บทที่ 8 ถอนหมั้น
ขณะนั้น กู้หมิงซวงก็หันพรึบไปคว้าพร้ามา “ถ้าพวกเจ้ากล้าเข้ามา ข้าจะฆ่านางทิ้งเสีย!”
นางยกพร้าขึ้น ทำท่าจะฟันศีรษะของสวีเฟิงฉิน
สวีเฟิงฉินที่ตอนแรกตะคอกออกคำสั่งให้เก่าจือกับเสียนต้านเข้ามาจัดการกู้หมิงซวง ชั่ววินาทีที่เห็นพร้าอันแหลมคมจ่ออยู่เหนือศีรษะของตน ก็กรีดร้องออกมาอย่างอกสั่นขวัญแขวน
“กู้เอ้อยา เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง อ๊ากกก เอามีดออกไปไกลๆข้านะ…..”
ชาวบ้านในหมู่ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นเรื่องปกติ กระนั้นก็ยังไม่เคยมีหนใด รุนแรงถึงขั้นใช้มีดเช่นนี้
ซึ่งการที่กู้หมิงซวงหยิบมีดขึ้นมา ต่างทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก
แม้แต่เก่าจือกับเสียนต้านก็ยังหน้าซีดเสียวสันหลังวาบ ไม่กล้ารุกคืบเข้าไปใกล้
คนเราเมื่อไม่มีอะไรให้เสียแล้วย่อมไม่กลัวสิ่งใด เมื่อกู้หมิงซวงได้ปลดปล่อยความเก็บกดออกไป ผู้ใดก็มิกล้าเข้ามายุ่ง
มือข้างหนึ่งกระชากผมของสวีเฟิงฉิน อีกข้างนำพร้าจ่อไว้ที่ลำคอของนาง สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ จนสุดท้ายมาหยุดที่สวีจิ้นหยวน
เมื่อถูกนางมองมาเช่นนี้ สวีจิ้นหยวนก็รู้สึกราวกับกำลังถูกหมาป่าจ้องจะเขมือบ พลันก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“วางไก่ของพวกข้าลง” กู้หมิงซวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
สวีจิ้นหยวนไม่ได้อยากเชื่อฟังคำพูดนาง แต่มือกลับยอมปล่อยโดยไม่รู้ตัว จนแม่ไก่สามตัวนั้นหลุดออกมาจากกระสอบ แล้ววิ่งกรูกลับเข้าไปที่เล้า
เมื่อสวีเฟิงฉินเห็นแม่ไก่หลุดมือไปกับตา ก็มีสีหน้าไม่ยินยอม กระนั้นนางก็ไม่กล้าส่งเสียงพูดอะไรออกมาอยู่ดี
นางเห็นความดุร้ายในแววตาของกู้หมิงซวง นางกลัวว่าหากตนเองเปล่งเสียงออกไปแม้แต่น้อย ศีรษะของนางได้หลุดออกจากคอแน่
แม้จะเห็นแม่ไก่ถูกปล่อยเข้าไปในเล้าเหมือนเดิมแล้ว แต่กู้หมิงซวงก็ยังไม่ยอมปล่อยสวีเฟิงฉิน หันไปเรียกนางเฉากับกู้เหวินจูนเข้ามาอย่างเรียบนิ่ง
เมื่อนางเฉาและกู้เหวินจูนเห็นกู้หมิงซวงในบทบาทดุร้าย ต่างก็พากันอึ้งอ้าปากค้าง แต่พอได้ยินเสียงนางเรียก ก็รีบเรียกสติกลับคืนมา และรีบวิ่งไปหานาง
“ซวงเอ๋อร์ เจ้าอย่าวู่วามสิ!”
หัวใจของกู้เหวินจูนบีบรัดแน่น เขากลัวว่ากู้หมิงซวงจะเสียสติเพราะเรื่องของบิดา แล้วลงมือฆ่าสวีเฟิงฉินจริงๆ
แต่กู้หมิงซวงไม่ได้โง่ นางไม่คิดที่จะตัดอนาคตตัวเองเพราะคนอย่างสวีเฟิงฉินหรอก
ที่นางเรียกมารดากับพี่ชายมา ก็เพราะว่าเรื่องอื่น
“ท่านแม่ ฝากหยิบจดหมายหมั้นของข้ากับตระกูลสวีมาให้ข้าหน่อย”
ขณะนี้นางเฉาตกใจจนกลายเป็นเหมือนหุ่นเชิดไปแล้ว เมื่อได้ยินที่กู้หมิงซวงกล่าว ก็รีบวิ่งเข้าไปในเรือน แล้วหยิบจดหมายมั้นที่เริ่มซีดจางออกมา
“ซวงเอ๋อร์ จดหมายมั่นอยู่นี่ เจ้าจะเอามันไปทำอันใดรึ?”
กู้หมิงซวงไม่ได้ตอบในทันที ส่งสายตาให้กู้เหวินจูนเข้ามากดตัวสวีเฟิงฉินเอาไว้
ถัดมาก็ยื่นมือไปรับจดหมายหมั้นมา แล้วกางออก
นางเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าสวีจิ้นหยวนท่ามกลางสายตาของทุกคน
“เจ้า……” สวีจิ้นหยวนมองคนตรงหน้า นอกจากใบหน้าที่ใสขึ้น นางก็ยังคงอ้วนและขี้เหร่เหมือนเมื่อก่อน แต่ในใจของเขากลับเกิดความรู้สึกแปลกๆบางอย่าง
หญิงสาวตรงหน้าเหมือนจะห่างไกลจากตนเองมากโข ทั้งๆที่อยู่ใกล้แต่จะเอื้อมกลับเอื้อมไม่ถึง
สวีจิ้นหยวนกลืนน้ำลาย เดิมทีเขาตั้งใจว่าจะมาขอถอนหมั้น และพูดให้กู้หมิงซวงอับอาย
ทว่าบัดนี้ เขากลับจำต้องกล้ำกลืนพูดออกมาว่า “กู้เอ้อยา นี่ นี่เจ้าจะทำอะไร?”