4 ภาวีแจกลายเซ็นให้แฟนคลับ
ภายในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ สำนักพิมพ์ต่าง ๆ ได้มาออกบูธกันจนเต็มพื้นที่ แต่ละร้านต่างงัดกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่จะเรียกลูกค้าให้เข้ามาเลือกซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นลดราคา แลก แจก แถม สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้แก่หนอนหนังสือทั่วไปก็คือ นักเขียนมาแจกลายเซ็น ถ้าเป็นนักเขียนชื่อดังมาเยือน ร้านนั้นจะคึกคักเป็นพิเศษ
สำนักพิมพ์นิวไลน์ พับลิชชิ่งในเวลานี้ คนขายมือเป็นระวิง ลูกค้าเข้ามาซื้อหนังสือตลอดเวลาเพราะมีแม่เหล็กอย่างภาวีเป็นตัวดูด หญิงสาวนั่งอยู่หน้าร้าน กำลังแจกลายเซ็นให้แก่แฟนคลับด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
“คุณภาวีสวยจัง ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนหนังสือได้เก่งขนาดนี้”
“ใจรักค่ะ ถ้าเราชอบเสียอย่าง สิ่งที่ทำก็ดีตามไปด้วย”
“ลายมือคุณสวยมาก ไม่เห็นอ่านยากเหมือนนักเขียนคนอื่น ๆ เลย นิ้วก็เรียวสวยอย่างนี้เรียกว่าคนมีวาสนา”
หญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วมทักขึ้น หลังจากเห็นลายมือที่ภาวีเขียนอวยพรให้แก่เธอ ซึ่งก็สร้างความสุขแก่ผู้ฟังไม่น้อย แม้รู้ว่าเป็นแค่เพียงคำชม แต่ภาวีอิ่มเอมอย่างที่สุด มองหน้ากลมแป้น อดที่จะสรรพยอกไม่ได้
“เป็นหมอดูหรือคะ งั้นดูเรื่องเนื้อคู่ให้ด้วยค่ะ”
“ไม่ใช่ค่ะ แค่คนเขาพูดมา ว่าคนนิ้วเรียวและเล็กแบบนี้มีวาสนา ไม่ลำบากหรอก ชีวิตจะมีแต่ความสุขสบาย เรื่องเนื้อคู่ก็เหมือนกัน ลักษณะดีอย่างนี้ เนื้อคู่ก็เหมาะสมกันที่สุด”
“เราข่มเขาได้ด้วยใช่ไหมคะ”
แกล้งถามเพื่อให้ดูตลก ทั้งที่คิดจริงจัง คนอย่างเธอจะต้องอยู่เหนือกว่าทุกคน โดยเฉพาะผู้ชายถ้าคิดคบหาเป็นแฟนจะต้องยินยอมและตามใจทุกอย่าง เหมือนภูธรในเวลานี้กลายเป็นทาสส่วนตัวไปแล้ว
ไม่ว่าจะสั่งหรือต้องการอะไร เขาจะกระวีกระวาดทำให้โดยเร็ว แม้ว่าจะถูกตำหนิแรง ๆ แต่ไม่มีอาการโกรธให้เห็น
“อย่าข่มเลยค่ะ คนเราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันถึงจะไปรอด”
ภาวีเริ่มไม่ชอบหน้าแฟนคลับที่ไม่เออออตามที่ต้องการ พยายามข่มอารมณ์กรุ่นเอาไว้ ก้มหน้าก้มตาแจกลายเซ็นต่อไป โดยไม่ใส่ใจใครอีก ขณะเดียวกันดรณ์หนุ่มใหญ่วัย 32 ส่งสายตาคมหวานซึ้งมาที่ภาวีบ่อย ๆ ผิวขาวบนใบหน้าหล่อเริ่มแดงระเรื่อ เขินอายทุกครั้งที่มองเห็นหญิงสาว ยอมรับว่าเป็นแฟนหนังสือมานาน เคยเห็นหลายครั้ง โดยแอบรักเงียบ ๆ แต่ไม่บอกให้ใครรู้
เขาเคยแอบถ่ายรูปภาวีเอาไว้เป็นจำนวนมาก เก็บเอาไว้ในห้องนอน คิดละเมอเพ้อพกไปคนเดียว ถ้าหากว่าได้เป็นแฟน คงจะมีความสุขมากที่สุด
วันนี้คาดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าหญิงสาวจะมาแจกลายเซ็น เขารีบซื้อนวนิยายออกใหม่ของเธอ เพื่อมาขอลายเซ็น จนแล้วจนรอดไม่กล้าเข้าไปหา นอกจากยืนจด ๆ จ้องๆ กลายเป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
“คุณภาวีเป็นนักเขียนที่สวยมากนะครับ”
จู่ ๆ เสียงใครบางคนเปรยขึ้น ดรณ์หันไปมองด้วยหัวใจที่เต้นระรัวเร็ว พบชายคนหนึ่งดูจากริ้วรอยบนใบหน้า คงจะสูงวัยกว่าเขาและเห็นว่าในมือถือหนังสือนวนิยายของภาวีเอาไว้ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกันกับเขา
“ครับ สวยมาก”
“ผมเห็นคุณแอบมองเธอนานแล้วนะ ทำไมไม่เข้าไปหาล่ะ”
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่บังอาจกล้า รู้ดีว่าเธอเปรียบเหมือนดอกฟ้า ส่วนผมเป็นแค่เพียงหมาวัดเท่านั้น”
“มันก็ไม่แน่หรอกคุณ ชะตาชีวิตอาจจะพลิกผันก็ได้ ใครจะรู้ว่าในอนาคต ดอกฟ้าอาจจะโน้มกิ่งลงมาให้หมาวัดดอมดมก็ได้”
ให้กำลังใจเต็มที่ขนาดนี้ ดรณ์เริ่มมีความกล้า สืบเท้าเข้าไปใกล้ ๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะ ลูกค้าซา ภาวีนั่งนิ่ง ๆ ครั้นมองเห็นดรณ์ถือหนังสือนวนิยายของเธอ รู้ทันทีว่าหนุ่มหล่อคนนี้คงต้องการลายเซ็น จึงส่งยิ้มให้ก่อน
ยื่นมือไปรับเอามา ดรณ์มัวแต่ตะลึงต่อความงาม โดยจับหนังสือเอาไว้แน่น ภาวีขมวดคิ้วโก่งเข้าหากันอย่างงง ๆ
“ไม่ให้ฉันเซ็นหรือคะ”
“เอ่อ อ่า มะ ให้ ให้ครับ ผมเป็นแฟนคุณ”
“หา อะไรน่ะ”
“เอ่อ ไม่ใช่ครับ เป็นแฟนคลับ ติดตามผลงานของคุณมาโดยตลอด เล่มหน้าไม่รู้ว่าเรื่องอะไรจะวางแผง”
แรก ๆ เขาพูดติดขัดตะกุกตะกักเพราะเขินที่ได้อยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าขาวสวยผิวอ่อนบางซึ่งห่างแค่คืบเดียว รับรู้ถึงน้ำหอมชั้นดีที่โชยระรื่นออกมาจากตัวเธอ แอบสูดกลิ่นเอาไว้เต็มที่ ตั้งใจเอาว่าจะซื้อน้ำหอมยี่ห้อนี้เก็บไว้
หากว่ามีโอกาสก็จะเอาให้เธอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเพราะภาวีจะมาแจกลายเซ็นทุกครั้งเมื่อมีมหกรรมหนังสือ