ตอนที่ 5 บังคับ
ตอนที่ 1/5 บังคับ
หลังจากเก็บของ เข็นรถข้าวแกงออกจากตลาดที่ตั้งอยู่กลางอำเภอมาถึงบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ขนาดไม่เล็กแต่มีพื้นที่ไม่กว้างใหญ่มากช่วงสองทุ่ม พ่อเดินแยกเอาชาม จานไปล้างที่ห้องครัวหลังบ้าน ส่วนแม่รีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองข้างบนเสียแล้ว เอิงเอยที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน จึงจะตรงกลับเข้าห้องไปอาบน้ำก่อนลงมาทานข้าวมื้อค่ำ เพราะทั้งวันไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย เธอเอาแต่ยุ่งขายข้าวแกง เนื่องจากวันนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ จนขายหมดเกลี้ยงทุกหม้อ
ทว่าหลังจากถอดรองเท้าไว้ตีนบันไดหน้าประตูบ้าน ไม่ทันไร เธอก็เห็นแม่ถือไม้แขวนเสื้อ เดินตรงอาด ๆ มายังตัวเธอ บัดนั้นเด็กสาวเข้าใจทุกสิ่ง ต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง เพราะนี่ไม่ใช่เพียงครั้งแรก และคงไม่ได้เป็นครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน
"นางเอยแกมานี่...ฉันอดทนกับแกมาทั้งวันแล้ว!" เสียงแวดลั่นของอนงค์ ตะคอกใส่หน้าลูกสาวด้วยความเหลืออด ฟันบดกันแน่นจนแทบแตกหัก มันน่าโมโหนักเมื่อเอิงเอยไม่ยอมเชื่อฟังหล่อน
หากต้องลงมือตีเด็กกลางตลาดชาวบ้านคงมองหล่อนเป็นแม่นิสัยไม่ดี จึงระงับโทสะที่พร้อมจะขาดสะบั้นลงทุกทีครั้นมาถึงบ้าน ไม้แขวนเสื้อถูกง้วงขึ้นด้วยน้ำมือหญิงวัยห้าสิบปลาย ๆ ที่เอิงเอยเรียกว่าแม่ ก่อนจะฟาดลงบนผิวหนัง ตามเรือนกายเธอ ด้วยแรงหนัก ๆ ไม่ยั้ง ระบายห้วงอารมณ์ขุ่นเคืองกับลูกให้สาสม และไม่กล้าขัดคำสั่งหล่อนอีก
"อึก แม่ เอยไม่อยากไป เอยรู้นะว่าแม่พยายามยัดเยียดเอยให้พ่อเลี้ยง!" เธอรู้ถึงไม่ยอมไปทำงาน แถมกำลังท้าทายหล่อนนั่นยิ่งสร้างความเดือดดาลแก่หล่อนไปมากกว่าเก่า
เอิงเอยยืนนิ่งกอดอกร้องไห้สะอื้น ปากอิ่มกัดเม้มเป็นเส้นตรง อดทนอดกลั้นต่อความเจ็บที่แม่เป็นคนทำร้ายเธอเหมือนเคย ไม่ยอมขยับหรือขัดขืน หากตายก็ตีให้ตายเสียตอนนี้ เธอจะได้รู้ว่าที่ผ่านมาแม่รักเธอหรือเปล่า การเสียชีวิตไม่มีวันหวนคืนของเธอ จะเรียกร้องน้ำตา ความรู้สึกผิดจากแม่ได้หรือไม่
"แกกล้าท้าทายฉันอย่างนั้นเหรอนางเอย อีเนรคุณ!" เอิงเอยทนแรงฟาดจากหล่อนไม่ไหว ทรุดฮวบนั่งลงบนพื้นปูนหน้าบ้านด้วยแข้งขาอ่อนแรง อนงค์ลากแขนเธอลุก ทั้งยื้อยุดฉุดกระชากนานา โดยไม่ถนอม "อย่ามาอ่อนแอหน่อยเลย เมื่อกลางวันยังอวดเก่งใส่ฉันอยู่นี่ ลุกขึ้นมา!"
"แม่ เอยเจ็บ ฮึก ฮื่อ!" น้ำตาหลั่งไหลอย่างโศกสร้อยเปื้อนดวงหน้าเกลี้ยงเกลา เบ้าตามีม่านน้ำสีใสคลอขังบดบัง จนมองเห็นเป็นลางสลัว ภาพร่างแม่กำลังกระหน่ำตีเธอระรัว อย่างหนำใจไม่ยอมหยุด ไม่สนใจแม้กระทั่งน้ำเสียงสั่นเครือสะอื้นเจ็บปวด แถมบาดแผลฟกช้ำเกิดขึ้นตามตัว ไม่สามารถเรียกความเห็นใจจากแม่เธอได้เลยสักนิด
"เจ็บแล้วจำบ้างไหม ฉันบอกอะไรก็ต้องทำตาม!"
มือกำลังยกขึ้นสูง พร้อมฟาดลูกอีกครั้งชะงัก เมื่อเสียงเอื้อนเอ่ยจากสามีแทรกขึ้นจากทางข้างหลังหล่อน
"เธอพอเถอะ เดี๋ยวมันช้ำไปกว่านี้ตอนส่งตัวมันไปไร่ พ่อเลี้ยงจะสงสัยเอาได้!" ระหว่างล้างจานอยู่ ชำนาญก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายที่หน้าบ้านดังมาถึงด้านหลังครัว จึงเดินวกออกมาชะโงกดูที่หน้าบานประตู ถึงแม้ชำนาญจะทราบดี ไม่ต้องเดาให้ยาก เพราะกลายเป็นเรื่องเคยชินของบ้านนี้ไปแล้ว
ชำนาญเป็นผู้นำหลักของครอบครัวนั้นจริงอยู่ ทว่าไม่อาจห้ามปรามภรรยาได้เลยอนงค์ไม่ยอมฟังใคร โดยเฉพาะเวลาโมโห แต่ชำนาญก็รักแม่ของลูกคนนี้มาก จึงยอมรับได้กับนิสัยขี้บงการเกินไปของภรรยา และชำนาญไม่ควรออกตัวปกป้องบุตรสาว ไม่เช่นนั้นเอิงเอยจะโดนหนักกว่านี้ ที่เขาเรียกกัน 'ว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ' ชำนาญทำแค่เตือนทางอ้อมเพียงเท่านั้น อนงค์จะเชื่อฟังหรือไม่ก็อีกเรื่อง
อนงค์ข่มตาหลับ ความโกรธย้อนกลับสู่หัวใจ เพียงวูบหนึ่งบัดนั้นหล่อนฉุกคิดได้พอดี จึงเชื่อฟังสามี เปลือกตาของหล่อนค่อย ๆ กระพือเปิด ปลายนิ้วยื่นออกชี้หน้าบุตรสาว ด้วยคำสั่งเข้มงวดแสนเผด็จการ
"โชคดีของแกไปนะ กลับห้องของแกซะ ไปเก็บข้าวของ พรุ่งนี้พ่อเลี้ยงจะมารับ ถ้าไม่ไปก็อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ เก็บข้าวของออกจากบ้านฉันไปเสีย แล้วฉันจะคิดซะว่าแกมันเป็นลูกที่เนรคุณ"
"จ้ะ แม่อยากให้เอยไป เอยก็จะไป" ร่างบอบบางกอดตัวเองทั้งยังร้องไห้ ระคนจนใจ หมดหนทางเลือก ถ้าเหตุผลของการลงไม้ลงมือทำร้ายเธอครั้งนี้ เพราะอยากให้ได้ดี เธอจะยอมเชื่อฟัง ถึงอย่างไรเธอไม่ไปทำงานที่ไร่อุดมสุข เธอก็อาศัยบ้านหลังนี้ไม่ได้อยู่แล้ว เธอโดนตีอีกแน่ และสาหัสสุดคงถูกเฉดหัวออกจากบ้าน จนไม่มีที่ซุกหัวนอน ไร้ญาติพี่น้องให้พึ่งพาอาศัย
"เขาดีกับบ้านเราแค่ไหนแกก็เห็น ยังมีหน้ากล้าปฏิเสธเขาอีกหรือทั้งที่เขาเมตตาแก อยากให้ได้ดี อยู่ดีแค่ไหน อย่าเนรคุณนักสิ รู้จักตอบแทนเขาคืนเสียด้วยถ้าไม่เกินกำลัง!"
"คำก็บุญคุณสองคำก็ทดแทนบุญคุณ ถ้าจะเป็นหนี้บุญคุณใคร ช่วยแบบไม่เต็มใจช่วย เขาไม่ต้องช่วยก็ได้หรอกนะจ๊ะแม่" กล้ำกลื้นความผิดหวังและโทสะคละเคล้าจนแยกไม่ออกที่แล่นจุกอกจนเจ็บลงลำคอ แล้วลุกขึ้นยืนตั้งหลัก ค่อย ๆ ก้าวเดินผ่านกน้าแม่ ขึ้นบ้านไป
คนเป็นแม่ถึงกับมือไม้สั่น หน้าดำคร่ำเคร่งอยากฟาดกำหลาบคนจองหอง ทว่าหากพรุ่งนี้มีรอยขีดข่วนใด ๆ พ่อเลี้ยงเห็นเข้าคงจะสงสัย อนงค์จึงไม่สามารถใส่อารมณ์กับลูกได้อีก