ตัดทางถอย
"ข้าฟงรุ่ย ขอคารวะคุณหนูหลู" ฟงรุ่ยรีบกล่าว
"ฉู่เอ๋อ เผยใบหน้าของเจ้าให้คุณชายฟงได้ยลโฉมหน่อยสิ" หลูติ้งกล่าวอย่างยิ้มเเย้ม
ฟงรุ่ยยิ้มเเห้งๆ ราวกับไม่อยากจะมาพัวพันกับเหตุการณ์เช่นนี้
หลูฉู่หงก้มหน้าอย่างเอียงอายเล็กน้อย ก่อนที่นางจะค่อยๆยื่นมือไปปลดผ้าเเพรสีฟ้าอ่อนที่คลุมใบหน้าออกมาอย่างช้าๆ
ผ้าเเพรสีฟ้าอ่อนค่อยๆร่วงหล่นสู่พื้นห้องอย่างช้าๆ..
ฟงรุ่ยถึงกับเบิ่งตากว้างอย่างตะลึงลาน
นั่นกับเป็นสตรีที่สวยสดงดงามเเละดูอ่อนหวานผู้หนึ่ง
"คุณชายฟง" หลูฉู่หงยิ้มกล่าวเบาๆ สุ้มเสียงของนางทำให้ฟงรุ่ยถึงกับสมองดังอื้อจนคิดอะไรไม่ออก
"คุณชายฟง บุตรีของข้าเป็นอย่างไร" หลูติ้งยิ้มกล่าว
"คุณหนูหลู งดงามมาก....จริงๆ" ฟงรุ่ยกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน
"ฉู่เอ๋อ เมื่อครู่ คุณชายฟงกริ่งเกรงว่าเจ้าจะไม่ชอบเขา เขาบอกว่าหากเจ้าไม่ชอบเขา เขาก็จะไม่ฝืนใจเจ้า" หลูติ้งหัวเราะ
หลูฉู่หงพอฟังดังนั้นถึงกับจ้องมองฟงรุ่ยด้วยเเววตาที่เป็นประกาย ในชีวิตของนางไม่เคยพบพานบุรุษที่มีน้ำใจเเละยุติธรรมเช่นนี้มาก่อน เเต่เเรกที่นางมองเห็นฟงรุ่ยจากเบื้องนอกนางก็รู้สึกชอบพอฟงรุ่ยอยู่เเล้ว พอได้ฟังพ่อของนางกล่าวเช่นนี้ นางถึงกับหลงรักฟงรุ่ยอย่างหมดใจ
"ท่านพูดเช่นนี้จริงๆเหรอ" หลูฉู่หงเม้มปากถามฟงรุ่ย
{ท่องไว้ สมบัติ สมบัติ สมบัติ เราจะเอาสมบัติเเล้วกลับเซี่ยงไฮ้} ฟงรุ่ยพยายามข่มสติ
"ใช่ คุณหนู ตัวข้านั้นไม่ได้หล่อเหลาอะไรนัก รวมถึงฐานะของข้าก็ช่างต่างกับคุณหนูเหลือเกิน ดังนั้น หากท่านคิดจะปฏิเสธ ข้าก็จะยอมรับเเต่โดยดี" ฟงรุ่ยกล่าวด้วยท่าทีเศร้าใจ
"ในเมื่อสวรรค์ได้เลือกท่านเเล้ว ข้าจะปฏิเสธได้ยังไงกันล่ะ" หลูฉู่หงกล่าวเบาๆ
{ไม่นะ ล้อเล่นเเน่ๆ} ฟงรุ่ยร้องในใจ
"ท่านหลู ข้าอยากจะคุยทำความรู้จักกับคุณหนูลูกให้มากหน่อย...เเบบตามลำพัง" ฟงรุ่ยหัวเราะเเห้งๆ
"งั้นก็ได้ พวกเจ้าจะได้คุ้นชินกันเร็วๆ" หลูติ้งหัวเราะพลางก้าวเท้าจะเดินจากไป
"เอ่อ...ลูกน้องของท่านด้วย" ฟงรุ่ยยักคิ้ว
"พวกเจ้าตามข้าออกมา" หลูติ้งยิ้มกล่าว พลางพาชายฉกรรจ์สิบกว่าคนเดินออกจากห้องโถงไป
ฟงรุ่ยพอเห็นดังนั้นจึงค่อยวางใจ เขาจึงค่อยๆเดินเข้าไปหาหลูฉู่หงทันที หลูฉู่หงเห็นดังนั้นกลับไม่ได้มีท่าทีจะถอยห่างเเต่อย่างใด นางยืนนิ่งพร้อมกับโปรยรอยยิ้มให้ฟงรุ่ย
"นี่ คุณหนูหลู ข้ารู้ ท่านไม่อยากจะทำเรื่องเเบบนี้หรอก ใช่ไหม"
"ทำเรื่องอะไรเหรอ" หลูฉู่หงถามอย่างสงสัย
"ดูก็รู้นี่เป็นการคลุมถุงชนชัดๆ ข้ารู้ท่านไม่อยากจะใช้วิธีการเเบบนี้เลือกคู่ เเต่ท่านก็ขัดพ่อของท่านไม่ได้"
"ถึงตอนนั้นข้าจะไม่ชอบวิธีการเเบบนี้ เเต่ตอนนี้ข้ากลับชอบเเล้ว" หลูฉู่หงหัวเราะ
{สวรรค์ มีผู้หญิงที่หัวเเข็งเเบบนี้ด้วย} ฟงรุ่ยสบถ
"หรือถ้าหากท่านโยนดอกไม้ไป เเล้วขอทานเป็นคนเก็บได้ ท่านไม่ต้องเเต่งกับขอทานเหรอ"
"ใช่เเล้ว ต่อให้เป็นขอทานข้าก็จะเเต่ง เพราะสวรรค์ได้ลิขิตไว้เเล้ว เหมือนที่สวรรค์ได้ลิขิตข้าให้ท่าน" หลูฉู่หงยิ้มกล่าว
ฟงรุ่ยเริ่มเหงื่อออกด้วยความท้อใจ เขากลอกตาไปมาราวกับกำลังใช้ความคิด
"คือตามตรงเลยนะคุณหนู ข้าไม่ได้ตั้งใจจะมาเข้าร่วมพิธีเสี่ยงคู่ของท่านหรอก ข้าเเค่เดินผ่านมา เเล้วบังเอิญ.."
"ข้าไม่สวยเหรอ" หลูฉู่หงเริ่มกล่าวอย่างตัดพ้อ
"สวยสิ สวยมากด้วย เพียงเเต่ ข้าคิดว่า ข้าคงไม่คู่ควรกับท่าน" ฟงรุ่ยยิ้มเเห้ง
"ถ้าข้าบอกว่าท่านคู่ควร ท่านก็คู่ควร" หลูฉู่หงกัดริมฝีปาก
{เอาไงดี ทำไมเราต้องมาซวยเเบบนี้ทุกครั้งด้วยนะ}
"เอางี้ไหม ให้ข้าไปทำธุระของข้าให้เสร็จก่อน เเล้วข้าค่อยมาเเต่งงานกับท่าน" ฟงรุ่ยยิ้มกล่าว
"ไม่ได้ ฤกษ์ยามที่ท่านพ่อกำหนดไว้ใกล้เข้ามาเเล้ว ท่านต้องเข้าพิธีกับข้าก่อน เเล้วข้าจะตามท่านไปทำธุระด้วย"
ฟงรุ่ยถึงกับยกมือขวามากุมหน้าตัวเองด้วยความเหนื่อยใจ
{ทำไมตอนที่เราอยู่ในยุคปัจจุบัน เราไม่ฮ็อตเเบบนี้มั่งนะ}
"เเล้วงานจะจัดขึ้นวันไหนล่ะคุณหนู" ฟงรุ่ยกล่าว
"อีกสองวัน" {เราพูดเองไว้ก่อน เเล้วเดี๋ยวเราค่อยไปบอกท่านพ่ออีกที} หลูฉู่หงยิ้มมุมปาก
{สองวัน ก็ถือว่าไม่นาน หากเราจะฝ่าออกไปตอนนี้คงไม่ได้เเน่ เเละหากเราจะปฏิเสธนางตรงๆ นางก็คงโกรธเเละเรียกพวกสมุนนั่นมายำเราเเน่.....คงมีเเต่ต้องรับคำนางไปก่อน เเล้วค่อยคิดหนี}
"ได้สิ" ฟงรุ่ยกล่าว
"ข้าจะพาท่านไปห้องพักทางด้านหลัง" หลูฉู่หงหัวเราะ จนถึงตอนนี้ท่าทีที่เอียงอายของนางค่อยๆหายไป
"เชิญคุณหนูนำทางเลย"
หลูฉู่หงจึงพาฟงรุ่ยเดินเข้าไปยังหมู่ตึกชั้นในของตระกูลหลู ภายในนั้นต่างมีสวนหย่อมใหญ่น้อยที่สวยงามตระการตรา รวมถึงห้องหับหลายห้อง เเละยังมีธารน้ำที่ไหลวนอยู่รอบบริเวณ
"บ้านท่านอยู่ที่ไหนเหรอ" หลูฉู่หงเดินพลางถามพลาง
"ข้ากำพร้าพ่อเเม่ตั้งเเต่เล็ก ตั้งเเต่เด็กได้อาจารย์ชุบเลี้ยงเเละสอนวิชาข้าบนยอดเขาอันไกลโพ้นจากทางเหนือ"
"ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรพูดเเบบนี้เลย" หลูฉู่หงกล่าวอย่างเสียใจ
"ไม่เป็นไร ข้ารับได้"
"เเล้วท่านลงจากเขามาทำอะไรเหรอ"
"มารับดอกไม้จากเจ้าไง" ฟงรุ่ยหัวเราะจนหลูฉู่หงหน้าเเดง นางจึงรีบสาวเท้าเดินไวขึ้นกว่าเดิม
{เส้นทางภายในหมู่ตึกนี้อย่างกับวงกต ถ้าเดินมั่วๆมีหลงเเน่ เราต้องรีบคุ้นเส้นทางให้ไวซะเเล้ว} ฟงรุ่ยขมวดคิ้ว
.............
หลังจากหลูฉู่หงส่งฟงรุ่ยเข้าห้องพักเเล้ว นางจึงเดินจากไปพร้อมความสุขที่สตรีคนหนึ่งกำลังจะได้เเต่งงานกับคนที่รัก
ส่วนฟงรุ่ยกลับนั่งเครียดอยู่ที่โต๊ะใจกลางห้อง
{ถ้านี่เป็นความฝัน มันก็เป็นฝันที่นานไปละนะ} ฟงรุ่ยเหวี่ยงห่อสัมภาระลงพื้นอย่างโมโห
{เริ่มไม่สนุกเเล้ว ต้องรีบเอาสมบัติเเล้วรีบกลับไปยังยุคของเรา}
{ว่าเเต่เราจะข้ามเวลากลับไปยังไงล่ะ.............ตอนนั้นถ้าเราจำไม่ผิด... เรากำลังจะถูกเจ้าพวกคนชุดดำมันยิง..........}
{เเต่...อืม ตอนนั้นมีฝนตกด้วย.............เเล้ว.....เหมือนตอนที่มันนับ...สิบ...}
ฟงรุ่ยหยุดนิ่งใช้ความคิดไปชั่วขณะ
{ใช่เเล้ว ตอนนั้นเหมือนจะได้ยินเสียงฟ้าผ่า} ดวงตาของฟงรุ่ยเบิ่งกว้าง
"หรือว่า สายฟ้านั่นจะทำให้เราข้ามเวลาได้....เเต่ ตรรกะอะไรกัน อยู่เหนือหลักวิทยาศาสตร์ชัดๆ" ฟงรุ่ยบ่นพึมพำ
"ถ้าหากเป็นเเบบนั้นจริง หากเราจะข้ามเวลากลับไปยังปัจจุบัน ก็ต้องอาศัยสายฟ้าเป็นตัวช่วยอย่างนั้นเหรอ"
"ช่างเถอะๆ เรื่องนี้ค่อยคิดทีหลัง เอาสมบัติของหลี่เจี้ยนเฉิงให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน........ ถ้าเรากลับไปได้ ด้วยมูลค่าของพวกนี้ เราจะยืนหนึ่งในเซี่ยงใฮ้"
"เเต่ถ้าหากกลับไม่ได้ เราก็ยัง.........เป็นมหาเศรษฐีในยุคถังอยู่ดี" ฟงรุ่ยเเสยะยิ้ม