ตอนที่ : 3 วิกฤตหรือโอกาส 3
“เอ่อ...คือว่าคาปูอยากจะขอยืมเงินคุณเกื้ออีกสักสองล้านบาทน่ะค่ะ”
“สองล้านบาท!”
“ค่ะ”
“ยัยคาปู! นี่เธอเห็นฉันเป็นอะไร พ่อของเธอขโมยแหวนเพชรของฉัน แล้วเธอยังมีหน้ามาขอให้ปล่อยแถมมายืมเงินต่ออีก ถ้าฉันให้ ฉันก็ควายดีๆ นี่เอง” ร่างสูงลุกพรวดขึ้นยืน แทบอยากจะจับชามาวีร์โยนออกนอกห้องไป
“โอ๋...อย่าเพิ่งโกรธคาปูนะคะ คาปูรู้ว่ามันมากไปก็เลยมีข้อเสนอให้ยังไงคะ”
“ข้อเสนอ ให้ตัวเองเป็นเมียบำเรอของฉันนี่นะ” เขาย้ำคำอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ใช่ค่ะ”
“ไม่!”
“คาปูเก่งนะคะ!”
ตอบเองก็มึนเอง นี่เธอเก่งอะไรหว่า คนไร้ประสบการณ์คิดอย่างงงๆ แต่คนฟังถึงกับนิ่งอึ้งไป ใครจะคิดว่าจะได้ยินคำว่าเก่งนะคะ! ออกมาจากปากของชามาวีร์ แม่เลขาฯ หน้าอนุบาลที่วันๆ เอาแต่ทำงาน แถมมีนิสัยงกเงินเป็นที่หนึ่ง ชงกาแฟรับแขกที่บริษัทยังประหยัดกระทั่งน้ำตาล เขาแทบจะได้กินเอสเพรสโซทุกครั้งที่แวะไปหาเวคิน
“เก่ง…เรื่องอะไร”
‘นั่นไง เข้าแผน’ ชามาวีร์คิดอย่างกระหยิ่ม
“ก็เก่งเรื่อง...เอ่อ...อย่างว่าน่ะค่ะ”
สีหน้ากึ่งกล้ากึ่งอายของชามาวีร์ ชักทำให้เกื้อรัฐอยากจะพิสูจน์โดยการจับอีกฝ่ายกดราบลงโซฟาในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ชายหนุ่มนิ่งใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหรี่หางตามองดูคนที่นำตัวเองมาเสนอขายตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ตากลมโต เรียวปากอิ่มเอิบสีชมพู หุ่นกะทัดรัดน่าฟัด ผิวก็ขาวราวหยวกกล้วย อกอวบอัดนั่นก็คงจะนุ่มมือ เอาผ้าปิดหน้าไว้หน่อยก่อนเผด็จศึก แค่คิดเขาก็สนุกแล้ว
“ก็ได้”
“เอ๋”
“ก็ได้ ฉันจะไม่เอาผิดพ่อของเธอ นี่เห็นแก่ลูกกตัญญูที่ยอมเอาตัวเน่าๆ เข้าแลกนะนี่”
เขาประชดประชันอีกฝ่าย ใช่ว่าจะใจอ่อนแต่ก็เห็นแก่คนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันมานาน ความจริงแล้วชามาวีร์ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ เพียงแต่ไม่ชอบแต่งเนื้อแต่งตัว หน้าตาก็ธรรมดาไม่ถึงกับสวยอย่างแฟนสาวของเขาทุกคนที่ผ่านมา สงสัยอยากจะกินกาแฟรสชาติคาปูชิโนดูบ้าง หลังจากถูกบังคับให้กินเอสเพรสโซมาเสียนาน เกื้อรัฐคิดหาเหตุผลในการตอบตกลงของตัวเองไม่ได้
“ขอบคุณมากค่ะคุณเกื้อ” หญิงสาวยกมือไหว้เขาอย่างซาบซึ้งใจ ก่อนจะหุบรอยยิ้มลงเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“แต่เรื่องยืมเงินคงต้องผ่อนจ่าย” เรื่องนี้ต่างหากที่ทำให้เขานึกสนุกกว่าทุกเรื่อง จะยอมแลกความสุขเล็กๆ น้อยๆ กับเศษเสี้ยวเงินจะเป็นไรไป กับการได้มีของเล่นชิ้นหายากเพิ่มขึ้นมาหนึ่งชิ้น ชามาวีร์ฟังแล้วก็ยิ่งงงเข้าไปกันใหญ่ ไม่เข้าใจว่าจะต้องผ่อนจ่ายเขายังไง
“ผ่อนจ่ายหมายถึงยังไงคะ”
“ฉันจะให้เช็คเงินสดเธอสองล้านบาทตามที่ต้องการ แต่เธอต้องมาผ่อนจ่ายด้วยตัวของเธอจนกว่าจะครบตามเงื่อนไข” เกื้อรัฐอธิบายเพิ่มเติมว่าต้องผ่อนจ่ายด้วยตัวของชามาวีร์
“เงื่อนไข” คนฟังถึงกับคิ้วขมวดมุ่นชักจะหวั่นเกรงในเงื่อนไขของเขา
“ใช่ เงื่อนไขในการผ่อนจ่ายก็คือ ครั้งละหมื่น” คำพูดของเขาทำเอาชามาวีร์หน้าเหวอไป ชาติไหนกันล่ะถึงจะใช้หนี้เขาหมดสองล้านบาท เกื้อรัฐมองหน้าของหญิงสาวแล้วก็อดขำไม่ได้ มาเสนอตัวให้เขาเอง แต่พอเขาตอบตกลงพร้อมแจ้งเงื่อนไขให้ฟัง ดันทำหน้าเหมือนลิงตื่นกรงไปได้
“คุณเกื้อคะ คาปูว่า...” ชามาวีร์อยากจะต่อรองเขาให้มากกว่านี้ นึกว่าจะเดือนสองเดือนอะไรทำนองนี้ แต่นี่เงื่อนไขของเขาแทบไม่มีระยะเวลากำหนดเอาเสียเลย
“ไม่เอาใช่ไหม” แต่ก็ถูกเกื้อรัฐดักทางเอาไว้เสียก่อน
“เอาค่ะ!” คำตอบแสนจะรวดเร็วทำให้อีกคนยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ เกื้อรัฐดึงร่างของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นมาแล้วดันให้นั่งลงบนโซฟา ก่อนจะมัดจำหญิงสาวด้วยการแนบริมฝีปากทาบลงไปหาความหวานฉ่ำภายใน จูบแรกในชีวิตของชามาวีร์ทำเอาหญิงสาวถึงกับตัวแข็งทื่อ หลับตาลง จินตนาการถึงอะไรบางอย่างนุ่มๆ ลื่นๆ ที่ควานหาสิ่งสำคัญภายในโพรงปากของเธอ ทำไมมันหวิวๆ คล้ายตัวจะลอยได้ชอบกล
“เริ่มงานวันนี้เลยไหม”
คำถามของเขาทำเอาคนเคลิ้มฝันถึงกับลืมตาโพลงในทันที
“ไม่ค่ะ! พะ...พรุ่งนี้” หญิงสาวละล่ำละลักตอบออกมา ต้องพรุ่งนี้ วันนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
“ก็ได้ ฉันไม่รีบ มาฟังเงื่อนไขในวันเริ่มงานก็แล้วกัน”
เขาแบมือออกทั้งสองข้างอย่างคนเป็นต่อปรายสายตามองดูชามาวีร์ที่รีบลุกขึ้นเดินตรงไปยังบานประตูห้อง หญิงสาวหันกลับไปมองหน้าเขาอีกครั้ง ฟังเขาพูดแล้วเหมือนตอนเธอสัมภาษณ์งานกับเวคินไม่มีผิด บานประตูห้องถูกเปิดกว้างออก แต่ก่อนที่เธอจะออกไปก็ได้ยินเสียงของเขาแว่วตามหลังมา
“สองทุ่มตรง ถ้าช้า ฉันอาจจะเปลี่ยนใจ” ปัง! ชามาวีร์รีบปิดประตูห้องลง แล้วเดินใจลอยออกจากห้องของเขาไป ความคิดวิ่งพล่านไปต่างๆ นานาจนกระทั่งขึ้นแท็กซี่กลับไปถึงบ้าน
หนังสือและแผ่นซีดีที่เกี่ยวกับเพศศึกษาถูกซื้อมาหลากหลายชิ้นโดยเพื่อนรักที่ชื่อไฟฝัน ทั้งสองสาวแอบมาปรึกษาหารือกันอย่างเงียบๆ ในบ้านหลังน้อยของไฟฝัน ของที่หาซื้อมาถูกวางแบอยู่บนพื้นห้อง ชามาวีร์หยิบซีดีแต่ละแผ่นขึ้นมาพิจารณาดู เพียงแค่เห็นภาพที่แปะอยู่ด้านหน้าของแผ่นซีดี หญิงสาวทั้งสองก็หน้าแดงเถือกขึ้นพร้อมกันทั้งคู่
“คาปู แกจะศึกษาเรื่องพวกนี้ไปทำไม” ไฟฝันยื่นแผ่นซีดีแผ่นหนึ่งไปตรงหน้าของเพื่อนรัก คบกันมานับสิบปียังไม่เคยเห็นชามาวีร์สนใจเรื่องพวกนี้มาก่อน
“เอ่อ...เรื่องมันยาว” ชามาวีร์ทำหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะเล่ารายละเอียดที่มาที่ไปของเรื่องให้ไฟฝันฟังทั้งหมดโดยไม่คิดปิดบังแต่อย่างใด เพียงแค่ฟังจบไฟฝันถึงกับหน้าถอดสีต่อเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังจะทำอยู่ในตอนนี้
“คิดดีแล้วหรือคาปู”
“อืม...ดีแล้ว” หญิงสาวตอบแบบยิ้มๆ
“ฉันรู้ว่าแกชอบคิดบวกอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดีตลอดเวลา แต่ว่าเรื่องนี้มันใหญ่มากเลยนะ” ไฟฝันวาดมือกว้างออกอย่างไม่รู้จะบรรยายออกมาว่ามันสำคัญยังไง กับการที่จะต้องเสียตัวให้ผู้ชายสักคนที่เขาไม่ได้รักเรา
“ฉันรู้ว่าแกหวังดี แต่ว่ามันไม่มีทางเลือกนี่นา ฉันไม่ได้เกิดมารวย แกก็เหมือนกัน ไม่ได้เกิดมารวยพอที่จะให้ฉันยืมเงินได้ ก็มีแต่วิธีนี้ที่จะช่วยพ่อและรักษาบ้านเอาไว้ได้” เหตุผลของชามาวีร์ทำให้ไฟฝันคิดตามอย่างเข้าใจ แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ใช่เหตุผลของเรื่องทั้งหมดอยู่ดี
“ถ้าไม่ใช่คุณเกื้อรัฐ แกคงยอมปล่อยให้บ้านถูกยึด พ่อติดคุกใช่ไหม” อีกฝ่ายเอ่ยอย่างรู้ทัน
“อืม...” ชามาวีร์ก้มหน้าอย่างอายๆ ที่โดนจับผิดได้ ถ้าไม่ใช่เกื้อรัฐ เธอก็คงต้องทำอย่างที่ไฟฝันว่าจริงๆ แต่เมื่อมีทางเลือกให้ลอง ทำไมจะไม่ทำ ไฟฝันหรี่หางตามองดูท่าทางของเพื่อนรักแล้วก็รู้ว่าตัวเองคิดไม่ผิดอย่างแน่นอน