บทที่ 12 การแก้แค้นของสวีจิ้นหยวน
กู้หมิงซวงตั้งรับได้ทัน อาศัยช่วงที่สวีเฟิงฉินพุ่งตัวเข้ามา ขยับหลบไปอีกด้าน แล้วใช้เท้าถีบบั้นท้ายของสวีเฟิงฉินให้ออกไปจากประตูเรือน
สวีเฟิงฉินกลิ้งหลุนๆตกจากบันได จนตกส้วม จากนั้นก็ร้องโหยหวนเสียงบาดหู “ช่วยด้วย….ช่วยข้าด้วย…..”
เมื่อเห็นนางหมดสภาพ กู้หมิงซวงก็แสยะยิ้ม รู้สึกสะใจเป็นอย่างยิ่ง
นี่เป็นเพียงการเรียกน้ำย่อยก่อนเล็กน้อย รอให้สถานการณ์ภายในบ้านของนางดีขึ้นอีกหน่อย นางจักต้องเอาคืนตระกูลสวีให้สาสม
ทั้งชีวิตของเจ้าของร่างเดิม ทั้งการบาดเจ็บของท่านพ่อ มันไม่หมดบัญชีง่ายๆแน่นอน
เมื่อเห็นสวีจิ้นหยวนเข้าไปช่วยดึงสวีเฟิงฉินขึ้นมา สาวน้อยก็หันเหสายตา มามองที่เก่าจือและเสียนต้านอย่างสำรวจ
ราวกับพวกเขารู้ว่ากู้หมิงซวงกำลังจะถามอะไร ถึงได้รีบก้าวถอยหลัง พร้อมส่ายหน้ารัวๆ “เจ้าอย่ามองพวกข้าอย่างนั้น พ่อเจ้าบาดเจ็บไม่เกี่ยวอะไรกับพวกข้า”
กู้หมิงซวงหรี่ตาลง “วันนี้พวกเจ้ามาเป็นลูกมือให้สวีเฟิงฉิน แม้นเรื่องในวันนั้นจะไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า แต่พวกเจ้าก็น่าจะรู้ใช่ไหมว่าเป็นฝีมือผู้ใด?”
“เอ่อ…….”
“อย่าแสร้งทำเป็นไม่รู้ต่อหน้าข้า!”
กู้หมิงซวงใช้พร่าฟันลงบนท่อนฟืนอย่างแรงเพื่อข่มขู่
เก่าจือและเสียนต้านเห็นเช่นนั้นก็ตัวสั่นเทิ้ม เป็นเสียนต้านทีทนไม่ไหว หลุดพูดออกไปว่า
“ฝีมือญาติของสวีเฟิงฉินนามว่าเฉินซาน เขาเป็นคนทำ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในเมือง หากเจ้าอยากตามหาตัวก็คงตามไม่เจอหรอก แม่นาง ข้าขอเตือนเจ้านะ ญาติของสวีเฟิงฉินผู้นี้คลุกคลีอยู่กับพวกอันธพาลในเมือง แม้นเจ้าจะตามตัวเจอ เจ้าก็มีแต่จะเสียเปรียบ”
เสียนต้านกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
อันธพาลในเมืองเยี่ยงนั้นหรือ……
กู้หมิงซวงลูบคาง ครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ในเมื่อเป็นอันธพาล ก็คงมีพรรคพวกอยู่รอบกาย
สภาพของนางในตอนนี้ คงไม่ใช่คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับฝ่ายนั้นเท่าไหร่
กู้หมิงซวงเหลือบมองพวกเขา “พวกเจ้าไปได้แล้ว วันนี้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปก่อน หากวันใดข้าเห็นพวกเจ้ามาหาเรื่องตระกูลข้าอีก ข้าจักฟันหัวพวกเจ้าทิ้งเสีย!”
แม้นางจะกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ถ้อยคำก็ยังฟังดูโหดเหี้ยม
เก่าจือกับเสียนต้านสะดุ้งโหยง จากนั้นก็รีบหันหลังวิ่งแจ้นออกไป
อีกด้านหนึ่ง สวีจิ้นหยวนดึงสวีเฟิงฉินขึ้นมาจากส้วมได้สำเร็จ
สวีเฟิงฉินตะเกียกตะกายอยู่ในส้วมจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นหึ่ง
คนรอบข้างถอยห่างออกจากนางโดยอัตโนมัติ ซ้ำยังมองมาที่นางอย่างขยะแขยง
สวีเฟิงฉินมองมาที่กู้หมิงซวงด้วยโทสะร้อนรุ่ม กระนั้นกลับไม่กล้าเข้าไปโวยวาย
แรกเริ่มเดิมทีนางคิดว่าการมาตระกูลกู้ในวันนี้ จะได้อะไรดีๆติดไม้ติดมือกลับไปด้วย แต่ตอนนี้กลับไม่ได้อะไรติดมือมาเลย นอกจากอุจจาระในส้วม
สวีเฟิงฉินแทบเป็นลมล้มพับ นางไม่อาจต้านทานสายตาแปลกๆที่จ้องมองมาไม่ได้จริงๆ จึงหันไปบอกให้สวีจิ้นหยวนพาตัวเองกลับ
ก่อนจะจากไป สวีจิ้นหยวนยังไม่ลืมหันกลับมาตีสีหน้าทะมึนใส่กู้หมิงซวง จากนั้นก็กล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “กู้เอ้อยา ข้าจะจำเรื่องวันนี้เอาไว้ หากวันใดข้าสอบติดซิ่วฉาย ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปแน่ พวกเจ้ารอดูได้เลย!”
สิ้นคำพูด สวีจิ้นหยวนก็เดินพรวดพราดออกไป
ถ้อยคำของสวีจิ้นหยวน เปรียบเสมือนระเบิดที่ฝังอยู่ในใจของผู้คน
หลังจากที่ชาวบ้านแยกย้าย นางเฉาก็เดินเข้ามาหากู้หมิงซวง เอ่ยพูดดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ซวงเอ๋อร์ เจ้าว่าสวีจิ้นหยวนหมายความถึงสิ่งใดกัน คงไม่ใช่ว่า พอเขาสอบติดซิ่วฉายแล้วจะกลับมาแก้แค้นพวกเรากระมัง?”