บท
ตั้งค่า

พ้นหูพ้นตา

“ตึกวิถีสวรรค์” จากความทรงจำของร่างเก่าฉินหลินได้ทราบว่าสถานที่แห่งนั้นมันคือสถานที่เก็บองค์ความรู้อันมหาศาลของเชื้อสายราชวงศ์ตั้งแต่อดีตกาลเขารู้สึกสนใจบางสิ่งเกี่ยวกับพวกราชวงศ์หากฉินหลินได้ศึกษาข้อมูลเฉพาะที่ถูกต้องจากสถานที่ที่เขากำลังไป เขาอาจหามันเจอและได้สัมผัสมันอย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งนั้นคือทักษะเฉพาะของสายเลือดราชวงศ์

ฉินหลินเมื่อครั้งยังเป็นมหาปราชญ์ตัวเขาเคยเห็นทักษะของรางวงศ์มาบ้าง ทักษะของราชวงศ์จะมีลักษณะเฉพาะของตัวมันเอง ที่พอเวลาเห็นแล้วสามารถบ่งบอกได้เลยถึงความเป็นราชวงศ์ ทักษะราชวงศ์นั้นมีเพียงเชื้อสายของราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถฝึกฝนมันได้ หากผู้อื่นฝึกฝนที่ไม่ใช่เชื้อสายของรางชวงศ์มันก็จะเป็นเพียงทักษะธรรมดาไม่มีสิ่งใดพิเศษ แต่ถ้ามันรวมเข้ากับสายเลือดราชวงศ์พลังของมันจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ฉินหลินค่อนข้างสนใจทักษะของราชวงศ์พอสมควรเพราะทักษะที่เขาเคยเห็นหรือเคยศึกษามาทักษะนี้ค่อนข้างมีความเฉพาะตัวค่อนข้างสูง หากจะเปรียบกับทักษะยุคบรรพกาลทักษะราชวงศ์ก็คงเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมกว่าในด้านบุคคลเฉพาะ เพราะทักษะราชวงศ์คือการเอาทักษะยุคบรรพกาลมาดัดแปลงเพื่อให้เหมาะสมแก่สายเลือดหรือความพิเศษของสายเลือดนั้น หรือจะเรียกได้ว่าการเอาทักษะต่างๆมากมายมาผสมดัดแปลงรวมกันก่อให้เป็นยอดทักษะไปในทิศทางเดียวเฉพาะบุคคล ไม่มีความหลากหลาย แต่ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพระหว่างที่ฉินหลินเดินไปยังตึกวิถีสวรรค์นั้นเขาค่อนข้างตกเป็นเป้าสายตาของเหล่าบ่าวใช้ ซึ่งมันผิดแปลก เพราะเมื่อใดยามที่ร่างเก่าเดินไปไหนภายในเขตวังพวกบ่าวจะไม่กล้าสบตาหรือแม้แต่ยืนให้เห็นอยู่ในสายตาทำได้แต่เพียงคุกเข่าโดยเฉพาะบ่าวที่เป็นผู้หญิง

วันดีคืนดีฉินหลินร่างเก่าบังเกิดความรู้สึกจึงฉุดเหล่าบ่าวที่เป็นหญิงสาวมาขืนใจ แม้บ่าวเหล่านั้นจะมีสามีหรือแม้แต่ลูกแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ทำได้เพียงกัดฟันทนต่อความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญทั้งทางกายและทางใจ แม้จะขอความเป็นธรรมเรื่องก็คงเงียบไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงได้มากสุดก็เพียงเศษเงินเล็กน้อย เป็นเพียงแค่บ่าวมีหรือจะสู้ราชวงศ์ได้

‘พวกเจ้าได้ยินข่าวนี้หรือไม่ว่าพวกตระกูลใหญ่และหล่าขุนนางต่างนำพาหญิงสาวที่มีรูปร่างและหน้าตาที่งดงามเป็นอย่างยิ่งมาเสนอปรนนิบัติให้แก่องค์ชายสิบเพื่อหวังผูกมิตร แต่ผลสรุปที่น่าเหลือเชื่อก็ออกมาได้ว่า...องค์ชายทรงปฏิเสธหญิงสาวที่งดงามเหล่านั้นเสียทุกคน’

‘ไม่น่าเชื่อ!...เกิดเรื่องเช่นนี้ได้เยี่ยงไร’‘ใครจะไปรู้องค์ชายสิบคิดที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นก็เป็นได้’

‘ไม่..ไม่เป็นไปไม่ได้...ข้าว่าระหว่างที่องค์ชายสิบทรงหลับไป 3 วัน 3 คืน มันต้องมีสิ่งใดเป็นแน่มิเช่นนั้นมันคงไม่เป็นเช่นนี้ จากที่ข้าได้ข่าวมาจากเพื่อนข้าที่ทำงานอยู่แถวเขตตำหนักองค์ชายสิบ เพื่อนข้าบอกอีกว่าองค์ชายสิบทรงเริ่มฝึกวรยุทธอย่างจริงจังเป็นเวลานาน ซึ่งเรื่องพรรค์นี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน’

‘อย่าไปคิดให้มากความเลยองค์ชายสิบทรงเปลี่ยนแปลงก็ดีแล้ว หากพวกเราว่ากล่าวนินทาให้องค์ชายสิบได้ยินมีหวังหัวพวกเราหลุดออกจาบ่าเป็นแน่’

“ที่แท้เรื่องก็เป็นเช่นนี้”ฉินหลินได้ข้อสรุปที่ว่าเพราะเหตุใดตัวเขาถึงตกเป็นเป้าสายตาเนื่องด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างกระทันหันของเขา ทั้งเรื่องการปฏิเสธหญิงสาวที่งดงามหรือเรื่องตั้งใจฝึกวรยุทธอย่างจริงจัง

“องค์ชายหม่อมฉันทรงได้ยินมาว่าองค์ชายทรงปฏิเสธเหล่าหญิงสาวที่งดงามราวกับเทพธิดาจริงหรอกรึ เรื่องพรรค์นั้นมันเป็นเรื่องโกหกใช่หรือไม่ ข้าว่ามันไม่จริงกระมั้งเรื่องราวเช่นนั้น แล้วยังเรื่องฝึกวรยุทธแล้วยังการหลอมเม็ดยาอีก ท่านสามารถหลอกพวกบ่าวได้แต่ท่านไม่สามารถหลอกตัวเองได้ มันจะบ้ากันไปแล้ว...จากองค์ชายที่สนเพียงหญิงสาวมาโดยตลอดชีวิตมีหรือเพียงแค่ 3 วันที่หลับไหลจากอาการป่วยจะสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ถึงเพียงนี้”

เสียงกล่าวที่ชวนน่ารำคาญดังขึ้นจากด้านหลังฉินหลิน เป็นชายที่หน้าตาหล่อเหล่าผิวขาวเนียนราวกับสตรี ชายหนุ่มสวมชุดหรูหราในมือโบกผัดสีทองไปมา

“เฮอะ...ที่แท้ก็สุนัขรับใช้ขององค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่งนี้เองก็นึกว่าใคร เรื่ยงที่เจ้าถามข้าไม่จำเป็นต้องตอบ ข้าไม่อยากเสียเวลาเสวนากับสุนัขเช่นเจ้า”

ฉินหลินโต้กลับด้วยคำกล่าวที่รุนแรนหากเป็นร่างเก่าคงทำเพียงหุบปากเงียบไม่กล้าโต้ตอบ เพราะบุคคลที่อยู่ด้านหลังฉินหลิน ณ ตอนนี้คือหนึ่งในผู้อยู่ใต้อำนาจขององค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่ง องค์รัชทายาทที่มีอำนาจมากที่สุด องค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่งมีเหล่าตระกูลขุนนางหรือแม้แต่คนตระกูลใหญ่พร้อมสวามิภักดิ์อยู่ภายใต้อำนาจการปกครองขององค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่ง

ร่างเก่านั้นค่อนข้างที่จะเป็นบุคคลขี้ขลาดต่อเหล่าพี่น้องของตนเองเนื่องด้วยจากการที่ตนเป็นบุตรคนที่สิบบุตรน้องเล็กสุดบวกกับอำนาจขององค์ชายองค์หญิงองค์ต่างๆที่มีมากมาย แล้วตัวเขาตัวคนเดียวไม่มีผู้สนับสนุนอยู่ตัวคนเดียวเพียงลำพัง และยิ่งไปกว่านั้นคือตัวองค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่งทรงชอบกลั่นแกล้งขัดขัดแข้งขัดขาแก่เหล่าพี่น้องโดยเฉพาะตัวฉินหลินเองที่โดนค่อนข้างหนัก

“สุนัขรึ...ฮ่าฮ่า องค์ชายฝีปากของท่านแข็งกล้าขึ้นมาก รอให้องค์รัชทายาทลำดับหนึ่งขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเสียก่อน เมื่อถึงเวลานั้นท่านกับองค์ชายองค์หญิงคนอื่นคงรู้ชะตากรรมสินะว่าเป็นเช่นไร”

ชายหนุ่มขุนนางทำได้เพียงแค่กล่าวออกมาอย่างเก็บอารมณ์แห่งความโกรธของตนที่ถูกต่อว่าโดยองค์ชายน่าสมเพชเช่นองค์ชายสิบ ตัวมันไม่สามารถปลดปล่อยอารมณ์หรือการกระทำที่แท้จริงออกมาได้ หากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์มีหวังมันฉีกกระชากเป็นชิ้นๆไปแล้วแต่นี้เป็นถึงองค์ชายผู้มีเชื้อสายราชวงศ์หากมีใครทรงไปแจ้งองค์จักรพรรดิให้ทราบว่ามีบุคคลทำร้ายองค์ชายมีหวังถูกประหารทั้งตระกูลไม่เว้นแต่ตระกูลขุนนางที่เป็นลองตระกูลราชวงศ์ ยิ่งแล้วใหญ่ถ้าเหล่าองค์ชายองค์หญิงอยู่ต่อหน้าองค์จักรพรรดิแล้วเหล่าขุนนางคนใดคนหนึ่ง กล่าวต่อว่าหรือเหน็บแนมนินทาลับหลังองค์ชายองค์หญิงคนใดคนหนึ่งขึ้นมาให้องค์จักรพรรดิทรงได้ยิน โดนตัดหัวสถานเดียว

“สุนัขก็ยังคงเป็นสุนัข”

ฉินหลินควบแน่นพลังวิญญาณอันแข็งกล้าสีขาวบริสุทธิของตนไว้ที่ฝ่ามือก่อนจะสบัดมันไปยังทิศทางของชายหนุ่มขุนนางอย่างไร้ซึ่งความปราณี ก่อให้เกิดฝ่ามือขนาดใหญ่ที่เกิดจากพลังวิญญาณท่ามกลางอากาศที่ว่างเปล่า ฝ่ามือนั้นซัดเข้ายังใบหน้าชายหนุ่มขุนนาง พลังวิญญาณที่เด่นในด้านการสนับสนุนก็ใช่ว่าจะไม่สามารถใช้เป็นอาวุธได้เพราะสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้ใช้ทั้งหมดทั้งมวล

ชายหนุ่มขุนนางไม่แม้แต่จะมีโอกาศหลบถึงตัวมันจะเป็นยอดจอมยุทธด้านลมปราณแต่เมื่อเจอพลังวิญญาณที่แข็งกล้ามันไร้ซึ่งทางป้องกัน ฝ่ามือที่อัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณซัดเข้าเต็มใบหน้าของมันก่อนตัวมันจะปลิวกระเด็นไปไกล หายไปจากสายตาของฉินหลิน

“ความสงบคือที่สุด”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel