ร่างมังกรสุดเหนือคณานับ

พลังวิญญาณสีเทาปรากฏบนฝ่ามือฉินหลิน

ด้านหน้าของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิดพร้อมกับเตาหลอมเม็ดยา ฉินหลินนำสมุนไพรกว่าครึ่งยัดลงเตาหลอมก่อนจะชักนำพลังงานวิญญาณเข้าสู่เตาหลอม พลังวิญญาณเริ่มทำหน้าที่ตามการควบคุมของฉินหลินคือการชำละล้างสมุนไพรให้ได้คุณภาพมากที่สุดเพื่อดึงศักยภาพที่แท้จริงของมันออกมา

การชำระล้างเป็นเพียงขั้นตอนแรกของการหลอมเม็ดยา พลังวิญญาณของฉินหลินยังคงชำระล้างอย่างต่อเนื่องเหล่าสมุนไพรภายในเตาเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง สมุนไพรเริ่มหลอมละลายจากพืชพันธุ์กลายสภาพเป็นผงเรืองแสง ผงเรืองแสงคือลักษณะที่แท้จริงของสมุนไพร ตัวผงของสมุนไพรแต่ละชนิดจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่คุณสมบัติตามแหล่งกำเนิดเช่น ต้นหญ้าหิมะ เติบโตด้วยการชักนำพลังลมปราณมาเป็นสารอาหาร กำเนิดในแหล่งอากาศหนาวเย็น คุณสมบัติของมันสามารถนำสมุนไพรชนิดนี้ไปเป็นส่วนผสมของเม็ดยาที่ต้องการเพิ่มลมปราณหรือเสริมปราณธาตุความหนาวเย็น

ขั้นตอนแรกผ่านพ้นไปตัวฉินหลินไม่สัมผัสถึงความยากลำบากในการหลอม ถึงแม้พลังวิญญาณของเขาจะยังไม่สมบูรณ์แต่เพียงแค่เม็ดยาระดับรากฐานขั้นสูงมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาฉินหลินเริ่มขั้นตอนสุดท้ายทันทีคือการผสานผงสมุนไพรเข้าด้วยกัน ฉินหลินปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาทั้งหมดก่อนจะชักนำพลังงานทั้งหมดทุ่มลงยังเตาหลอม ขั้นตอนนี้ถือได้ว่ายากที่สุดสำหรับนักหลอมเม็ดยา เป็นขั้นตอนแห่งการผสานสมุนไพรทั้งหมดเข้าด้วยกันจนก่อให้เกิดเป็นเม็ดยา หากล้มเหลวสมุนไพรทั้งหมดจะสูญเปล่าแต่ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือพลังวิญญาณอาจเกิดการบาดเจ็บร้ายแรงจนถึงขั้นทางต้นกำเนิดจิตวิญญาณ การผสานผงสมุนไพรจึงต้องใช้พลังสมาธิอย่างสูง

ฉินหลินชักนำพลังวิญญาณผสานเข้ากับผงสมุนไพร เตาหลอมเกิดการสั่นไหวหวั่นเหมือนจะแตกกระเจิงออกจากกัน พลังวิญญาณยังคงถาโถมเข้าเตาหลอมอย่างไม่สิ้นสุดจนกระทั้งเกิดประกายแสงสีจางบนเตาหลอม นี้ถือเป็นลางดีบ่งบอกถึงการเข้าใกล้จุดจบของการหลอมเม็ดยา ฉินหลินปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมามากกว่าเมื่อครู่ก่อนจะชักนำทั้งหมดเข้าสู่เตาหลอม เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจ ประกายแสงบนเตาหลอมเจือจางลงจนในที่สุดก็มอดดับสลายหาย เตาหลอมที่เคยสั่นไหวอย่างรุนแรงก็เงียบสงบลงเช่นกัน

กลิ่นหอมของสมุนไพรที่หลอมรวมเข้าด้วยกันจนบังเกิดเป็นเม็ดยาชั้นเยี่ยมกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งตัวเรือน ฉินหลินซูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะฉีกยิ้มออกมาด้วยความพึ่งพอใจ

ภายในเตาหลอมมีเม็ดยาสีเทากระจ่างใสราวกับคริสตัลอยู่สามเม็ด เม็ดยาแต่ล่ะเม็ดล้วนอยู่ในระดับความสำเร็จขั้นสูงไร้สิ่งเจือปนใดใดเม็ดยาสวรรค์วิญญาณ เม็ดยาระดับรากฐานขั้นสูง!

ฉินหลินนำเม็ดยาทั้งสามออกจากเจาหลอม จากนั้นนำเม็ดยากลืนลงคอเริ่มทำการรักษาจุดกำเนิดจิตวิญญาณที่บาดเจ็บ พลังวิญญาณเข้าปกคลุมทั่วทั้งร่างฉินหลินอีกครั้งหลังเม็ดยาเข้าไปเริ่มแสดงผลของเม็ดยา พลังงานที่สีเทาเจือจางเข้มข้นขึ้นมากจนถึงขั้นเปลี่ยนจากสีเทาเป็นสีขาวบริสุทธิ์

ฉินหลินเปิดตาขึ้นก่อนจะฉีกยิ้มด้วยความพึ่งพอใจมาอีกครั้ง ในที่สุดจิตวิญญาณของเขาก็สมบูรณ์เสียที เพียงเม็ดยาแค่เม็ดเดียวก็สามารถฟื้นคืนจุดกำเนิดที่เสียหายร้ายแรงให้กลับสู่สภาพสมบูรณ์เต็มที่ เนื่องด้วยหลายๆสาเหตุ สาเหตุแรกคือผลของเม็ดยาที่แสดงออกมาได้เต็มที่และอีกหนึ่งสาเหตุหลักๆเลยคือแหล่งกำเนิดทางจิตวิญญาณของเขายังไม่ทรงพลังมากนักทำให้ง่ายต่อการรักษาหรือฟื้นฟู

ฉินหลินไม่รีรอเขานำเม็ดยาเม็ดที่สองออกมาก่อนจะกลืนลงคอไปเช่นเดิม เมื่อจุดกำเนิดสมบูรณ์แล้วเขาไม่ต้องชักนำผลเม็ดยาไปยังจุดกำเนิดให้สูญเปล่าเพื่อรักษา เขาจึงชักนำเม็ดยาเหล่านั้นไปเพิ่มระดับพลังวิญญาณแทน แหล่งกำเนิดจิตวิญญาณของฉินหลินจากที่เป็นเพียงแอ่งน้ำเล็กเริ่มขยายใหญ่ขึ้น เม็ดยาที่สองผ่านไปเม็ดที่สามก็ตามมา

หลังเม็ดยาทั้งสามถูกกลืนกินลงไปโดยเขา ฉินหลินยังไม่หยุดเพียงเท่านี้เขาต้องการมากกว่านี้ เขากลับรู้สึกตื้นเต้นมากกว่าเก่าเพราะเขากำลังจะหลอมเม็ดยาสำหรับผู้ฝึกลมปราณ เขากำลังจะได้ฝึกลมปราณสิ่งที่ทำให้เขาแปลกแยก ร่างกายเขาจะไม่อ่อนแอ อายุเขาจะยั่งยืน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเขาได้เติมเต็มปรารถนาที่ใฝ่หามาตลอด คือ การเปิดสำนัก!ฉินหลินนำสมุนไพรที่เหลือทั้งหมดมาหลอมเม็ดยาดั่งที่เขาต้องการ การหลอมผ่านไปช่วงเวลาใหญ่เวลาหนึ่ง เม็ดยาที่ฉินหลิงหวังก็ปรากฏเม็ดยาที่แตกต่างกันถึงสามชนิด

ระดับการบ่มเพาะลมปราณสามขั้นแรกถือได้ว่าสำคัญที่สุดเพราะมันจะเป็นรากฐานให้แก่ผู้ฝึกฝนยิ่งมีรากฐานที่แข็งแกร่งและความมั่นคง ภายภาคในอนาคตของคนผู้นั้นในฐานะผู้ฝึกตนก็ยิ่งแข็งแกร่งและมั่งคง

ฉินหลินหยิบเม็ดยาชนิดแรกมาลักษณะของเม็ดยาเป็นสีทอง เม็ดยากายามังกรทองคำ เป็นเม็ดยาที่ไม่สามารถระบุระดับได้เพราะมันเกิดจากทักษะพิเศษ เป็นเม็ดยาที่หายสาบสูญจากยุคโบราณหากผู้ใดกินมันเข้าไปคนผู้นั้นจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งมังกรทองคำ สิ่งมีชีวิตจากยุคแรกกำเนิด

ร่างกายฉินหลินปกคลุมไปด้วยแสงสีทองผิวหนังของเขาเริ่มปริแตกเผยให้เห็นเนื้อสีแดงสดก่อนแผลจะสมานอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของฉินหลินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขากัดฟันแน่นทนต่อความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ

นี้เป็นระดับแรกของขอบเขตแรกขอบเขตแห่งการวางรากฐานของผู้ฝึกตนเรียกว่าระดับหลอมกาย เสริมความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายผู้ฝึกตน หากร่างกายไร้ความแข็งแกร่งแล้วยังดึงดันหวังเลื่อนไปยังระดับต่อไปมีหวังร่างกายระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงเสี่ยงเป็นเพียงกองเนื้อสด

ขั้นต่อไประดับก่อกำเนิด ก่อกำเนิดเส้นลมปราณ เส้นลมปราณที่ค่อยทำหน้าที่ชักนำลมปราณไปยังส่วนต่างของร่างกาย

และรากฐานสำคัญที่สุดสำหรับผู้ฝึกตนระดับสุดท้ายของการวางรากฐานคือระดับหลอมรวม หลอมรวมทุกทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ หลอมรวมเส้นลมปราณผสานเข้ากับร่างกาย หลอมรวมตันเถียนผสานเชื่อมต่อกันและกันกับเส้นลมปราณ หากไร้ซึ่งตันเถียนแหล่งกำเนิดลมปราณ เส้นลมปราณก็จะไร้ค่าทันทีไม่มีสิ่งใดให้ชักนำ

ฉินหลินทนต่อความเจ็บปวดอย่าทุกข์ทรมาน หากเขาสามารถข้ามผ่านขั้นนี้ไปได้ขั้นต่อไปสำหรับเขามันจะไร้ซึ่งความยากลำบากทันที

ผิวหนัง กล้ามเนื้อ ทุกส่วนของร่างกายฉินหลินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง บาดเจ็บแล้วฟื้นฟู ถ้าเป็นผู้อื่นคงไม่พบกับความลำบากเช่นนี้แต่ฉินหลินนั้นแตกต่างไปจากผู้อื่นตรงที่เขาเลือกมันเองโดยการกลืนกินเม็ดยาที่สามารถเปลี่ยนร่างกายมนุษย์ ปถุชนให้เป็นดั่งร่างกายมังกรสุดแข็งแกร่ง ผลที่ออกมาย่อมเหนือกว่าผู้อื่นทั้งหมดทั้งปวง ความเจ็บปวดก็เช่นกันเหนือกว่าผู้อื่นทั้งหมดทั้งปวง

แสงสีทองเข้าปกคลุมร่างกายฉินหลินทะยานขึ้นสู่เบื้องบนแผดเผายังหลังคาตำหนักที่พักอาศัย ฉินหลินหาสนใจไม่เขายังคงกดฟันทนต่อความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ

“แค่นี้เองรึ!...เข้ามา ให้ข้าดูสิว่าร่างมังกรมันเป็นเช่นไร”

ฉินหลินเคยผ่านพ้นความเจ็บปวดมามากกว่านี้ในชีวิตที่แล้ว เพียงความเจ็บปวดเล็กน้อยภายนอกแค่นี้สำหรับเขามันไม่มากเพียงใด เทียบกับเห็นคนที่เรารักตกตายต่อหน้าต่อตานับว่าห่างกันราวฟ้ากับเหว