บทที่ 8 ฝันชัดเจน
หล่อนขยับตัวจะเอื้อมมือเปิดไฟหัวเตียง ร่างสูงโผนทะยานถึงตัวหล่อนจับมือนุ่มบีบแน่น หล่อนดิ้นสุดแรงปากร้องตะโกนขอความช่วยเหลือแต่เพียงคำเดียวเท่านั้นปากนุ่มร้อนก็ปิดปากบางสนิท ร่างนุ่มถูกทับด้วยร่างแข็งแรงที่หล่อนรู้ว่ามันมีพละกำลังมหาศาลทีเดียว
ความโกรธเมื่อคิดถึงใบหน้าชายหนุ่มที่หล่อนไปหาเรื่องเขาถึงบริษัท หล่อนรวบรวมพลังของความแค้นทั้งหมดงอเข่าแล้วถีบไปกลางลำตัวของเขา ร่างสูงกระเด็นตกเตียงเสียงร้องดังออกมา หล่อนหันไปที่หัวเตียงเอื้อมมือแตะโคมไฟ
“ไอ้สารเลว วันนี้ฉันจะจับแกส่งตำรวจ”
หล่อนหันกลับมาที่กลางห้องไม่มีใครอยู่ในนั้น ประตูห้องปิดสนิท ทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หล่อนเดินไปที่ห้องน้ำไม่มีใครซุกซ่อนอยู่ หน้าต่างแย้มอยู่เช่นเดิม หล่อนเดินไปที่ประตูหมุนลูกบิด ประตูเพิ่งเปิดล็อค
“เฮ้ย เราฝันเหรอวะ ไม่ใช่..เราไม่ได้ฝันไอ้บ้านั่นเข้ามาปล้ำจูบเราจริงๆ”
หล่อนยกมือขึ้นแตะริมฝีปากความอุ่นซ่านแล่นวาบเข้าครอบคลุมหัวใจ ความรู้สึกวาบหวามแทรกมาแทนความโกรธเมื่อคิดถึงปากอุ่นร้อนที่แนบชิดปากอิ่มของหล่อน
“ไอ้บ้าเอ๊ย..”
หล่อนสะบัดมืออย่างฉุนเฉียวกดล็อคประตูเช่นเดิมแล้วเดินเข้าห้องน้ำครู่หนึ่งจึงกลับมาที่เตียง นาฬิกาบนโต๊ะบอกเวลาตี 3 ครึ่ง หล่อนนอนไม่หลับจึงเปิดประตูออกจากห้องเดินลงชั้นล่าง ครั้งนี้หล่อนจะตรวจดูประตู หน้าต่างทุกบานด้วยตัวหล่อนเอง เลิศอาจลืมปิดบานใดบานหนึ่งก็ได้
ประตูบ้านปิดล็อคกลอนแน่นหนา หน้าต่างทุกบานใส่กลอนอย่างดีไม่มีบานไหนหลงเปิดอยู่สักบาน อรอินทุ์ถอนใจเฮือกเดินกลับไปที่ห้องรับแขก
“ฉันฝันจริงๆเหรอ ไม่น่าจะใช่”
หล่อนถามตัวเองออกมาแต่ไม่มีคำตอบชัดเจนเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับหล่อนเหมือนเป็นความจริงไม่ใช่ความฝันแต่อย่างใด หล่อนถูกจูบจริงๆ รู้สึกถึงปากอุ่นของเขา มือเรียวยกแตะริมฝีปากอีกครั้ง
“คุณอร นอนไม่หลับเหรอคะ”
เสียงดังมาจากด้านหลังทำให้อรอินทุ์สะดุ้งหันขวับไปมองทางต้นเสียง มาลัยเดินยิ้มเข้ามายืนห่างจากหล่อนพอประมาณ
“ฮื่อ รบกวนน้ารึเปล่า”
“ไม่รบกวนหรอกค่ะ คุณอรรับกาแฟมั้ยคะ”
“ดีเหมือนกัน ชงกาแฟให้ฉันแล้วก็ไปนอนต่อเถอะ”
“ไม่นอนแล้วละค่ะจะต้มข้าวต้มรวมมิตร คุณอรดื่มกาแฟรอนะคะน้าทำไม่นานหรอกค่ะ”
เจ้านายสาวยิ้มน้อยๆ หล่อนเดินออกจากห้องรับแขกขึ้นห้องนอนทำธุระส่วนตัวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาข้างล่างอีกครั้งแก้วกาแฟตั้งอยู่บนโต๊ะรับแขก หล่อนถือแก้วกาแฟเดินไปที่ห้องนั่งเล่น
ผ้าม่านสีเขียวอ่อนปิดผนังกระจกทุกด้าน อรอินทุ์วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะไม้ เดินเลยไปที่ผนังดึงเชือกเปิดม่านที่ปิดผนังกระจกบานใหญ่ แสงไฟจากในห้องสาดผ่านกระจกใสออกไปด้านนอกเห็นเพียงต้นไม้ปลูกไว้ใกล้กับกระจกเท่านั้น
ภายนอกมืดมิด หญิงสาวทอดสายตาไกลออกไปหล่อนมองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด หล่อนเดินมานั่งเก้าอี้ไม้มีเบาะผ้าสีเดียวกับผ้าม่านวางบนเก้าอี้ทุกตัว ห้องทั้งห้องไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตบแต่งหรูหราเช่นบ้านในกรุงเทพฯ มีเพียงตู้ไม้เก่าเก็บหนังสือไม่กี่เล่ม แจกันกระเบื้องเคลือบหลากสีตั้งมุมห้อง ต้นธูปปักอยู่ในแจกัน บนโต๊ะรับแขกมีแจกันทรงเตี้ยปลูกพลูด่างงามสะพรั่งช่วยให้โต๊ะไม้ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป
หญิงสาวยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม รสชาติเย็นชืดหล่อนวางแก้วลง ทบทวนความฝันที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่ชั่วโมง หล่อนมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันแต่ถ้ามีคนเข้าห้องหล่อนจริงๆ ทำไมประตูยังล็อคอยู่ หล่อนส่ายหน้าแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น มาลัยเปิดประตูก้าวเข้ามา
“ข้าวต้มเสร็จแล้วค่ะ คุณอรจะทานเลยมั้ยคะ”
“จ้ะ น้ายกมาที่นี่นะชงกาแฟให้ฉันใหม่ด้วย”
“ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
มาลัยถอยกลับออกไป อรอินทุ์ถอนใจอีกครั้ง หล่อนคิดไม่ออกว่าสิ่งที่หล่อนเผชิญอยู่คืออะไร หล่อนฝันจริงหรือ ประตูห้องเปิดออก มาลัยประคองถาดใส่ชามข้าวต้มกลิ่นหอมน่าทาน ข้างชามข้าวมีแก้วกาแฟใบใหม่กับแก้วน้ำเปล่า แม่บ้านวางถาดเงินบนโต๊ะยกของในถาดออกวางแล้วถอยออกห่าง
“คุณอรจะรับอะไรอีกคะ ขนมปังมั้ยคะ”
“ไม่แล้วละ น้าเลิศตื่นรึยัง”
“ตื่นแล้วค่ะอยู่ในครัวค่ะ”
“ฉันจะเข้าโรงแรมแต่เช้าบอกน้าเลิศเตรียมรถให้ฉันด้วย ฉันจะขับไปเอง”
“ค่ะ”
มาลัยกลับออกไปแล้วอรอินทุ์จึงเลื่อนชามข้าวต้มมาตรงหน้า ใบหน้าชายหนุ่มที่ปล้ำหล่อนคืนก่อนลอยอยู่ในชามข้าวต้ม
“ไอ้บ้า ไอ้ลามก ไอ้เลว”
หล่อนด่าเป็นชุดสักช้อนลงบนเนื้อปลาหมึก เนื้อกุ้งและปลาตามอารมณ์โกรธของหล่อน ครู่เดียวจึงตักข้าวต้มเข้าปาก
“วันนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่านายเป็นใคร ไอ้โรคจิต”
ข้าวต้มหมดชาม กาแฟเกลี้ยงแก้ว ความโมโหทำให้หญิงสาวทานอาหารหมดทุกอย่าง หล่อนเดินเร็วๆ ออกจากห้องนั่งเล่นขึ้นชั้นบนเข้าห้องนอน หล่อนต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าของโรงแรมตามที่ลุงกับแม่มอบหมายให้ทำ แวบหนึ่งหล่อนคิดถึงผู้ชายที่หล่อนรักเขาพร้อมจะแต่งงานกับเขาถ้าเขาเอ่ยปากขอแต่เพียงแวบเดียวเท่านั้นความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาแทนที่ความรู้สึกดีๆ นั้นจนหมดสิ้น