เงารักพรางหัวใจ

140.0K · จบแล้ว
ฟ้ารดา, ฟ้าใส ไอรดา, ธัญญา, ดาวฉาย, จันทร์นารี, ภูต เภตรา, จรรยา เลิศพงษ์ไทย
101
บท
703
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คนหมดสติสองคน ดวงจิตหลุดออกจากร่างพร้อมๆ กัน ทว่าดวงจิตอีกคนหนึ่งเข้าร่างผิด ส่วนดวงจิตของร่างที่แท้จริงยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ รอเวลาที่จะเข้าร่างตัวเอง เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นกับนักเขียนสาวใหญ่จอมวีน ดวงจิตเข้าร่างเด็กสาวอายุแค่เพียง 16 ปี เธอจะทำอย่างไรต่อชะตาชีวิตที่พลิกผัน แล้วใครกันทำให้เธอมีสภาพเช่นนี้ ...

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันเกิดใหม่ในนิยาย

1 ภาวีนักเขียนสาวสุดแซ่บ

“ทะเลทราย ทะเลทราย ทะเลทราย ไม่รู้จะให้เขียนอะไรนักหนา เขียนจนทรายแทบจะทะลักออกจากปากแล้ว ฮึ่ม”

เสียงบ่นอย่างโกรธ ๆ ออกจากริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูอ่อนที่กำลังพรมนิ้วลงไปบนแป้นคีย์บอร์ดเร็ว ๆ แม้ว่าไม่ค่อยสบอารมณ์ต่องานที่สร้างขึ้น แต่เธอไม่ทำให้อรรถรสในการอ่านของบรรดาแฟนนวนิยายผิดหวัง

ภาวีนักเขียนสาวชื่อดัง มีผลงานต่อเนื่องติดๆ กันและติดอันดับหนังสือขายดี ทุกครั้งที่นวนิยายเล่มใหม่วางแผง จะหมดภายในเวลาอย่างรวดเร็ว การพิมพ์ซ้ำจึงตามมา ทางสำนักพิมพ์จึงเร่งให้หญิงสาวเขียนงานใหม่ออกมาป้อนตลาดไม่ให้ขาด

งานของเธอจะต้องเน้นแนวทะเลทรายที่มีกลิ่นอายแห่งอาหรับที่อุดมไปด้วยเครื่องเทศและอูฐ บางครั้งเขียนจนเก็บเอาไปฝันว่าเป็นเจ้าหญิงในดินแดนอันร้อนระอุ

“ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องมีเม็ดทราย ทำไมไม่ชอบแบบที่ว่าพระเอกผุดขึ้นมาจากโลกันต์บ้างนะ อ้าว ใครโทร. เข้ามาอีก อุ๊ย พี่พีช บ.ก.นิวไลน์ สวัสดีค่ะพี่พีชขา”

หญิงสาวกรอกเสียงหวานหยดย้อยลงไป พร้อมกับใช้ปลายนิ้วก้อยเกี่ยวสายเสื้อสายเดี่ยวที่ตกลงไปห้อยร่องแร่งให้ขึ้นมาไว้บนไหล่เช่นเดิม แม้ว่ากำลังอยู่ในสภาวะอารมณ์ไม่ปกติ สำหรับพีชแล้วจะต้องหวานเข้าไว้

“สวัสดีเช่นกันค่ะ ภาวี ว่ายังไงคะ เรื่องใหม่ที่พี่ให้โจทย์มา ใกล้เสร็จหรือยัง”

“เร่งจนหูตูบเลยค่ะ ใกล้แล้วด้วย เอ่อ คนเขียนใกล้ตายค่ะ”

“ว้าย ! ช่างจำนรรจานะเราน่ะ อย่าพูดเป็นลางอย่างนั้นสิ ถามจริงถึงไหนแล้ว”

“ตอบตรง ใกล้แล้วค่ะ ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ทุกอย่างจะเรียบร้อย อย่าลืมทำเรื่องเบิกเงินให้ด้วยก็แล้วกันเอาไว้เป็นทุนไปเที่ยวต่างประเทศ”

นักเขียนสาวพูดกลั้วหัวเราะ ทำราวกับว่าไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร ทั้งที่ในใจร้อนรุ่มเพราะอยากจะออกไปท่องราตรีเหมือนที่เคยปฏิบัติ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จิตใจฝักใฝ่อยู่กับความมืด เสียงเพลง ผู้คนมากหน้าหลายตา เครื่องดื่มหลากสไตล์และอาหารรสชาติสะใจ

ทุกครั้งที่ออกตระเวนราตรี เธอจะมีความสุขมาก ทำให้มีพลังในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นต่อไป ด้วยเหตุนี้ภาวีแยกตัวออกมาอยู่ข้างนอกเพียงผู้เดียว ทั้งที่มีบ้านหลังใหญ่ พ่อแม่ทั้งรักและตามใจ แต่เธอรู้ว่าอยู่ที่นั่นไร้อิสระ ทำอะไรก็ต้องเกรงใจบุพการี

“ถ้าคนอย่างภาวีไม่มีเงิน สงสัยโลกนี้มีแต่คนจนทั้งนั้นเลย ไม่ต้องห่วงจ้ะ พี่ทำเรื่องเอาไว้แล้ว สำหรับเธอ พิเศษสุด”

“ขอบคุณค่ะ”

“อาทิตย์หน้า งานมหกรรมหนังสือ ต้องไปให้ได้นะ แฟสานุแฟนของเธอ รีเควลออกมาแล้วว่าอยากได้ลายเซ็นภาวี”

“โอเคค่ะ วันนั้นพี่จะไม่ผิดหวัง ไปตั้งแต่งานเปิด ยันปิดเชียวล่ะ”

พีชได้ยินดังนั้นดีใจมาก ถ้าหากว่าภาวีไปในงาน หนังสือจะขายดีกว่าเดิม เพราะแฟนคลับของเธอจะพากันไปออ อยากเห็นตัวจริงเสียงจริงและช่วยกันซื้อหนังสือเป็นจำนวนมาก หลังจากพูดจาหยอกล้อตามประสาคนคุ้นเคยกันอยู่ครูหนึ่ง พีชเป็นฝ่ายวางสายไปก่อน ภาวีย่นจมูกใส่อย่างเชิด ๆ

“คงเป็นวันที่ตะคริวกินอีกแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ มีคนชื่นชมดีกว่ายี้ใส่ อย่างว่าคนมันดัง อะไรก็หยุดไม่ได้ พอแล้วไม่ทำงาน ยุติก่อน หาชุดเข็ดฟัน ใส่ไปร่อนดีกว่า”

ด้วยความเป็นคนชอบสนุกจนติดเป็นนิสัย อยู่ไม่ได้ในยามค่ำคืน จะต้องออกไปเปิดโลกแต่กลับไม่เกินเที่ยงคืน เอาแค่เพียงหอมปากหอมคอเท่านั้น ไม่สนใจใคร ไม่แคร์ความรู้สึกคนที่ไปด้วย ในบางครั้งขณะที่เพื่อน ๆ กำลังสนุก แต่เธอจะกลับเดี๋ยวนั้น ทุกคนก็ต้องยอม

ด้วยเหตุนี้ภาวีชอบเที่ยวคนเดียว ไม่ต้องหูชาว่าจะถูกด่าต่อการอาแต่ใจของตัวเอง

เดรสสีดำสายเดี่ยวตรงบริเวณริมขอบเหนือหน้าอกปักด้วยเลื่อมสะท้อนแสง ความยาวเลยเข่าขึ้นไปหนึ่งคืบ ผ่าด้านข้างโชว์เนื้อขาว ๆ ให้ชายหนุ่มน้ำลายหยด ชุดนี้เข้ากันดีกับใบหน้ารูปไข่ที่ตกแต่งฉูดฉาด ปล่อยผมยาวสยายและดัดปลายเป็นลอนนิด ๆ ลำคอขาวผ่องงามระหงสวมสร้อยเพชรเส้นเล็ก ๆ เมื่อกระทบกับแสงไฟจะทอประกายวูบวาบ

กำไลเพชรกับแหวนบนนิ้วกลางข้างขวา เรียกความสนใจจากผู้ที่เห็นได้เป็นอย่างดี ภาวีชอบสวมเครื่องประดับราคาแพง โชว์ความร่ำรวยของตนเอง แม้รู้ว่าเป็นอันตรายอาจจะนำพาไปสู่หายนะ แต่ไม่เคยหวั่น มั่นใจว่าดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี

ภายในกระเป๋าถือสีดำ มีอุปกรณ์ป้องกันตัว ไม่ว่าจะเป็นมีดพกหรือเครื่องช๊อตไฟฟ้า ผู้ที่คิดร้ายไม่อาจที่จะกล้ำกรายเข้ามาประชิดตัวได้ง่าย ๆ

“สวย เริด เซ็กซี่ รวย อย่างเธอคนนี้ คงหาไม่ได้อีกแล้ว”