บทที่ 12 พิสูจน์ความฝัน
“สวัสดีครับอา เอ่อ..ขอโทษครับไม่รู้ว่าอามีแขกเดี๋ยวผมไปรอ..เฮ้ย..”
ชายหนุ่มยิ้มกับผู้จัดการแล้วจะถอยกลับแต่เผอิญสายตามองไปด้านหลังแขกของสันทัน คำพูดของเขาชะงักทันทีเพราะหญิงสาวที่ยืนอยู่เยื้องไปนั้นคือคนที่เขาฝันถึงเมื่อคืนก่อนและเมื่อคืนนี้ หล่อนมาที่นี่ทำไม
“เฮ้ย.ไอ้โรคจิตคิดจะมาหาเหยื่อในโรงแรมรึไง คุณสันทัดโทร.บอกตำรวจจับมันเลยค่ะ มันเป็นโรคจิตไล่ปล้ำข่มขืนผู้หญิง โทร.เลยค่ะ โทร.จับมันเลย”
อรอินทุ์ลืมธุระสำคัญของตัวเองหันมาชี้หน้าภวิศ เสียงของหล่อนไม่เบานักสีหน้าโกรธเกรี้ยว สันทัดมองชายหนุ่มหญิงสาวสลับกัน สายทิพย์ก็เช่นกัน ลูกสาวเจ้านายของหล่อนพูดถึงอะไร เคยพบกับผู้ชายหน้าตาดีคนนี้เมื่อไหร่แล้วทำไมกล่าวหาเขาว่าเป็นโรคจิต
“คุณอรคะ อะไรกันคะ”
“คุณทิพย์ ไอ้บ้านี่มันเข้าไปปล้ำอรถึงห้องนอน คุณสันทัดโทร.เรียกตำรวจมาจับมันสิคะ”
อรอินทุ์เดินเข้าไปหาภวิศ เขาวิ่งหนีไปหลบหลังสันทัด สุเมธเดินเข้ามางุนงงกับการวิ่งไล่จับของหญิงสาวกับนายหนุ่ม
“นี่มันอะไรกันครับ เล่นอะไรกันเหรอครับพี่วิศ อะไรกันครับพ่อ”
สันทัดตอบลูกชายที่ยกมือไหว้เขาไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทายาทโรงแรมผาพราวกับทายาทโรงแรมสตาร์บีช เขาต้องห้ามทัพเล็กๆ ไว้ก่อน
“หยุดก่อนครับคุณอรอินทุ์ คุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้วละครับ นี่คุณภวิศ พิตรพิบูล ลูกชายคนเดียวของคุณพัสกรเจ้าของโรงแรมนี้นะครับ ไม่ใช่ไอ้โรคจิตอย่างที่คุณเข้าใจ คุณวิศเรียนจบจากต่างประเทศเป็นเจ้าของบริษัทนำเที่ยวนะครับ ไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ครับ”
อรอินทุ์หยุดเท้าที่กำลังวิ่งไล่ภวิศลงทันควันพร้อมกับหันมาจ้องหน้าสันทัดก่อนจะหันไปจ้องชายหนุ่มโรคจิตตามความเข้าใจของหล่อน
ไอ้โรคจิตคนนี้คือ ภวิศ พิตรพิบูล ลูกชายเจ้าของโรงแรมผาพราวเป็นไปได้อย่างไร หล่อนไม่เชื่อ
ภวิศเดินไปนั่งเก้าอี้ทำงานของสันทัด เขาไม่อยากเสี่ยงนั่งใกล้หญิงสาวโมโหร้าย หล่อนเข้าใจถูกต้องว่าเขาคือคนที่เข้าไปปลุกปล้ำหล่อนถึงเตียงนอนแต่เขาไม่ได้เป็นโรคจิตอย่างที่หล่อนเข้าใจ
เขาต้องพิสูจน์ความฝันนั่นให้ได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ หากไม่เป็นความจริงผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าสันทัดจะจำเขาได้แม่นยำอย่างนี้หรือและเขาจำหน้าหล่อนได้ทุกส่วน ปากอิ่มที่เขาลิ้มรสความหวานละมุนมาแล้ว เขาจ้องนิ่งที่ปากสีชมพูของหล่อนอย่างลืมตัว
“จ้องฉันทำไม ถ้านายไม่ใช่ไอ้โรคจิตก็บอกมาสิว่านายไปบ้านฉันทำไม บอกผู้จัดการไปสิว่านายไม่ได้ไปที่นั่นกับไอ้หมอนี่”
อรอินทุ์ชี้หน้าสุเมธแล้วหันมาจ้องภวิศตาขุ่นขวางอย่างเอาเรื่อง สันทัดมองลูกชายสลับกับลูกเจ้านายแล้วหันมาที่สายทิพย์
“คุณทิพย์รู้เรื่องนี้รึเปล่าครับ”
“ไม่ค่ะ งงเหมือนกัน”
หญิงสาวสั่นศีรษะปฏิเสธรวดเร็ว อรอินทุ์พูดถึงอะไร ใครโรคจิต ภวิศนะหรือโรคจิตจะเป็นไปได้อย่างไรและที่สำคัญสองคนนี้รู้จักกันได้อย่างไร ไม่ใช่แค่สองคนแต่มีลูกชายสันทัดรวมอยู่ด้วย
“คุณอรอินทุ์ เล่ารายละเอียดให้ผมฟังหน่อยได้มั้ยครับ คุณภวิศไปที่บ้านคุณตอนไหน เข้าไป..เอ่อ..ปล้ำคุณเมื่อไหร่แล้วก็ รู้จักกันตอนไหน”
“ผมไม่รู้จักผู้หญิงโมโหร้ายนี่นะครับอยู่ๆ ก็เข้าไปอาละวาดที่ออฟฟิศผม แขกแทบวิ่งหนีกันหมด”
ภวิศแทรกขึ้น อรอินทุ์ลุกพรวกชี้หน้าเขาอย่างไม่เกรงใจ
“ไอ้บ้า อย่ามาว่าฉันนะ ถ้านายไม่เข้าไปทำร้ายฉันถึงบ้าน ฉันจะทำแบบนี้เหรอ คุณทิพย์โทร.เรียกตำรวจมาจับมันเลย”
“ใจเย็นๆ ครับคุณอรอินทุ์” สันทัดลุกขึ้นยืน ยกมือห้ามศึกย่อยๆ ในห้อง
“เรียกอรก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวหันมาพูดน้ำเสียงไม่ค่อยน่าฟังเท่าไรนักแต่หนุ่มใหญ่ยิ้มเพราะนั่นเท่ากับว่าอรอินทุ์ให้ความเป็นกันเองกับเขาซึ่งเป็นผลดีกับการยุติศึกความเข้าใจผิดครั้งนี้ได้
“ขอบคุณครับคุณอร คุณอรนั่งก่อนนะครับ เมธออกไปบอกคุณดาชงกาแฟให้แขก ขนมด้วยนะ”
“ครับ พี่วิศเอามั้ยครับ”
“ไม่เอา แกก็ไม่ต้องกินเดี๋ยวออกไปตรวจงานกับฉัน”
ภวิศออกคำสั่งเสียงเข้ม สายตาจับนิ่งที่ใบหน้าอรอินทุ์ ความสวยถูกบดบังเพราะใบหน้าบูดบึ้งนั่น เขาเมินหนีสายตาดุของหล่อนแล้วอมยิ้มเมื่อคิดถึงริมฝีปากอุ่นที่เขาจูบหล่อนถึงสองครั้งสองครา
“นายคิดจะหนีรึไง วันนี้ฉันไม่ให้นายหนีรอดแน่ คุณทิพย์โทรศัพท์บอกตำรวจมาที่นี่ อรจะยืนยันความผิดของไอ้บ้านี่เอง วันก่อนอรตีหัวด้วยโทรศัพท์มือถือของอร เมื่อคืนอรถีบที่ท้อง คุณสันทัดคะจับไอ้โรคจิตนี้ไว้ อรจะพิสูจน์เองว่าใช้คนร้ายตัวจริงรึเปล่า”
“เฮ้ย.ไม่ได้นะ ห้ามละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเด็ดขาดไม่อย่างนั้นผมแจ้งจับคุณด้วย”
ภวิศยกมือแบยื่นไปข้างหน้าแล้วลุกขึ้นยืน ท่าทางร้อนตัวของชายหนุ่มทำให้สันทัดต้องนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง ถ้าภวิศไม่ได้ทำตามที่อรอินทุ์กล่าวหาทำไมต้องกลัวการพิสูจน์ด้วยล่ะ เขาไม่แน่ใจเสียแล้วว่าสิ่งที่หญิงสาวทายาทโรงแรมสตาร์บีชพูดนั้นจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด
“ตาวิศ นั่งก่อน เดี๋ยวอาคุยกับคุณอรเอง”
ผู้จัดการโรงแรมเดินไปจับแขนชายหนุ่มให้นั่งลงที่เดิม สุเมธผลักประตูเข้ามาตามด้วยเลขาฯ หน้าหวานถือถาดใส่ถ้วยกาแฟ 3 ใบจานขนมวางอยู่ข้างกัน สุเมธเดินไปหยุดยืนข้างโต๊ะทำงานของพ่อ บรรยากาศภายในห้องไม่ค่อยดีนักเพราะอรอินทุ์จ้องภวิศเขม็ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังโกรธ ส่วนเจ้านายหนุ่มทำหน้าทะเล้น มีรอยยิ้มระบายเต็มดวงหน้า
“พ่อครับ”
“พาตาวิศไปดูงานแล้วก็สั่งอาหารกลางวันห้าที่ พ่อจะพาคุณทิพย์กับคุณอรไปพบแขกก่อน เอ่อ.คุณทิพย์ คุณอรครับ นี่สุเมธลูกชายผม ส่วนไอ้โรคจิตที่คุณอรเข้าใจผิดเป็นลูกชายคุณพัสกรจริงๆ ครับ ตาวิศ นี่คุณสายทิพย์ผู้จัดการโรงแรมสตาร์บีชแล้วก็คุณอรอินทุ์ลูกสาวคุณอาริยาหลานสาวคุณอิสระเจ้าของโรงแรม”
“ยินดีที่ได้รู้จักเป็นทางการเสียทีนะครับคุณอรอินทุ์ ผมขอตัวไปดูงานก่อน เอาไว้พบกันที่โต๊ะอาหารนะครับ วันนี้ผมเลี้ยงเอง”