ชุดเเบบพวกเจ้าน่ะเเหละถึงประหลาด" ฟงรุ่ยเเค่นเสียงเบาๆ
"เจ้าว่าอะไร" ฟานชิงหมิงกล่าว
"เปล่าๆๆ" จากนั้นฟงรุ่ยรีบเอามือล้วงไปค้นของยังเสื้อผ้าชุดเก่า ว่ามีอะไรบ้าง
{โทรศัพท์มือถือ สายชาร์ตเเบต กระเป๋าตัง หูฟัง พาวเวอร์เเบ้ง ยาพาราซองนึง......มีเเค่นี้เองเหรอ บ้าบอสิ้นดี} ฟงรุ่ยสบถในใจ ก่อนที่เขาจะรีบหยิบสิ่งของเหล่านั้นมาซ่อนไว้ในเเขนเสื้อชุดโบราณที่เขาใส่อยู่
"เสร็จหรือยัง พวกเราจะเดินทางกันต่อ" ฟานชิงหมิงถาม
"เสร็จเเล้ว รอเเปปนึงนะ" ฟงรุ่ยรีบเก็บเสื้อกันหนาวกับกางเกงขายาวเข้าไปในห่อผ้าที่วางไว้ข้างเตียง
"ดูเหมือนว่า ข้าจะลืมเอารองเท้ามาให้เจ้าเปลี่ยนนะ" ฟานชิงหมิงกล่าวอย่างนึกได้
ที่เเท้ตอนนี้ฟงรุ่ยยังคงใส่รองเท้าผ้าใบสีดำอยู่นั่นเอง
"ไม่ต้องยุ่งยากหรอก ข้าชินกับรองเท้าเเบบนี้มากกว่า" ฟงรุ่ยรีบโบกมือปฏิเสธ
"ก็ได้นั้นเราไปกันเถอะ"
ฟงรุ่ยได้เเต่ยิ้มเเห้งๆ ก่อนที่จะเดินตามนางไปอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะเดินผ่านประตูห้องไป เขาพลันเหลือบไปมองกระจกทองเหลืองที่อยู่ด้านข้างบานหนึ่ง
จากนั้นตัวของเขาที่อยู่ในกระจกด้วยชุดเเละทรงผมโบราณได้ปรากฏขึ้นมาต่อสายตาเขาในทันใด
{นี่ ไม่ใช่ความฝันจริงๆดิ} ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว ก่อนที่จะถอนหายใจเเล้วเดินออกไป
เมื่อฟงรุ่ยเดินออกมาจากห้องเขาจึงพบว่า ที่นี่กลับเป็นโรงเตี๊ยมเเห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ฟงรุ่ยเดินตามฟานชิงหมิงมายังชั้นล่าง ก่อนที่จะจ่ายเงินเเละเดินออกไป
"เเม่นางฟาน เจ้าจะไปที่ใด" ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว
"เมืองเจียงหลิง" ฟานชิงหมิงตอบ
"เดินไปเหรอ" ฟงรุ่ยกล่าวอย่างตกใจ
"ขี่ม้าไปสิ ข้ามีม้าอยู่เเล้ว เดี๋ยวข้าจะไปซื้อม้ามาให้เจ้าอีกตัว"
"เอ่อ เจ้าไม่ต้องซื้อม้าให้ข้าหรอก...ข้าขี่ม้าไม่เป็น" ฟงรุ่ยยิ้มเเห้ง
ฟานชิงหมิงจึงยืนนิ่งคล้ายกับกำลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
"นั้นเจ้านั่งหลังข้าละกัน" กล่าวจบนางจึงเดินไปจูงม้าออกมาจากคอกด้านข้างโรงเตี๊ยมตัวหนึ่ง
{ย้อนเวลามาอดีตเหรอ บ้าบอสิ้นดี คงไม่ใช่เราได้ตายไปเเล้วจริงๆนะ วิญญาณจึงล่องลอยมาตามตรรกะที่ไร้เหตุผลเช่นนี้} ฟงรุ่ยถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยความคับข้องใจ
{ถ้าหากเราย้อนมาที่นี่จริงๆ เเล้วเราจะกลับไปโลกปัจจุบันได้ยังไงล่ะ} ฟงรุ่ยเบ้ปากครุ่นคิดอย่างหงุดหงิด
"ขึ้นมา" เสียงของฟานชิงหมิงดังจนทำให้ฟงรุ่ยสะดุ้งตัว
เขาค่อยๆพยายามปีนขึ้นม้ายังที่นั่งด้านหลังนางอย่างทุลักทุเล
"นี่ ข้าจับเอวเจ้าได้ไหม ข้ากลัวตก" ฟงรุ่ยถาม
"เจ้ากล้าเหรอ จับเเส้ข้าไว้ละกัน" ฟานชิงหมิงเเค่นเสียง จากนั้นนางก็ควบม้าไปด้วยความเร็วสูง
ทั้งคู่ได้ขี่ม้าออกมานอกเมืองหางโจวระยะเวลาหนึ่ง
ฟงรุ่ยเเทบจะเคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นกายสาวบนตัวนาง จนเขาอดจะสูดดมเบาๆไม่ได้
{เเปลกจริงๆ ดูจากรูปการณ์เเล้ว เธอน่าจะเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง เเล้วจะคลุมหน้าไว้ทำไม} ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว
"นี่ เจ้ายังไม่เคยบอกข้าเลยว่าเจ้าเป็นใคร เเล้วจะให้ข้าไปช่วยงานอะไรเจ้า"
"เจ้าคงไม่รู้จักพรรคดอกไม้เเดงหรอก ข้าบอกเจ้าไปเเล้วจะมีประโยชน์อะไร" ฟานชิงหมิงกล่าว
{ดอกไม้เเดง คนโบราณมีตั้งพรรคสมาคมไรพวกนี้ด้วยเเฮะ เหมือนในหนังจีนเลย} ฟงรุ่ยคิด
"เช่นนี้เจ้าก็คงเป็นคนของพรรคดอกไม้เเดงเเล้ว" ฟงรุ่ยกล่าว
"ใช่"
"เเล้วนี่เจ้ากำลังจะไปทำอะไรที่เมืองเจียงหลิง คงไม่ใช่จะไปฆ่าคนหรอกนะ" ฟงรุ่ยกล่าว
"ถ้ามีคนมาขวางก็คงต้องฆ่า เเต่เจ้าไม่ต้องกลัว งานของเจ้าเเค่ทำเป็นตัวล่อ"
{จะหลอกใช้เราอย่างงั้นเหรอ หึ รอจนเรารู้ว่านางคิดจะทำอะไร ค่อยลงมือซ้อนเเผนเอาดีกว่า} ฟงรุ่ยเเสยะยิ้ม
...........
หลังจากทั้งสองคนเดินทางตรากตรำมาหลายชั่วยาม ฟานชิงหมิงจึงเเวะยังโรงเตี๊ยมเล็กๆข้างทางเเห่งหนึ่งเพื่อหาอะไรกิน
"เอาอะไรก็ได้ที่อร่อยๆมาสองที่" ฟานชิงหมิงกล่าวพลางนั่งลงที่โต๊ะ
"ได้ครับนายท่าน" คนรับใช้รีบยิ้มกล่าวประจบ
"เเล้วเจ้าจะไม่ถามข้าหน่อยเหรอว่าข้าอยากกินอะไร" ฟงรุ่ยกล่าว
"อย่าเรื่องมาก ข้ากินอะไร เจ้าก็ต้องกินเเบบข้า" ฟานชิงหมิงกล่าว
{ผู้หญิงเเบบนี้ ฉันล่ะเชื่อเลย} ฟงรุ่ยหงุดหงิดพลางล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอย่างกังวล
{ดีนะก่อนออกจากห้องตอนนั้นเราชาร์ตเเบตมาเต็ม เเล้วยังมีพาวเวอร์เเบ้งมาสำรองอีก เเต่.......จะมีประโยชน์อะไรกับการที่อยู่ในสถานที่เเบบนี้} ฟงรุ่ยยกมือขึ้นกุมหัว
"มาเเล้วขอรับ" เสียงคนรับใช้ดังขึ้นมา
ก่อนที่จะมีบะหมี่ร้อนๆสองชามวางอยู่ตรงหน้า
{จริงสิ ยังไงเวลากินนางก็จะต้องถอดเเพรคลุมหน้าออกมา เราจะเเอบดูดีกว่า} ฟงรุ่ยเเสยะยิ้มในใจ
"เจ้าหันหน้าไปทางอื่น" ฟานชิงหมิงพลันกล่าว
"นี่ ข้าถามจริงๆเถอะ เจ้ากลัวผุ้คนจะเห็นใบหน้าของเจ้าขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ภารกิจนี้จะผิดพลาดไม่ได้ ป้องกันไว้ดีที่สุด" ฟานชิงหมิงกล่าว ในที่สุดฟงรุ่ยก็ต้องยอมถือชามบะหมี่หันหน้าไปกินทางอื่น
"หากข้าเดาไม่ผิดต้องเป็นพวกหัวหน้าพรรคหรืออาจารย์อะไรของเจ้าต้องกำชับเจ้ามาเเบบนี้เเน่" ฟงรุ่ยกล่าว
"ทำไมเจ้าถึงรู้.." ฟานชิงหมิงกล่าวไม่ทันจบประโยคนางจึงหยุดด้วยความตกใจ
"ข้าเองก็ดูหนังจีนมาเยอะ ลองเดาๆดูก็มีไม่กี่เหตุผลหรอก ฮ่าๆๆ" ฟงรุ่ยหัวเราะ
"หนังจีนเหรอ เป็นสิ่งของอันใด ช่วยในการอ่านใจคนเหรอ" ฟานชิงหมิงกล่าวอย่างตื่นเต้น
"เหอะ ไม่มีอะไรหรอก ข้าก็เเค่คาดเดาเท่านั้น" ฟงรุ่ยตัดบทอย่างรำคาญ
{ไม่รู้ว่าป่านนี้ไอจางเหวินอี้กับหม่าเทียนฉงพวกมันจะกลายเป็นมหาเศรษฐีในเซี่ยงไฮ้หรือยัง เจ็บใจโว้ย} ฟงรุ่ยกำหมัด
"เจ้าเองเเปลกประหลาดจริงๆ ครอบครัวของเจ้าอยู่ที่ไหนเหรอ" ฟานชิงหมิงเริ่มมีความอยากรู้ต่อเบื้องหลังของชายหนุ่มที่ดูน่าค้นหาผู้นี้
"ข้ากำพร้า อาจารย์รับเลี้ยงข้าไว้บนภูเขาตั้งเเต่เด็ก" {ถามไรนักหนาวะ จะกินข้าว} ฟงรุ่ยกล่าว
"ข้าเองก็เคยมีพ่อเเม่ เเต่เสียดายที่ถูกพวกคนชั่วสังหาร" ฟานชิงหมิงกล่าวอย่างเคียดเเค้น
{โอ้ว พลอตหนังกำลังภายในเลย เเล้วอย่าบอกว่าเราจะต้องมาเกี่ยวกับเรื่องเเบบนี้ด้วยนะเนี่ย} ฟงรุ่ยคิดอย่างกังวล
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ขึ้นม้าเเล้วเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าไปสู่เมืองเจียงหลิง
หลังจากขี่ม้าผ่านทัศนียภาพข้างทางต่างๆมาพอสมควรเเล้ว ฟงรุ่ยจึงถึงต้องยอมทำใจยอมรับว่า ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในยุคปัจจุบันเเล้วจริงๆ