บทที่ 4 ทุกอย่างต้องเป็นของบุตรสาวข้า
บทที่ 4 ทุกอย่างต้องเป็นของบุตรสาวข้า
หลังจากที่นางเข้ามาอยู่ที่เรือนของใต้เท้าโจนางก็มีอำนาจอยู่ในมือ การเป็นฮูหยินใหญ่ที่นางปรารถนามาโดยตลอดตอนนี้นางได้ครอบครองมันแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดเหมยอิงในอายุครบ15 ปี นางได้จัดงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่ หนิงเอ๋อเองก็ดีใจที่นางมีน้องสาวในตอนแรกเหมยอิงก็แสนดีกับนางมาตลอดจนกระทั่งนางได้เห็นปิ่นปักผมที่แสนสวยของมารดาของหนิงฮวาที่ให้มาดูต่างหน้า การที่นางแสร้งทำดีด้วยนั้นเพราะหวังให้หนิงฮวาตายใจ นางจำได้ตั้งแต่ยังเด็กนางเคยเจอท่านพ่อที่ตลาดพร้อมกับเด็กหญิงที่ถูกท่านพ่อรักและตามใจต่างจากตนเองที่ไม่เคยแม้แต่มาเหลียวแล นางจะทำทุกทางเพื่อแย่งความรักกลับคืนมา นางจึงไปบอกมารดาของนาง เมื่อซินหยางได้รู้ว่าเหมยอิงอยากได้ นางจึงได้ไปหาหนิงฮวาที่ห้องของนาง
“ข้าขอเข้าไปได้หรือไม่” หนิงฮวาที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่ก็ได้ลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องให้แก่ซินหยาง เมื่อนางเข้ามาด้านในก็กวาดตามองสิ่งของในห้องหนิงฮวา และนั่งลงในห้องของนาง หนิงฮวาก็นั่งลงต่อนางและถามว่าซินหยางมาทำอะไรที่นี่
“ท่านแม่มาหาข้ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ”
“วันนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงให้เหมยอิงนางอายุครบ15ปี นางได้บอกข้าว่านางต้องการปิ่นปักผมของเจ้าเป็นของขวัญวันเกิดเจ้าให้นางได้หรือไม่” หนิงฮวาเองนางก็มิใช่คนหวงของนางจึงยินยอมที่จะให้ปิ่นปักผมหากเหมยอิงต้องการ
“ข้าให้เหมยอิงได้เสมอ ไม่ทราบว่านางได้บอกท่านแม่หรือไม่เจ้าคะว่าต้องการปิ่นปักผมอันใด” หนิงฮวาหันหลังไปคว้ากล่องเก็บปิ่นปักผมมาเปิดให้ซินหยางดู ซินหยางเองก็ไล่ดูจนหมดก็ยังไม่เห็นอันที่เหมยอิงต้องการ
“เจ้ามีอีกหรือไม่ เท่าที่ข้าดูยังไม่เห็นอันที่เหมยอิงต้องการสักอัน” หนิงฮวานางมีเพียงกล่องเดียว นางเองครุ้นคิดก็ได้นึกออกมานางยังมีอยู่อีกกล่องแต่ทว่ากล่องนั้นเป็นปิ่นหยกที่ท่านแม่ของนางได้มอบให้ไว้ดูต่างหน้าเป็นสิ่งของชิ้นเดียวท่านแม่ของนางได้มอบให้
“หากท่านแม่หมายถึงปิ่นหยกล่ะก็ข้าคงมอบให้แก่เหมยอิงมิได้เจ้าค่ะ ปิ่นหยกอันนั้นท่านแม่ของข้าได้มอบให้ก่อนที่ท่านจะจากข้าไป ท่านแม่โปรดเลือกปิ่นในกล่องนี่หรือนำไปมอบให้แก่เหมยอิงจนหมดนี่ก็ได้เจ้าค่ะ” หนิงฮวายื่นกล่องนั้นกลับไปให้อีกรอบ แต่ทว่าถูกซินหยางดันกลับมาพร้อมตวาดเสียงใส่นาง
“เหมยอิงเอ่ยว่าต้องการสิ่งใดนางจะต้องได้สิ่งนั้น นี่เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรืออย่างไร ไม่ว่าจะเป็นของเจ้าหรือของแม่เจ้าก็เอามาให้นางบัดเดี๋ยวนี้”
“ข้าให้ไม่ได้เจ้าค่ะ ท่านแม่โปรดเห็นใจ”
หนิงฮวาก้มหัวลงกับพื้น
“ข้าบอกให้นำมาให้ข้า นี่มีผู้ใดอยู่ข้างนอกเข้ามาในห้องนี่เดี๋ยวนี้” ซินหยางได้สั่งสาวใช้ที่อยู่ด้านนอกเข้ามาในห้องของหนิงฮวาเมื่อนางเข้ามาแล้ว ซินหยางก็พยักหน้าบอกแก่สาวใช้เพราะนางเป็นคนของซินหยางนางเตรียมวางแผนไว้แล้วหากหนิงฮวาไม่ยอมอย่างไรนางก็จะเอามาให้จงได้
สาวใช้ได้เดินหาปิ่นปักผมอีกกล่องของหนิงฮวามาให้กับซินหยาง หนิงฮวาเองที่ทำอันใดไม่ได้ทำได้เพียงนั่งมองอย่างเศร้าใจพร้อมขอร้องให้นางหยุดหา
“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าขอเถอะนะเจ้าค่ะปิ่นอันนี้มันมีค่าสำหรับข้า ท่านต้องการสิ่งใดข้าให้ท่านได้แต่ของสิ่งนี้ข้ามิอาจจะให้ท่านได้” หนิงฮวาขยับกายเข้าไปหาซินหยางและจับไปที่แขนของเขาเพื่อขอสิ่งของของตนเองคืน แต่ทว่ากลับถูกนางปัดและบีบใบหน้าของเธออย่างแรง
“ไม่ว่าสิ่งของจะสำคัญกับเจ้าอย่างไร หากเหมยอิงต้องการข้าจะเอาของเจ้าไปให้นาง จำใส่ใจของเจ้าไว้ด้วยหากเจ้ากล้าขัดใจเหมยอิงล่ะก็ข้าจะจัดการกับเจ้า เจ้าคิดหรือว่าท่านพ่อของเจ้าจะช่วยเจ้าได้ “นางสะบัดข้อมือตนเองทำให้ใบหน้าของหนิงฮวาไปอีกทางด้วยความแรงจนนางล้มลงกับพื้น ซินหยางเมื่อได้สิ่งที่ต้องการนางก็ได้ก้าวเท้าออกจากห้องไปโดยไม่สนเลยว่าหนิงฮวาจะรู้สึกอย่างไร หนิงฮวาร้องไห้ออกมาอย่างคับแค้นใจแค่ของต่างหน้ามารดานางยังเก็บรักษาไว้ได้เช่นนี้ชีวิตของนางจะเป็นเช่นไรต่อไป พี่เลี้ยงข้างกายนางที่กลับมาจากการทำงานก็ได้เข้ามาพบคุณหนูของตนนอนร้องไห้อยู่ที่พื้นนางรีบเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วงทันที
“คุณหนูเกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ้าค่ะ” หนิงฮวาเงยหน้าขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเปลือกตาของนางบัดนี้บวมแดงไปหมด
“ท่านแม่ ท่านแม่ช่างใจร้ายกับข้าเหลือเกิน นางมาเอาปิ่นที่ท่านแม่ของข้าไปให้แก่เหมยอิง “เสียงสะอื้นไห้ที่เค้นออกมาจากปากของหนิงฮวาทำให้พี่เลี้ยงของนางรู้สึกโมโหจึงจะลุกเอาความไปแจ้งแก่ท่านใต้เท้า ครั้งแล้วครั้งเล่าที่คุณหนูของนางยอมให้ แต่ซินหยางเองก็ไม่เคยเห็นใจ ไหนจะเหมยอิงที่เอาแต่ใจตนเองไม่ว่าหนิงฮวามีสิ่งใดนางก็ต้องการสิ่งของหนิงฮวาไปหมดเสียทุกอย่าง
“ข้าจะไปแจ้งท่านใต้เท้า คุณหนูต้องได้รับความเป็นธรรม ฮูหยินมาทำเช่นนี้กับคุณหนูมันจะมากเกินไปแล้ว “นางลุกขึ้นกำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องแต่ก็ถูกหนิงฮวาจับมือเอาไว้ก่อน
“อย่าเลย อย่านำเรื่องนี้ไปบอกท่านพ่อข้าไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น วันนี้เป็นวันเกิดของเหมยอิงอีกด้วย”
“คุณหนูท่านอย่าใจดีกับคนเช่นนางเลยเจ้าค่ะ ความใจดีของคุณหนูจะกลับมาทำร้ายคุณหนูในสักวัน”
“ข้าไม่เป็นไร ท่านแม่เองก็คงเข้าใจหากของสิ่งนั้นเป็นของข้าอย่างไรสักวันมันก็ต้องกลับมาเป็นของข้า เดี๋ยวสักวันเหมยอิงนางก็คงเบื่อ” หนิงฮวาได้ปาดน้ำตาฉู่ฉู่นางจึงอ่อนใจและนั่งลงจับใบหน้าของหนิงฮวาดูขอบตาที่บวมแดง
“ดูสิเจ้าค่ะ ดวงตาที่แสนงามของคุณหนูตอนนี้บวมแดงไปหมด “หนิงฮวายื่นหน้ามาให้ฉู่ฉู่ได้ดู
เมื่อถึงเวลางานเลี้ยงผู้คนชาวบ้านต่างมาที่งานอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นใต้เท้าที่สนิทกับใต้เท้าโจเองก็ถูกเชิญมางานเลี้ยงในวันนี้ด้วย เหมยอิงเองก็แต่งตัวมาที่งานอย่างสวยงามราวกับเทพธิดา เสื้อผ้าที่ตัดเย็บมาใช้ในงานนี้โดยเฉพาะ ส่วนหนิงฮวาตั้งแต่ท่านพ่อพาซินหยางเข้ามาอยู่ที่เรือนนางก็ไม่เคยได้ตัดชุดใหม่เลยสักครั้ง นางยืนมองดูผู้คนที่เข้ามาในงานอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนเหมยอิงกับซินหยางก็ยิ้มอย่างมีความสุขล้นใจที่เห็นคนที่มีหน้ามีตามาในงานวันนี้ และอีกหนึ่งอย่างที่ซินหยางหวังคือ นางจะหาคู่ให้แก่บุตรสาวของตน ใต้เท้าหลายท่านต่างพาบุตรของตนมาร่วมแสดงความยินดีในงานในครั้งนี้ด้วย
หนิงฮวาเองก็หวังว่าพี่ห่าวหรานจะมาที่งานในวันนี้ด้วย ห่าวหรานเป็นบุตรชายของใต้เท้าที่สนิทกับท่านพ่อ ทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ นางได้แอบชอบห่าวหรานมาตลอดห่าวหรานเองก็เช่นกัน จนท่านพ่อของทั้งสองคนได้พูดคุยกันเรื่องแต่งงานของทั้งสอง หากหนิงฮวามีอายุครบสิบแปดปีเมื่อไหรจะให้นางออกเรือนไปกับห่าวหราน นี่ก็เหลือเวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น
ห่าวหรานที่มีอายุมากกว่าหนิงฮวาอยู่สองปีตอนนี้เขาเองกำลังจะได้รับตำแหน่งผู้ตรวจการ
ไม่นานนักสายตาของหนิงฮวาก็จับจ้องไปที่ประตู และแล้วผู้ที่นางเฝ้าคอยก็เดินเข้ามาพร้อมท่านพ่อของเขา ร่างกายที่เปลี่ยนไปของเขาเริ่มบึกบึนและแข็งแกร่งจากเด็กตัวเล็กๆ ที่เคยวิ่งเล่นกับนางบัดนี้ได้เติบใหญ่ไหล่กว้างแขนกำยำแถมห่าวหรานยังมีใบหน้าที่หล่อเหลาเมื่อเดินเข้ามาในเรือนของหนิงฮวาผู้คนต่างจับจ้องไปที่เขา คุณหนูแต่ละเรือนที่เข้าร่วมงานนี่ก็พากันจับจ้องไปที่เขา แต่สตรีที่เขาหวนคำนึงหามีเพียงหนิงฮวาผู้เดียว ใต้เท้าโจได้ต้อนรับเป็นอย่างดีและแสดงความยินดีที่ห่าวหรานจะได้รับตำแหน่งเร็วๆ ห่าวหรานเมื่อพบกับหนิงฮวาจึงออกปลีกตัวออกมา