บทที่ 3 บ้านริมผา
สุเมธเดินเข้ามาในห้องทำงานซึ่งอยู่ชั้นล่างเลยห้องโถงรับแขกไปทางด้านหลังติดกับสวนเล็กๆ ที่ภวิศตั้งใจสร้างมันเพื่อทำงานสบายๆ มองผ่านกระจกใสบานใหญ่เห็นสวนผลไม้กับไม้ดอกไม้ประดับชัดเจน
บ้านสองชั้นทรงร่วมสมัยเป็นบ้านส่วนตัวของภวิศ เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เขาย้ายจากบ้านพ่อแม่มาอยู่ที่นี่เพียงลำพังแต่พัสกรส่งสุเมธลูกชายสันทัดผู้จัดการโรงแรมผาพราวที่พัสกรเป็นเจ้าของมาคอยดูแลเขา
สุเมธเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี อายุน้อยกว่าเขา 4 ปีเขารักสุเมธเช่นน้องชายเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เล็กเติบโตมาด้วยกัน เขาไม่คิดว่าสุเมธคือลูกของลูกน้องพ่อ พัสกรก็ไม่คิดว่าสุเมธเป็นคนอื่น หนุ่มใหญ่รักสุเมธเช่นหลานแท้ๆ และรักสันทัดเช่นน้องชายคนหนึ่ง
พนักงานบริษัทคนอื่นๆ ภวิศสร้างตึก 3 ชั้นไว้ในเมืองผางามเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ของภาคตะวันออก ความรู้ด้านบริหารจากต่างประเทศของเขาช่วยให้เขาบริหารงานโดยไม่ต้องพึ่งพัสกรกับจารุวรรณผู้เป็นพ่อแม่ เขาบินเดี่ยวมาสร้างบริษัทด้วยความเห็นชอบของพ่อ เขาเลือกอยู่บ้านผางามเพราะปู่ของเขาเคยอยู่ที่นี่
ตั้งแต่เขาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของตัวเอง เขาฝันเห็นปู่สองสามครั้งและล่าสุดเมื่อคืนนี้ เขาฝันว่าปู่เดินมาจูงมือเขาออกจากบ้าน
“คุณปู่จะพาผมไปไหนเหรอครับ”
“ไปดูบ้านที่ปู่เคยอยู่แต่ไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไหร่ เจ้าของใหม่ปรับเปลี่ยนไปเยอะแต่ยังสวยเหมือนเดิม”
ภวิศก้าวตามภรตเข้าไปในบ้านหลังสวยอยู่ใกล้กับริมผา บ้านหลังนี้สวยจริงๆ เป็นบ้านทรงไทยด้านบนส่วนชั้นล่างสร้างแบบร่วมสมัยมีการดัดแปลงตกแต่งหรูตามสมัยนิยม เขาเพลินดูบ้านพอหันมาอีกทีปู่ก็หายตัวไปพร้อมๆ กับภาพหญิงสาวยกโทรศัพท์ฟาดที่ศีรษะเขา
“ปวดหัวว่ะ ขอยาแก้ปวดหน่อย”
ภวิศตอบแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้โซฟา หลับตาลงคิดถึงความฝันอีกครั้ง ใบหน้าหญิงสาวที่เขาปลุกปล้ำหล่อนหวาดกลัว หล่อนดิ้นรนหนีเขาแต่ก็หนีไม่พ้นเขากระชากเสื้อหล่อนออก จูบหล่อนอย่างโหยหิว
“บ้าเอ๊ย ฝันบ้าๆ”
เขาสลัดศีรษะเมื่อคิดถึงอกอวบเต็มตาและรสจุมพิตที่ติดปากจนอยากสัมผัสอีกครั้ง สุเมธถือแก้วน้ำกับยาแก้ปวดมายื่นให้เจ้านายและพี่ชายที่เขานับถือ
“ฝันอะไรเหรอครับท่าทางไม่สบอารมณ์”
“ไม่ต้องรู้หรอก งานเคลียร์เสร็จรึยัง เดี๋ยวออกไปท้ายหมู่บ้านกับฉันหน่อย”
“เสร็จแล้วครับ คุณวิศจะไปทำไมครับ”
“ไปดูบ้านเก่าคุณปู่ คุณพ่อบอกว่าอยู่แถวนั้นฉันไม่เคยไปสักที”
เขาไม่กล้าบอกสุเมธว่าเขาฝันเห็นบ้านที่ภรตเคยอยู่ เขาอยากพิสูจน์ว่าความฝันเป็นจริงหรือเปล่าหากเป็นจริงเมื่อคืนเขาก็...
“มีตัวตนจริงรึเปล่าวะ” เขาพึมพำออกมา
“อะไรมีตัวตนครับ คุณวิศมาแปลกนะครับเนี่ย ไม่สบายมากนะเนี่ย พูดอะไรแปลกๆ ฝันบ้าๆ ยังงี้ มีตัวตนรึเปล่ายังงี้ ตกลงคุณวิศฝันบ้าเหรอครับ”
“ไอ้เมธ เดี๋ยวโดนเตะ”
เจ้าของบ้านหนุ่มส่งยาเข้าปากแล้วดื่มน้ำตาม ถ้าเขาเล่าความฝันบ้าๆ นั่นให้สุเมธฟัง หนุ่มรุ่นน้องต้องหัวเราะแน่นอนแค่ความฝันเขาเก็บเอามาคิดเป็นตุเป็นตะและกำลังจะไปพิสูจน์ว่าบ้านหลังนั้นอยู่ริมผาหรือไม่รวมทั้งผู้หญิงที่เขาปล้ำจูบหล่อนอยู่ในบ้านหลังสวยนั้นจริงไหม
รถกระบะสี่ประตูสีบรอนแล่นไปจอดหน้าประตูรั้วไม้ธรรมชาติ ป้ายไม้ใช้เชือกสีขาวเขียนเป็นตัวอักษรว่า “บ้านริมผา”
ภวิศดับเครื่องยนต์นั่งนิ่งไปชั่วครู่ ความฝันเป็นจริงทุกอย่าง บ้านที่เขาฝันเห็นมีจริงๆ ตัวบ้าน สีหลังคาเหมือนในฝันไม่ผิดเพี้ยน เขาไม่อยากคิดว่าผู้หญิงคนนั้นมีตัวตนจริงๆ หล่อนอยู่ในบ้านหลังนี้
“คุณวิศครับ ลงมั้ย”
“ไม่..แค่มาดู บ้านสวยดี เจ้าของจะขายมั้ยวะ”
“คงไม่หรอกครับแต่งสวนสวยขนาดนี้ นั่นครับมีคนเดินออกมาด้วย ถามเขามั้ยครับ”
สุเมธชี้มือเข้าไปในรั้วไม้ ภวิศมองตามมือลูกน้องคนสนิทแล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นตัวเย็นวาบ คุณพระช่วยผู้หญิงคนนั้น หล่อนจริงๆ กางเกงสีดำสั้นเหนือเข่า เสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนยาวพับถึงศอก ผมยาวสยายพาดมาด้านหน้าข้างหนึ่ง หล่อนกำลังเดินมาที่ประตูรั้ว
“เฮ้ย..เป็นไปได้ไงวะ”
เขาร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อว่าใบหน้าของหญิงสาวที่เดินใกล้เข้ามาทุกขณะนั้นจะเป็นใบหน้าเดียวกับคนในฝันที่เขาทำไม่ดีกับหล่อน สุเมธหันมาจ้องหน้าเจ้านาย
“อะไรครับ อะไรเป็นไปได้ครับ”