3 ภาวีข่มแฟน
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกนะ ผมไม่ได้ท้องเสีย”
ช้าไปเสียแล้ว หญิงสาวกระโจนแผล็วออกไปยืนส่ายเอวอยู่อีกมุมหนึ่ง ชูเหล้าขึ้นเป็นการเยาะเย้ย ปอมรู้ทันทีว่าถูกแกล้ง มองด้วยความแค้นเคือง
“จำเอาไว้เลย ยายตัวแสบ อย่าให้เจออีกละกัน จะเล่นให้หนัก โอย ทำไมถึงร้ายกาจขนาดนี้นะ ป่านนี้ก้นคงเป็นรูพรุนหมดแล้ว โชคดีที่ไม่แทงถูกเจ้าลูกรักทั้งสอง ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นหมันเอาง่าย ๆ ฮึ่ม”
ชายหนุ่มร่างอวบมองด้วยความแค้นเคืองแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ในเมื่อไม่มีหลักฐานที่จะเล่นงานสาวงามในชุดเดรสสีดำ บัดนี้กำลังย้วยร่างไปมา ตามจังหวะเสียงเพลงอันเร่าร้อน ความแสบซ่าของเธอ กลายเป็นว่าเข็ดขยาดไม่กล้าเข้าใกล้
กลัวว่าถ้าขืนรุ่มร่ามเข้าไปอาจจะเจอหนักกว่านี้ ได้แต่มองอย่างโกรธ ๆ แล้วพยุงร่างลุกขึ้นเดินหนีบ ๆ อย่างทุลักทุเล เข้าไปสำรวจความเสียหายในห้องน้ำ
เที่ยงคืนกว่าภาวีกลับเข้ามานอนบนเตียงนุ่มหนาอย่างมีความสุข จู่ ๆ นึกถึงใครบางคนขึ้นมา ควานมือไปสะดุดกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ราคาแพง กดปุ่มโทร. ออกทันที คิ้วโก่งเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อรู้ว่าปลายสายยังว่าง
“ทำไมไม่รับเสียที มัวทำอะไรอยู่ ถ้าไม่รับฉันจะแช่งให้สำลักน้ำลายตาย อ่า รับแล้ว ว่าไงจ๊ะภูธร มัวทำอะไรอยู่ ฉันโทร. ตั้งนาน”
“เอ่อ ขอโทษที ผมเข้าห้องน้ำ”
“เข้าห้องน้ำ เอ๊ะ ! เมื่อครู่ได้ยินเสียงเพลง ผู้หญิงร้องด้วย บอกมานะ อยู่ไหน”
“โธ่ ผมเปิดเพลงทิ้งเอาไว้น่ะ”
“คลื่นไหน ฉันจะฟังมั่ง”
“ยูทูบน่ะ”
ภูธรละล่ำละลักตอบด้วยเสียงสั่น ๆ ขนหัวลุกซู่ด้วยความกลัว ขณะเหลือบมองไปบนเวทีเห็นสาวสวยในชุดวาบหวิวกำลังขับกล่อมเพลงให้แก่ลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารได้รับความสำราญ
“เพิ่งรู้ว่าคุณชอบฟังเพลงลูกทุ่ง”
“ก็คละ ๆ กันไป มีอะไรหรือจ๊ะ ภาวี ดึกป่านนี้ยังไม่นอนอีกหรือ”
“เพิ่งกลับมาจากข้างนอก เดี๋ยวก็หลับแล้ว”
“เที่ยวอีกล่ะสิ”
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อคม นัยน์ตาหลุกหลิกถามขึ้น ก่อนจะใช้ฝ่ามือลูบเรียวหนวดที่ขึ้นหรอมแหลมอยู่เหนือริมฝีปาก โดยไม่คิดว่าคำพูดของเขาเพิ่มอารมณ์เดือดให้แก่ภาวีไม่น้อย มีความรู้สึกว่าเหมือนถูกตำหนิ
หญิงสาวเม้มปากจนเกือบเป็นเส้นตรง ตาวาววาบมองไปที่รูปภูธรซึ่งถูกเหวี่ยงลงไปที่พื้น ตะแคงเค้เก้เพราะไม่สบอารมณ์ที่เขาขัดใจเมื่อสองวันที่แล้ว
“ทำไม ในเมื่อเงินของฉัน”
“โอ๊ะ ! ปละ เปล่าจ้ะ แค่ถามดูเท่านั้นเอง”
“ไม่ต้องถาม อย่าได้อยากรู้ในเรื่องของฉันเด็ดขาด ถ้าที่จะคบกันต่อ อยู่เฉย ๆ ไม่อย่างนั้นจะยุติการช่วยเหลือในทุก ๆ เรื่อง”
“อ่า จ้ะ ๆ ไม่ถาม ไม่สนใจอีกแล้ว นอนเถอะนะ ดึกแล้ว กู๊ดไนท์ ที่รัก อุ๊ย ปิดเครื่องเฉยเลย ทราม มารยาทเลว ยายแม่มด คอยดูเถอะ สักวันเราจะเล่นงานให้หมอบเชียว ว่าไงจ๊ะธาริณีของพี่”
จากที่อารมณ์เสีย ตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อครู่ ครั้นเห็นสาวสวยในชุดเกาะอกสีส้ม วูบวาบด้วยเลื่อมที่ปักโดยรอบ ภูธรยิ้มกว้าง เสียงหวานฉ่ำ โอบกอดธาริณีนักร้องคาเฟ่หน้าหวานเข้ามาใกล้ ๆ ยื่นปลายจมูกโด่งหอมเสียงดังฟอด หญิงสาวยกมือปัดออกด้วยจริตแห่งมารยาหญิง
“ไม่เอาน่า พี่ภูธรเนี่ย อายเค้า”
“ใครจะมาเห็น ในเมื่อตรงนี้มีแค่เราสองคน”
“แต่มันหน้าห้องน้ำนะจ๊ะ สวีทกันทั้งที หาที่โรแมนติกกว่านี้ได้ม๊า”
นักร้องสาวเริ่มโอดครวญเพราะสถานที่ไม่เข้ากับความหวานที่ภูธรแสดงออกมา ความเงียบและมืดใช้ได้ แต่ดันมาอยู่ด้านหน้าของห้องน้ำซึ่งเป็นที่ปลดปล่อยของเสียออกจากร่างกาย ก็จะมีเสียงคนเมาอาเจียนได้ยินเป็นครั้งคราว ภูธรเห็นด้วยกับคำพูดของคนรัก ดึงมือให้ห่างออกมาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง
ลำแขนแข็งแรงโอบเอวเอาไว้และรั้งเข้ามาให้ร่างงามแนบชิดกับอกแกร่งของตัวเอง ทุกครั้งที่อยู่ใกล้กับเธอมีความสุขมากที่สุด ต่างจากภาวีเขาขลาดกลัว ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเพราะถูกตะคอก กดขี่ ข่มเหงน้ำใจ เขาคบกับเธอเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว ถ้าหากว่าเอาใจมากภาวีก็จะให้ยืมเงินมากหน่อยแต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่พอเหมาะพอควร ถ้านำมารวม ๆ กันแล้วเป็นเงินนับแสนบาท เขาคบเพื่อผลประโยชน์เท่านั้นเพราะในเวลานี้คนรักตัวจริงคือธาริณีนักร้องคาเฟ่พราวเสน่ห์