บท
ตั้งค่า

ยุคสมัยใหม่

หลังผ่านพ้นการกำจัดสิ่งขว้างทางก่อนหน้านี้ในที่สุดฉินหลินก็มาถึงยังตำหนักวิถีสวรรค์ ตัวตำหนักนั้นไม่มีความโดดเด่นอะไรเลยทั้งด้านความงามหรือพลังลี้ลับทุกสิ่งอย่างล้วนดูเหมือนตำหนักปกติ ตำหนักที่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดเก็บข้อมูลของราชวงศ์ฉินตั้งแต่แรกกำเนิดราชวงศ์ข้อมูลบันทึกมากมายมหาศาลรวมไปถึงตำรามากมาย สิ่งเหล่านั้นล้วนมาจากบุคคลอันเป็นที่สุดของราชวงศ์จดบันทึก บุคคลเหล่านั้นล้วนมีเจตจำนงที่หลงเหลือภายในบันทึกที่อยากให้คนรุ่นหลังสืบเสาะ แต่นี้มันเงียบเกินไปมันไม่มีสิ่งพิเศษแต่อย่างใด

‘ผิดแปลก’ นั้นคือความรู้สึกแรกหลังจากฉินหลินได้เห็นตัวตำหนักวิถีสวรรค์มันเงียบเกินไป

“องค์ชายสิบโปรดบอกเหตุ” ชายชราน่าเกรงขาดผู้เฝ้าทางเข้าตำหนักวิถีสวรรค์กล่าวถามวัตถุประสงค์ของฉินหลินด้วยเสียงแข็งกร้าวไม่สนในฐานะขององค์ชายของเขาแม้แต่น้อย สิ่งที่ชายชราทำสำหรับฉินหลินแล้วเขาไม่รู้ขุ่นเคืองแต่อย่างใด เพราะเขาเข้าใจมันดีแถมยังชื่นชมฝนการกระทำของชายชราผู้นี้ เพราะผู้เฝ้าองค์ความรู้จากยุคบรรพกาลของราชวงศ์ควรมีลักษณะเช่นนี้ นายเพียงผู้เดียวของผู้เฝ้าคือองค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฉินเท่านั้น แม้แต่ราชวงศ์เชื้อสายของจักรพรรดิองค์อื่นผู้เฝ้าคนนี้ก็ไม่เห็นพวกเขาเหล่านั้นอยู่ในสายตา

ฉินหลินยื่นป้ายลักษณะพิเศษที่ได้มาจากพ่อบ้านเฉินก่อนหน้าให้แก่ผู้เฝ้าประตู ผู้เฝ้าประตูได้มันมาพร้อมพิจารณาอยู่ช่วงครู่ ก่อนจะเก็บแผ่นป้ายนั้นไว้กับตัวจากนั้นทำการเปิดประตูตำหนักวิถีสวรรค์

“องค์จักรพรรดิทรงอณุญาตให้ท่านองค์ชายสิบอ่านและศึกษาตำราทั้งหมดที่มีภายในตึกหนักวิถีสวรรค์โดยไม่มีกำหนด”

คำกล่าวนี้ทำให้ฉินหลินอึ้งไปพอสมควรอณุญาตทั้งหมดโดยไม่มีกำหนดนี้มันหมายความว่าเขาสามารถอ่านและศึกษามันได้ทั้งหมด มันเกินกว่าที่เขานึกไปไกลมาก ตอนแรกเขานึกว่าจะได้ศึกษาเพียงเล่มสองเล่มแต่นี้ได้มาทั้งหมด

‘จักรพรรดิที่ดี’

ฉินหลินไม่รีรออีกต่อไปเขาก้าวฝีเท้ายาวมุ่งตรงเข้าสู่ตัวตำหนักอย่างรวดเร็ว ความรู้ทั้งหมดอันมหาศาลของราชวงศ์ฉินกำลังรอเขาอยู่จะไม่ให้เขารีบได้อย่างไร ความรู้เกี่ยวกับราชวงศ์มันล้ำค่าหาศึกษาได้ยากยิ่ง กระทั้งตัวเขาเมื่อครั้งชีวิตก่อนหน้าการศึกษาเรื่องราวของราชวงศ์นั้นยากลำบากพอสมควรเพราะลักษณะนิสัยดั่งเดิมของราชวงศ์นั้นมีตวามหยิ่งทะนงที่สูงแม้ราชวงศ์ผู้นั้นจะมีจิตใจที่เผื่อแผ่เพียงใด แต่ถ้ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพวกเขาแล้วล่ะก็มันจะกลายเป็นอีกเรื่องไปเลย

ฉินหลินเดินผ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าไม่ใช่เขาไม่สนใจเพียงแต่เขาแอบผิดหวังเล็กน้อย หนังสือแต่ละเล่มล้วนมีความคล้ายคลึงกันเสียหมดทั้งเนื้อหาและใจความสำคัญในส่วนของการแรกเริ่มก่อตั้งราชวงศ์ จากที่เขาได้เห็นและได้ศึกษามามากพอสมควรฉินหลินสรุปได้ว่า ราชวงศ์แต่ละราชวงศ์นั้นมีสายสัมพันธ์บางอย่างที่คล้ายคลึงกันเพราะอาจเกิดจากลูกหลานตระกูลใดตระกูลหนึ่งของช่วงยุคบรรพกาล แม้ข้อสรุปนี้จะยังไม่ชัดเจนมากนักแต่ตัวฉินหลินค่อนข้างมั่นใจแปดสิบส่วน นั้นเป็นสาเหตุให้ประวัติศาสตร์เรื่องราวของราชวงศ์นั้นมีความสอดคล้องและแตกต่างกันไม่มากนัก

ฉินหลินหมดความสนใจในตัวประวัติศาสตร์ราชวงศ์เขามุ่งขึ้นสู่ชั้นสองของตัวตำหนักชั้นนี้ล้วนจัดเก็บตำราวรยุทธแห่งการต่อสู้ เมื่อฉินหลินมาถึงยังชั้นสองเขาก็ต้องพบกับความแปลกใจทั่วทั้งชั้นนี้ถูกครอบคลุมด้วยเครื่องมือมิติชนิดหนึ่ง อุปกรณ์ชนิดนี้ทำการครอบคลุมทั้งหมดเพื่อตัดขาดชั้นนี้เป็นเอกเทศราวกับชิ้นสองแห่งนี้ไม่มีตัวตนหากไม่ได้เห็นกับตาหรือเป็นคนที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ก็คงไม่รับรู้ว่ามีชั้นนี้อยู่แม้จะพยายามจับสัมผัสมันมากเพียงใดก็ตามก็คงไร้ซึ่งการตอบสนองฉินหลินรู้สาเหตุหลักแล้วว่าเหตุใดอาคารวิถีสวรรค์แห่งนี้ถึงได้เงียบผิดปกตินับว่าตระกูลฉินน่าชื่นชมที่นำอุปกรณ์มิติมาใช้ได้อย่างถูกวิธีและชาญฉลาด อย่างที่บอกก่อนหน้าหากเป็นคนนอกไม่ใช่คนที่ล่วงรู้ว่าตึกแห่งนี้มีชั้นสองอยู่ก็คงไม่รับรู้เพราะมีอุปกรณ์นี้ช่วยอยู่ ซึ่งมันช่วยอย่างมากหากราชวงศ์ฉินถูกบุกโจมตีหรือลอบโจมตีในยามขับขัน เพราะมันจะทำให้ผู้บุกรุกอยากลำบากและสับสนได้หากคิดจะขโมยปล้นชิงของราชวงศ์ฉินแห่งนี้ไป

“เคล็ดทักษะ:นภาสบั้นสวรรค์ เมื่อผู้ใดควบคุมฝึกฝนทักษะนี้สามารถชักนำสายลมทั้งสวรรค์และโลกให้เกื้อกูลสนับสนุนนำมันมาสบั้นได้ทุกสรรพสิ่ง”

“เคล็ดทักษะ:ย่าวก้าวนภาล่อง ผู้ฝึกฝนจะเคลื่อนกายดุจสายลมเงียบและรวดเร็วแม้แต่ยอดยุทธยังไร้การระคายเคือง”

ฉินหลินพลิกตำราไปมากมายเขาหาสนใจไม่ถึงแม้ทักษะเหล่านี้จะมีสักยภาพที่สูงแต่มันยังไม่สูงพอที่จะให้ตัวมหาปราชญ์สนใจ ฉินหลินมั่นใจว่าราชวงศ์ฉินอันยิ่งใหญ่มันคงไม่ได้มีแค่ทักษะระดับสูงธรรมดาแค่นี้เป็นแน่ มันต้องมีสุดยอดทักษะที่สามารถสั่นสะเทือนได้ทั้งโลกวรยุทธ

“ทักษะที่เก็บซ่อนไว้คงน่าสนใจยิ่ง”

ถึงแม้ฉินหลินจะผิดหวังเล็กน้อยแต่ยังคงเปิดตำรามากมายเพื่อดูและศึกษาทักษะที่ตนตกหล่นหรือเห็นว่ามันน่าสนใจเล็กน้อย หากเป็นเช่นนั้นเขาก็พอจะนำทักษะเหล่านั้นมาดัดแปลงแก้ไขให้เขากับตนได้มากที่สุดเท่าที่ตนพึ่งจะทำได้ แต่ถึงแม้เขาจะทำเช่นนั้นทักษะเหล่านั้นก็ยังไม่คู่ควรอยู่ดี เพราะเขามีทักษะที่ทรงพลังอยู่มากมายภายในหัวของเขาแต่ใช่ว่าสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้ได้เลยอย่างหมดห่วง ถ้าคิดเช่นนั้นมีหวังปัญหาจะตามมาอย่างไม่หยุดหย่อนอย่างแน่นอน เพราะตัวเขาใช้ชีวิตในฐานะเจ้าชายแห่งราชวงศ์ฉินไม่ใช่ในฐานะมหาปราชญ์ชีวิตในฐานะมหาปราชญ์ก่อนหน้าผู้ครอบครองทักษะเหล่านั้นถึงกับข้อร้องวิวอนให้ตัวเขานำทักษะเหล่านั้นมาแก้ไขปรับปรุงหรือชี้แนะให้มันดียิ่งขึ้น ไม่ต้องเอ้ยปากขอแม้แต่น้อยทุกวันต่างมีทักษะระดับสูงสุดยอดหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ชีวิตใหม่ครั้งนี้ตัวเขาเป็นเพียงเจ้าชายธรรมดาของราชวงศ์หนึ่ง หากเสนอหน้าไปบอกว่า “ข้าคือมหาปราชญ์ผู้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง” มีหวังหายนะได้มาเยือนตัวเขาอย่างสาหัสเป็นแน่แท้ เพราะการกลับมาเกิดใหม่เช่นนี้มันไม่เคยมีบันทึกหรือเคยเกิดขึ้นมาก่อนแม้แต่ตัวเขาที่เป็นถึงมหาปราชญ์ก็ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่ามีเช่นนี้ด้วย “การเกิดใหม่”

เวลาจากชีวิตที่แล้วกับชีวิตใหม่นี้มันต่างกันถึงเก้าพันปีเรื่องราวมหาปราชญ์ก็คงเป็นเพียงตำนานไปแล้ว แล้วยิ่งกว่านั้นบุคคลที่เคยเป็นเจ้าของทักษะที่เคยมาข้อร้องอ้อนวอนแก้ตัวเขานั้นก็คงต่างตกใจไปสิ้นทั้งหมดแล้ว เจ้าของรุ่นใหม่ที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวคงไม่ยอมเป็นแน่ หากมีคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักมาขโมยทักษะพวกมันใช้โดยไม่ได้รับอณุญาต

บุคคลที่เคยรู้จักของเขาต่างตกตายทั้งสิ้นเหลือเพียงเรื่องราวที่เล่าขานต่อกันมา ส่วนบุคคลที่อายุมากที่สุดตั้งแต่ถูกจดบันทึกมาก็มีอายุเพียงค่าสองพันห้าร้อยกว่าปีเท่านั้นแล้วนี้ผ่านมาแล้วเก้าพันปีคงไม่มีหวังที่ตัวเขาจะได้พบเจอสหายของเขาอีกครั้ง

“ข้าคงต้องปรับเปลี่ยนให้แตกต่างและดียิ่งขึ้น”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel