ตอนที่ 9 ไร้เดียวสา
ตอนที่ 2/4 ไร้เดียงสา
เสียงหวานร้องอุทาน คำว่า 'อ้าว' ผ่านริมฝีปากอิ่มสีชมพูวาวออกมา หลังจากฟังสิ่งที่เขาอธิบาย เธออาจจะคิดมาก คิดเยอะ และระแวงเกินไป จนสร้างกำแพงขวางกั้นระหว่างกันเอาไว้อีกชั้น แต่ยามนี้กำแพงที่ก่อก็ค่อย ๆ พังลงช้า ๆ
"หนูต้องอยู่คฤหาสน์กับคุณด้วยใช่ไหมคะ"
"อืม เธอกลัวผีนี่ หรืออยู่คนเดียวได้ล่ะ"
"หนูไม่กล้าอยู่คนเดียวค่ะ แต่หนูอยากได้การยืนยัน ว่าคุณจะไม่คิดไม่ดีกับหนู"
"ไม่ดีในความหมายเธอคืออะไร"
"แบบว่า...พวกเรื่องเข้าด้ายเข้าเข็มไงคะ" ปากเธอยื่นอย่างขัดใจ ครั้นคนอายุมากกว่ายังตีหน้าเรียบนิ่ง ซักไซ้ราวกับไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไรกันแน่ เด็กสาวจึงข่มอาการกระดากอาย เอ่ยเสียงหวานรื่นหูพึมพำ
"วางใจเถอะ ฉันไม่ชอบขืนใจใครที่ไม่ยินดี" พฤกษชาติส่งเสียงหนักแน่นยืนยัน กล้าไปสาบานเก้าวัดต่อหน้าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เสียด้วยซ้ำ หรือจะให้ฟ้าฟาดลงทัณฑ์กันยังได้หากเขาผิดคำพูด
ชายหนุ่มมีอำนาจ มากด้วยเหล่าลูกน้องสมุนทั่วทิศ ทุกอาณาเขต บารมีเขากระจุยกระจายไปทั่ว เป็นที่นับหน้าถือตา ไม่มีใครไม่รู้จัก นักธุรกิจหนุ่มผู้ติดอันดับมหาเศรษฐีร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของไทย เบื้องหลังมีธุรกิจมากมายให้ดูแล เกียรติศักดิ์ความจริงจังเวลาทำงาน และเด็ดเดี่ยวล่ำลืออย่างแพร่สะพลัด เขากลายเป็นเป้าสายตาของสังคม ถูกเพ่งเล็งในแวดวงธุรกิจ สำนักข่าวให้ความสนใจนำไปเขียนข่าวขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ยังไม่รวมข่าวเช้าตรู่ในทีวีที่พูดถึงกันหนาหู
ผู้ชายก๋ากั๋น มากประสบการณ์แสนจะผาดโผน รุนแรง เร่าร้อนรู้สึกอันตราย ราวกับกำลังเล่นกับไฟกองใหญ่ ยามทำกิจกรรมอย่างว่ากับคู่นอนชั่วคราว ซึ่งเขาครองโสดมาอย่างยาวนาน ย่อมเกิดอารมณ์ปราถนาเป็นธรรมดาตามสัญชาตญาณ
ฉะนั้น เขาไม่เคยขืนใจใคร หรือใช้อำนาจบาทใหญ่ของตนข่มเหงผู้หญิง เหตุการณ์เกิดขึ้นบนเตียงกับผู้หญิงต่างหน้า เพราะหล่อนเข้ามาเสนอให้เองทั้งนั้น ทว่าเขากลับพิถีพิถันในการคัดสรรคู่นอน และคนอย่างพฤกษชาติไม่เคยต้องอดอยากปากแห้ง จนถึงขั้นกระทำเลวทรามกับผู้อื่น เพื่อตอบสนองความใคร่ตน
ทุกครั้ง พฤกษชาติจะทำข้อตกลงกับคู่ขาบนเตียงอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะตรวจเลือดล่วงหน้าก่อนวันนัดหนึ่งเดือน หรือป้องกันการคุมกำเนิดทั้งสองฝ่าย หล่อนจะต้องกินยาคุม ส่วนเขาสวมถุงยางอนามัย ไม่เคยหละหลวมก่อนริเริ่มบทรักทุกครั้ง
'ความสัมพันธ์วาบหวิว จะจบลงเพียงแค่คืนเดียว' เพื่อให้เขาแน่ใจ วันข้างหล่อนจะไม่กลับมาสร้างความเดือดร้อนให้ในภายหลัง
ต่างฝ่ายต่างยินยอม ไม่อยากผูกมัดซึ่งเป็นการตกลงที่เห็นพ้องต้องกันทุกประการ หล่อนได้ผลกำไรเป็นเงินค่าตอบแทนก้อนใหญ่ เขาไม่เคยบิดพลิ้ว เอารัดเอาเปรียบภายหลังถูกปลดปล่อยกามอารมณ์คั่งค้างจนสมใจ มันไม่ต่างจากร่วมหุ้น ลงทุนทำธุรกิจเลยสักนิด
เมื่อได้รับผลประโยชน์ที่น่าพึงพอใจ ก็แยกย้ายไปตามทางใช้ชีวิตปกติของตนเองต่อ คำว่าห่วงใย หรืออาวรณ์ไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายอย่างพฤกษชาติ
ไม่มีความผูกพัน ไม่มีเยื่อใยต่อกัน ไร้ซึ่งความรู้สึกรัก เป็นเพียงการทำงานหน้าที่โดยใช้ร่างกายสนองอารมณ์กระสันบนเตียงนอนเท่านั้น
"หนูค่อยเบาใจหน่อย ว่าแต่หนูถามอีกได้ไหมคะ" เด็กสาวถอนหายใจ ตาโตขึ้นความง่วงงัวเงียมลายหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อมีสิ่งที่สงสัยต้องรู้ให้ได้อีกเยอะ
"อืม" เจ้าของเสียงทุ้มต่ำคำรามรับผ่านลำคอ เชิงอนุญาต ตอบได้เขาก็จะตอบ ถ้าบางสิ่งไม่ควรพูด เธอกำลังล้ำเส้นเขา อย่างเผลอลืมตัว หรือตั้งใจ การเงียบนั่นคือสิ่งยืนยัน บ่งบอกได้ว่า เขาไม่อยากเอ่ยถึงสักเท่าไรนัก
"พ่อเลี้ยงมีครอบครัว และภรรยาหรือยังคะ ถ้าหนูไปอยู่คฤหาสน์จะไม่ถูกครหาใช่ไหม หรือหนูควรไปขอนอนกับพี่ ๆ คนงานจะได้คลายความกลัวผีลงบ้าง"
เอิงเอยนอนครุ่นคิดมาทั้งคืน เธอเตรียมหาทางออกแก่ตัวเอง แล้วเอ่ยเสนอต่อเขา เพราะไม่อยากรบกวนเกินความจำเป็นนัก ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายเมตตา ถึงขั้นให้โอกาสเธอเข้ามาทำงาน หาเงินเพื่อไปเรียนต่อมหา'ลัย เธอก็ยิ่งเกรงใจ และกระดากอาย พ่อกับแม่ได้กำไรจากเขามาอย่างมากโข จนเธอไม่กล้ารบกวนอะไรจากเขา
การหาทางออกโง่เง่าของเธอราวกับกำลังเล่นขายของเป็นเด็กไม่มีผิด ทำชายหนุ่มมองกลับด้วยหางตาเพียงครู่เดียว
"ฉันยังไม่มีครอบครัว แต่เร็ว ๆ นี้ไม่แน่...อีกอย่างใครจะกล้าว่าฉันบอกให้อยู่คฤหาสน์ก็อยู่ไป อย่าไปรบกวนคนอื่นเพียงเพราะกลัวอะไรที่เพ้อเจ้อ งมงายคิดไปเอง"
ประโยคแฝงเลศนัย คำว่า 'ยังไม่มีครอบครัว แต่เร็ว ๆ นี้ไม่แน่' เธอเข้าใจถูกหรือเปล่า เขาหมายความว่า เขามีผู้หญิงที่หมายตาต้องใจอยู่สินะ หัวคิ้วเรียวขมวดเป็นปม แต่นั่นมันเรื่องส่วนตัวเขา จึงไม่ควรซักถามในเชิงลึกมาก ก่อนเปลี่ยนประเด็นใหม่
"คุณไม่เชื่อเหรอคะว่าผีน่ะมีจริง" มือเล็กยกตะปบปากตัวเองด้วยความตื่นตาตกใจ นอกจากอีกฝ่ายไม่เชื่อเรื่องผีสาง ยังประเมินว่าความเชื่อของเธองมงายอีก
"ถ้าผีมันมีจริง ผีมันหลอกไม่เก่งเท่าคนด้วยกันหรอก"
"อันนี้หนูเห็นด้วยค่ะ"
"ไม่ง่วงแล้วหรือ ถึงพูดเจื้อยแจ้วเป็นแม่หนูจำไมเสียขนาดนี้"
"จะว่าไปหนูก็เริ่มง่วงแล้วนิดหน่อยค่ะ" เอิงเอยปิดปากฉับ รู้ตัวขึ้นมาทันที ครั้นเผลอพูดมากไป
คราวนี้ร่างผอมเพรียวเหยียดบิดเอวปพลาง ขณะรู้สึกปวดร้าวร่างกายท่อนล่าง เริ่มแสดงอากัปกิริยาเจ็บจนตัวชา เพราะทิ้งน้ำหนักก้นนั่งกดทับเบาะหนังเป็นเวลานาน
ชายเสื้อยืดสีสดใสผ้าบางเบาตัวโคร่ง ยกลอยขึ้นสูงเหนือกว่าเอวคอด และขอบเอวกางเกงยีนขาสั้นตัวเล็ก ขณะเด็กสาวยกแขนเหยียดตรง ปากอวบยื่นเวลา เธอบ่นงึมงำผะแผ่วคนเดียว พลางไพล่ความถึงตอนโดนแม่ฟาดด้วยอีก เลยระบม เมื่อยล้าหนักเสียขนาดนี้
มีหรือที่ดวงตาคมของพฤกษชาติจะมองไม่เห็นผิวขาวผ่องวับ ๆ แวม ๆ ในระยะสายตาเรียกความสนใจเขาได้เป็นอย่างยิ่ง
พ่อเลี้ยงถึงกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผาก กล้ำกลืนน้ำลายเหนียวข้นลงคอเอื้อกใหญ่ ท่าทีที่เคยขึงขังเสียมาดเล็กน้อย พลางกระแอมไอเก็บทรง
เขาเคยเห็นส่วนเอวของผู้หญิง ทั้งสัมผัสมานักต่อนัก กลับประหม่าเพียงแค่เห็นส่วนตรงส่วนนั้นของเธอเพียงนิดหน่อย
เวรเอ้ย!
"หนูเคยผ่านเส้นทางหลักของไร่นะ แต่ยังไม่เคยเข้าไปข้างในเลย พ่อเคยบอกหนูว่าหนูเคยอยู่ที่ไร่ของพ่อเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ขวบสองขวบ ตอนนั้นพ่อเลี้ยงพฤกษ์คงอายุราว ๆ สิบเจ็ดสิบแปดปีสินะ จากนั้นพ่อแม่ของหนู พวกท่านก็เลือกออกมาสร้างหลักปักฐานข้างนอก เท่าที่หนูจำได้คือถ้างั้นอีกนานเลยกว่าจะถึงไร่ ความง่วงของหนูไม่เกรงใจคุณแล้วนะคะ"
เด็กสาวเปรยบอกเล่าด้วยเสียงใส อมยิ้มจนแก้มตุ่ย เปลือกตาสวยค่อย ๆ ปรือปิดลงเนิบช้า เตรียมนอนพักผ่อน
"อืม" พฤกษชาติคำรามตอบรับอย่างเย็นชา ก่อนจะรีบเบี่ยงสายตาเลี่ยงหนีจากเอวคอดขาวเนียนนั่น...กลัวใจจริง ๆ กลัวตนผิดคำพูด ถูกพระทำโทษ โดนสายฟ้าฟาดตามคำบนบานเอาไว้
เพียงแค่พ่อเลี้ยงพฤกษ์ครางรับสั้น ๆ ตามนิสัยคนพูดน้อย เอิงเอยจึงเข้าสู่ห้วงนิทรา
กระทั่งลมหายใจพ่นรดออกมาสม่ำเสมอ บ่งบอกถึงการหลับลึก ในรถเงียบไร้เสียงเธอ ล้อรถยนต์เคลื่อนตัวมุ่งตรงไปยังไร่อุดมสุขอย่างต่อเนื่อง
ขณะอีกคนตกอยู่ในโลกส่วนตัว ขบคิดอะไรเรื่อยเปื่อย โดยมีเด็กอายุ 19 ปี นอนเอียงหัวส่ายจนแทบจะหลุดจากบ่า คออ่อนปวดเปียก ศีรษะห้อยตกลงมายามรถลีมูซีนพยายามขับเคลื่อนขึ้นบนเนินเขาสูงชัน และตกบ่อหลุมน้อยใหญ่กลางทาง ทุลักทุเลตามท้องถนนสายเลี่ยงออกจากตัวอำเภอ
พฤกษชาติไม่พูดพร่ำหรือปลุกเธอตื่น ถึงแม้ตนจะหงุดหงิดการนอนไม่สะดวกสบายตัวของเธอ ฝ่ามือหยาบอุ่นยื่นมาประคองศีรษะเธอ เอียงแก้มใสลงซบบนลาดไหล่กว้างด้วยความเบามือ ตนใช้พื้นที่ว่างแข็งแกร่งเป็นหมอนรองคอให้เธอ ชั่วคราว