บทที่ 9 ต้องชดใช้
วรุตเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีในระดับพระเอกละครจึงไม่แปลกที่เขาจะมีหญิงสาวเข้ามาพัวพันมากมายแต่เขาไม่สนใจใครเท่ากับอรอินทุ์ เขาประกาศกับทุกคนว่าหล่อนเป็นคนรักที่เขาจะแต่งงานกับหล่อนทันทีที่หล่อนเรียนจบแต่พออรอินทุ์เรียนจบจริงๆ กลับได้ข่าวที่ทำให้หัวใจของหล่อนแหลกสลาย
“ยัยอร ตารุตจะแต่งงาน ผู้หญิงท้องเขาต้องรับผิดชอบ”
อาริยาโทรศัพท์ส่งข่าวให้ลูกสาวรู้เรื่องก่อนบินกลับเมืองไทยเพียงอาทิตย์เดียว อรอินทุ์ร้องไห้จนแน่นิ่งไป หล่อนทุ่มเทหัวใจให้กับเขาแต่เขากลับหักหลังหล่อนด้วยการคบกับผู้หญิงอื่นซึ่งผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนของเพื่อนหล่อน ความระแวงใดๆ ไม่มีเพราะผู้หญิงหน้าตาใช้ได้คนนั้นดูเรียบร้อยไม่คิดว่าจะแย่งคนรักของหล่อนไปอย่างง่ายดายเช่นนี้
อรอินทุ์กลับถึงเมืองไทยวันที่วรุตแต่งงาน หล่อนถือกล่องของขวัญไปมอบให้เขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย หล่อนพูดกับเขาน้ำเสียงห่างเหินจนเขารู้สึก
“ขอให้คุณมีความสุขกับผู้หญิงที่คุณเลือกแล้วนะคะรุต ของที่คุณให้ฉันอยู่ในกล่องนี้ ฉันคืนให้ค่ะโชคดีนะคะลาก่อนค่ะ”
“อรครับ ผมขอโทษ”
เขาเอ่ยเสียงเบาแต่มันดังก้องในหัวใจอันเจ็บร้าวของหล่อน ความเข้มแข็งไม่รู้มาจากไหน น้ำตาแม้เพียงหยดเดียวไม่เอ่อไหลให้เขาเห็น
หญิงสาวกะพริบตาสลัดความคิดที่ทำให้เจ็บจี๊ดในใจออกไป น้ำใสรื้นในดวงตาคู่สวยแห้งหาย หล่อนจะไม่คิดถึงผู้ชายหลายใจคนนั้นอีก เท้าพาไปถึงตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้ออกเอื้อมมือจะหยิบชุดมาเปลี่ยนเพื่อออกไปทำงาน ทันทีที่มือจับเนื้อผ้าฉับพลันหล่อนก็ต้องสะดุ้งชักมือออกรวดเร็ว
ใบหน้าเขียวช้ำ ดวงตาลึกกลวงโบ๋ หันขวับมาจ้องและพุ่งเข้าใส่หน้าหล่อน อรอินทุ์กรีดร้องสุดเสียง
“อ๊ายยย...”
หล่อนหมดสติไปในบัดดล ร่างสันทัดในชุดขาวก้าวออกมาจากตู้ ริมฝีปากแห้งแตกแสยะยิ้ม เสียงหัวเราะดังก้องในโสตประสาทของอรอินทุ์ ปลุกหล่อนให้ลืมตา หล่อนยกมือปิดหูดิ้นรน ใบหน้าเขียวคล้ำพุ่งเข้าใส่หน้าหล่อนแล้วผละห่างออกไป
“พวกแกต้องชดใช้ พวกแกต้องชดใช้ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะๆๆๆๆๆ”
อรอินทุ์กรีดเสียงโหยหวนเพื่อให้เสียงหัวเราะแหลมลึกหยุด แก้วหูของหล่อนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างบางผวาเฮือกแน่นิ่งไปอีกครั้ง
มาลัยกับเลิศวิ่งแข่งกันขึ้นมาชั้นบนตรงไปที่ห้องนอนนายสาว เลิศเคาะประตูแบบไม่เกรงใจพร้อมเสียงเรียกแข่งกับมาลัย
“คุณอร คุณอรครับ คุณอร คุณอรเปิดประตูสิครับ คุณอร”
“คุณอรคะ คุณอรเป็นอะไรคะ เปิดประตูสิคะคุณอร คุณอร คุณอรคะ”
เสียงภายในห้องเงียบกริบ มาลัยมองหน้าสามี อรอินทุ์ร้องดังไปถึงห้องครัว เลิศวิ่งออกมาก่อน มาลัยตามมาติดๆ แต่พอถึงหน้าห้องนายกลับไม่มีเสียงอะไรเลย
“มาลัยไปเอากุญแจสำรองมาเร็ว คุณอรไม่ตอบอย่างนี้ไม่รู้เป็นอะไรรึเปล่า”
เลิศจ้องหน้าภรรยาสีหน้าไม่ดีนัก มาลัยวิ่งกลับลงไปที่ห้องนอนของหล่อนครู่เดียวก็วิ่งขึ้นมายื่นกุญแจให้สามี
ประตูห้องเปิดออก มาลัยวิ่งเข้าไปประคองร่างเจ้านายที่นอนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ชุดกระโปรงติดกับเสื้อสีขาวแต้มดอกไม้สีชมพูติดอยู่ในมืออรอินทุ์ ประตูตู้เปิดอ้าอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับนายสาวของหล่อน มาลัยเขย่าร่างบางอย่างห่วงใย
“คุณอรคะ คุณอร คุณอร”
หญิงสาวลืมตาช้าๆ หล่อนผวาลุกนั่งจ้องหน้ามาลัยแล้วถอยหลังหนีอย่างหวาดกลัว ปากพึมพำฟังไม่ได้สรรพ
“ไม่.อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา ไม่.ไม่..”
“คุณอร น้าเองค่ะ น้ามาลัยค่ะ คุณอรเป็นอะไรคะ”
“คุณอร น้าเลิศไงครับ”
เลิศยกมือขึ้นสองข้างมองหน้าซีดของนายสาวอย่างไม่เข้าใจกับอาการหวาดกลัวของหล่อน อรอินทุ์กลัวอะไร ทำไมจึงดูรนลานเช่นนี้
ภวิศนอนกุมหน้าท้องอาการเจ็บจุกเกิดขึ้นหลังจากที่รู้สึกตัวตื่น เขาฝันอีกแล้วฝันเหมือนวันก่อน ห้องนอนห้องนั้น เขาเข้าไปปลุกปล้ำหล่อนอีกแล้ว คราวนี้หล่อนถีบเขาที่ท้องจนกลิ้งตกจากเตียง
“ฝันบ้าอะไรอย่างนี้วะ เจ็บตัวทุกที”
เขาลุกขึ้นนั่งยกมือขยี้ผมอย่างหงุดหงิด ไฟสว่างพรึบทั้งห้องเมื่อฝืนนอนต่อก็ไม่หลับ ใบหน้าบูดบึ้งของหญิงสาวลอยเด่นในมโนสำนึก ภาพที่หล่อนถูกเขาปล้ำกอดจูบอย่างไม่ปรานี หล่อนดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองให้พ้นจากอ้อมแขนของเขา
นาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียงทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์อีก 20 นาทีตี 5 ภวิศลุกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำครู่เดียวก็กลับออกมาเดินออกจากห้องนอนลงชั้นล่าง ไฟในห้องครัวเปิดอยู่ เขาเดินเรื่อยๆ ไปที่นั่น รุ่งกำลังเตรียมอาหารเช้าสำหรับคนในบ้าน
“พี่รุ่ง ขอกาแฟแก้วสิ”
เขาส่งเสียงออกไป รุ่งหันมามองแล้วยิ้มกับนายหนุ่ม
“ได้ค่ะ จะให้พี่ยกไปที่ห้องรับแขกหรือห้องทำงานคะ”
“ห้องทำงาน”