ปลดขีดจำกัด

“ข้าควรเลือกทักษะใดทักษะหนึ่งที่มันจะไม่นำภัยมาสู่ตัว”

ฉินหลินครุ่นคิดนึกย้อนไปย้อนมาในห้วงความทรงจำอันมากมายหลายหมื่นหลายพันทักษะต่างวิงเวียนรอบไปมาภายในสมองของฉินหลิน

‘ไม่ ไม่อันนี้ไม่ได้ ไม่อันนี้ก็เช่นกัน นี้ก็เหมือนกัน ไม่นี้ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ ไม่...”

ทักษะแล้วทักษะเล่าต่างหมุนเวียนไปมาภายในห้วงความคิดจนมาถึงทักษะหนึ่งที่มีลักษณะเด่นเป็นอย่างยิ่งด้วยตัวตำราสีทองสง่าทั่วทั้งเล่มแถมหน้าปกยังประดับไปด้วยอัญมณีล้ำค่ามากมาย เพียงแค่ตัวตำราไม่นับรวมเนื้อหาภายในก็สามารถนำมันไปขายเงินที่ได้มาก็สามารถใช้ได้ทั้งชีวิตอย่างสุขสบายแล้ว

“นี้แหละ! ข้าเลือกเจ้า”

ฉินหลินเลือกทักษะเล่มนี้ที่ดูเด่นสง่ามันไม่ได้มีดีเพียงแค่ภายนอกเท่านั้นเพราะภายในมันมีค่าเสียยิ่งกว่า แม้จะต่อให้นำมูลค่าทรัพย์สินสมบัติของอาณาจักรหนึ่งมารวมกันมันก็ยังไม่พอที่จะเทียบกับมูลค่าของทักษะเล่มนี้

ทักษะที่สุดยอดเช่นนี้ฉินหลินเลือกที่จะใช้มันปัญหาอันร้ายแรงจะไม่ตามมาอย่างงั้นหรือ ไม่แน่นอนเพราะตัวทักษะนี้ไม่ใช่ทักษะที่ใครก็สามารถเรียนรู้หรือครอบครองมันได้มันเป็นทักษะที่มีความพิเศษสูงและต้องมีผู้เชี้ยวชาญระดับสูงด้วยเช่นกัน“หมื่นมหาธาตุ สุดยอดทักษะจากยุคบรรพกาลเฉกเช่นเดียวกับทักษะหมื่นวิถีผันแปร”

นี้คือหนึ่งในสุดยอดทักษะจากยุคบรรพกาลถือได้ว่าเป็นทักษะที่ดีที่สุดจากยุคสมัยหนึ่ง แม้มันจะด้อยกว่าทักษะหมื่นวิถีพันแปรในเรื่องประสิทธิภาพและความหลากหลายทางด้านเทคนิคแล้วแต่ถ้าด้านความคุ้มค่าแล้วทักษะนี้กินขาด

ทักษะหมื่นมหาธาตุนี้จะทำให้ผู้ครอบครองปลดขีดจำกัดด้านธาตุของตัวบุคคลอย่างไร้ซึ่งกฎเกรณ์และเงื่อนไขขอเพียงได้ครอบครองและเรียนรู้ในทักษะนี้ โดยบุคคลหนึ่งนั้นจะมีขีดจำกัดในเรื่องนี้อยู่ เช่นเมื่อมนุษย์ผู้หนึ่งเกิดขึ้นมาก็จะถูกกำหนดไว้แล้วด้วยเหตุผลหลายอย่างเช่นทางสายเลือดหรือสวรรค์ประทานพร เกิดมาพร้อมความเข้ากันของธาตุไฟ เกิดมาพร้อมกับความเข้ากันของธาตุน้ำ ไม่ว่าจะเป็นธาตุใดชนิดใดหรือกี่ชนิดก็ตามแต่ สิ่งเหล่านี้จะติดตัวไปจนตายไม่สามารถเพิ่มมันหรือลดมันต่อให้ฝึกฝนหรือหาทางปลดขีดจำกัดเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำมันได้ แต่กับทักษะหมื่นมหาธาตุนี้ทำได้ทำลายขีดกำจัดเหล่านั้น

แล้วถ้าคนผู้หนึ่งครอบครองความเข้ากันของธาตุไฟแต่อยากฝึกทักษะหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับธาตุดินล่ะสามารถทำได้หรือไม่ทำได้แน่นอน เพียงแต่ว่าหากเราฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวเนื่องกับธาตุของเราที่เรามีความเข้ากันอยู่มันจะทวีคูณความรุนแรงหรือประสิทธิภาพของทักษะนั้นๆ ให้ดียิ่งขึ้นและแข็งแกร่งไปอีกขั้น

ฉินหลินตัวเขามีความเข้ากันเพียงแค่ธาตุเดียวคือธาตุลม ธาตุลมนี้คือธาตุประจำสายเลือดของราชวงศ์ฉิน สายเลือดของราชวงศ์ย่อมไม่ใช่ธาตุลมธรรมดาสามัญเพราะมันคือธาตุลมตัดมิติ เป็นธาตุลมที่มีธาตุอื่นเกี่ยวข้องมาด้วยเล็กน้อยคือธาตุมิติธาตุที่มีความพิเศษสูงในเรื่องการย้ายที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งหรือไปยังอีกพื้นที่บริเวณอื่นที่อยู่นอกสามัญสำนึกฉินหลินเริ่มลงมือทำการใช้ทักษะหมื่นมหาธาตุเขาปลดปล่อยพลังวิญญาณอันบริสุทธิ์มายังบริเวณฝ่ามือด้านขวา ฉินหลินควบแน่นพลังทั้งหมดมายังตำแหน่งเดียวก่อนจะเริ่มลงมือด้วยการใช้นิ้วมือของตัวเองเป็นที่จดบันทึกลงยังแขนด้านซ้ายของตน จากนั้นฉินหลินเริ่มขีดเขียนไปมาบนแขนตน พลังงานวิญญาณปรากฏเป็นตัวอักษรแปลกประหลาดพิกลบนแขนซ้ายก่อนมันจะซึมหายเข้าไปยังด้านในแขน ฉินหลินยังคงขยับมืออย่างแม่นยำและสงบนิ่งเกี่ยวกับการกระทำของตน การลงมือครั้งนี้เขาได้ใช้สมาธิและพลังสูงเสียยิ่งกว่าตอนปรุงเม็ดยาเสียอีก

สิ่งที่ฉินหลินทำคือการเขียนอักษรรูนหนึ่งในทักษะที่จำเป็นต้องมีพลังแห่งวิญญาณถึงจะสามารถใช้มันได้ อักษรรูนคือหนึ่งในภาษาของชนเผ่าโบราณเผ่าหนึ่งที่ไว้ใช้สำหรับการปลดขีดจำกัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้แก่สิ่งนั้นๆ ฉินหลินตัวเขาก็กำลังทำเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน โดยเขียนคำร่ายของทักษะหมื่นมหาธาตุลงภายในตัวใช้ร่างกายของตนเองเป็นสื่อกลางของทักษะ

การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเพียงแค่โดยทั่วไปแล้วบุคคลที่ทำการฝังอักษรรูนลงร่างกายนั้นจะต้องทนรับกับความเจ็บปวดและความทุกทรมาน ยิ่งอักษรรูนเหล่านั้นทรงพลังมากเท่าไหร่ความเจ็บปวดก็จะยิ่งมากเท่านั้น

แต่กับฉินหลินนั้นแตกต่างเพราะตอนนี้ตัวเขามีร่างกายของมังกรสิ่งมีชีวิตจากยุคแรกเริ่มอยู่มันสบายเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเป็นเพียงของปลอมที่เกิดจากวิชาก็ตามแต่ มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ฉินหลินไม่อาจหลีกเลี่ยงมันได้คือความเหนื่อยล้าในการใช้พลังเพราะตอนนี้อาการมันเริ่มแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจน เหงื่อเริ่มปรากฏบนใบหน้าของฉินหลินเหงื่อจากความเหนื่อยล้าเริ่มมากยิ่งขึ้น พวกมันไหลลงผ่านแก้มไหลลงสู่คางจนหยดลงสู่พื้น พลังวิญญาณของฉินหลินตอนนี้แทบจะเหือดแห้ง แต่ความเร็วในการเขียนอักษรรูนนั้นไม่ตกลงเลยแม้แต่น้อยความเร็วยังคงที่

“บ้าเอ้ย” อาการเริ่มแสดงออกอีกครั้งอย่างรุนแรงฉินหลินรู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ในขณะที่ตัวเขาตาเริ่มจะปิด สมองเริ่มจะหยุดทำงาน นิ้วมือที่ตวัดเขียนไปมาเริ่มจะหยุดนิ่ง กับมีพลังงานสายหนึ่งพวยพุ่งมาจากแห่งอื่นกระทบเข้ากับร่างของฉินหลินพลังงานเหล่านั้นไม่ได้เขามาทำร้ายฉินหลินแต่มันกับเข้ามาช่วยเติมเต็มพลังที่ขาดหายไปของฉินหลิน พลังงานที่เคยเหือดแห้งกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้งด้วยความเร็วอันน่าตื่นตลึง

ฉินหลินอยากจะรู้ว่าเป็นใครกันที่ทำเช่นนี้แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะสนเรื่องนั้นถึงแม้จะสำคัญก็ตามเพราะเขายังต้องลงมือเขียนอักษรรูนต่อไป เวลาผ่านไปเท่าใดฉินหลินไม่รับรู้เพราะเขามัวแต่จดจ่อสนใจทุ่มสมาธิทั้งหมดไปกับการเขียนอักษรที่แขนของเขา มีอยู่หลายช่วงเวลาที่เขาเกือบเป็นลมล้มฟุบเหมือนกับครั้งแรกแต่เขาก็ถูกช่วยอีกหลายครั้งโดยพลังปริศนา

“หมื่นมหาธาตุก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต หมื่นมหาธาตุก่อกำเนิดธรรมชาติ หมื่นมหาธาตุก่อกำเนิดภัยพิบัติ...” ประโยคอักษรูนสุดท้ายของตำราหมื่นมหาธาตุเป็นอันเสร็จสิ้น แขนข้างซ้ายของฉินหลินตอนนี้ปรากฏแสงสีรุ้งลุกสว่างไสวเจิดจร้าเป็นวงกว้างจุดศูนย์กลางของสายหลากสีเหล่านี้มาจากแขนของฉินหลิน มันสว่างมากเสียจนฉินหลินต้องปิดตาหลบ แสงสีอันหลากหลายปรากฏเพียงไม่นานมันก็หายไปแขนที่เคยเรียบเนียนตอนนี้กับมีรอยตัวอักษรรูนที่ดูแตกต่างจากอักษรรูนทั่วไปอยู่บนแขนของฉินหลิน อักษรรูนเหล่านั้นมีตั้งแต่หัวไหล่ยาวจนไปถึงปลายนิ้วมือของเขาเรียกได้ว่าแขนซ้ายทั้งแขนของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยอักษรรูนของทักษะหมื่นมหาธาตุ อักษรรูนเหล่านี้ที่ปรากฏล้วนมีสีทองที่สง่ามันแสดงถึงความพิเศษและอำนาจ

“การฝึกของเราไปอีกระดับการฝึกฝน วิถีแห่งการต่อสู้นี้มันมีอะไรน่าสนใจมากจริงๆ”