บทย่อ
"ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาทำร้ายข้าได้อีกร้ายมาข้าก็จะร้ายกลับ เตรียมรับมือจากข้าได้เลย" หนิงฮวาบุตรสาวคนโตของใต้เท้าโจต้องมาเสียมารดาของตนโดยโรคร้าย เพียงไม่นานท่านพ่อก็ได้พาเมียอีกคนเข้ามาในเรือนแถมยังมีน้องต่างมารดาอีกด้วย แต่นางก็ไม่ได้ต่อว่านางยินดีด้วยซ้ำที่จะมีน้อง แต่แล้วความสุขความสงบก็ได้จบลงเมื่อทั้งสองเข้ามาอยู่ในเรือนแห่งนี้ทั้งสองต่างทำกับหนิงฮวาราวกับสาวใช้ และต้องการแย่งคนรักของนางไปจนกระทั่งทั้งคู่วางแผนกำจัดนางเมื่อพิธีงานจะเริ่มขึ้นอีกเพียงไม่กี่ชั่วยาม ทำให้หนิงฮวาต้องมาตายก่อนที่จะได้เข้าร่วมพิธีแต่งงาน แต่แล้วเหมือนฟ้าจะรู้ดีถึงความไร้ยุติธรรมในครั้งนี้ทำให้นางได้ย้อนกลับมาแก้ไขอดีต ครั้งนี้นางจะไม่ยอมอ่อนแอให้ผู้ใดมาทำร้ายนางได้อีกและจะไม่ให้ผู้ใดมาแย่งคนรักของนางไป
บทที่ 1 ชีวิตที่แสนอาภัพ
บทที่ 1 ชีวิตที่แสนอาภัพ
ณ.แคว้นจวินเยว์
หมู่บ้านเฉี่ยวอิงมีบ้านของใต้เท้าโจที่ร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้าน ใต้เท้าโจมีจิตใจดีมีเมตตาเป็นที่กล่าวขานของชาวบ้านที่อยู่ระแวกนั้น เขามีฮูหยินที่แสนดีเคียงข้างแต่แล้วจู่ๆ นางก็ได้มาจากไปด้วยโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาหายขาด แต่ยังคงทิ้งตัวแทนให้ใต้เท้าโจไว้ดูต่างหน้าคือบุตรสาวที่แสนสวยของเขา หนิงฮวาบุตรสาวของใต้เท้าโจที่กำพร้ามารดาเพียงไม่กี่ฤดูผ่านไปท่านพ่อของนางก็พาภรรยาอีกคนเข้ามาอยู่ที่จวนพร้อมกับลูกสาวของนางที่อายุไล่เลี่ยกันกับนางอีกด้วย แต่นางก็ไม่รู้สึกเสียใจที่ท่านพ่อทำเช่นนี้นางดีใจด้วยซ้ำที่นางจะมีน้องสาวที่น่ารักนามว่าเหมยอิง แรกๆ ทั้งสองแม่ลูกก็ดูเหมือนจะรักและเอ็นดูหนิงฮวาดั่งลูกและพี่สาวแท้ๆ แต่นานวันเข้ากลับเผยท่าแท้ออกมา แม่เลี้ยงของนางทั้งกลั่นแกล้งและใช้นางสารพัดแต่นางก็ไม่ได้เอ่ยปากบอกเรื่องนี้กับท่านพ่อเลย เพราะนางกลัวว่าจะไม่มีใครรักนาง เมื่อท่านพ่อกลับจากวังหลวงก็มักจะซื้อของกำนัลมาฝากลูกๆ แต่ทว่าทุกครั้งเมื่อลับสายตาท่านพ่อเหมยอิงมักจะมาเอาของที่ท่านพ่อซื้อให้หนิงฮวาไปทุกครั้ง แถมยังให้นางไปนั่งกินข้าวกับพวกสาวใช้ในครัว จนพี่เลี้ยงที่เลี้ยงหนิงฮวามาตั้งแต่เด็กทนไม่ไหวจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องใต้เท้าโจ แต่ก็ไม่ทันได้ฟ้องก็ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายนำตัวไปตบตีและโบยจนนางสลบไป หนิงฮวารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกอดพี่เลี้ยงของตนร้องไห้ออกมา
"ท่านอย่าทำแบบนี้อีกเลย ข้าทนได้ต่อให้ท่านแม่โหดร้ายเพียงใดท่านก็ไม่ต้องต่อว่านาง"
"โธ่คุณหนู จะให้ข้าทนเห็นคุณหนูทำงานหนักอย่างนี้ได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ใต้เท้าเองก็เช่นกันทำไมถึงไม่ห่วงคุณหนูบ้าง"
"ท่านพ่อไม่รู้ดีแล้ว ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อไม่สบายใจท่านเองก็นอนพักเถอะนะ ข้าต้องไปทำอาหารให้เหมยอิงอีก" น้ำเสียงที่แสนเศร้าเปล่งออกมาจากปากของคุณหนูที่น่าสงสาร
"เวรกรรมอะไรของคุณหนูข้ากันนะ เป็นถึงลูกของท่านใต้เท้ายังต้องมาทำอาหารให้กับคนใจร้ายเช่นนั้น ทั้งๆ ที่ข้ารับใช้ก็มีมากมาย"
"ข้าเต็มใจทำ ท่านนอนพักเถอะนะ" หนิงฮวาออกจากห้องของพี่เลี้ยงตนไปทำอาหารให้กับเหมยอิง เมื่อทำอาหารเสร็จแล้วนางก็ยกสำรับไปส่งถึงที่ห้องแต่ก็ต้องถูกหยามน้ำใจ เมื่ออาหารไม่ถูกปากนาง
"นี่ท่านทำอาหารมาให้ข้า หรืออาหารหมากันแน่นี่ท่านประชดข้าใช่หรือไม่" สีหน้ามองเหยียดหยามอาหารที่หนิงฮวาตั้งใจทำมาให้สุดฝีมือ
"เจ้าลองชิมอีกสักนิดสิเหมยอิงพี่ตั้งใจทำมาให้เจ้าเลยสุดฝีมือเหตุใดเจ้าถึงว่าอาหารของพี่เช่นนี้" หนิงฮวาจับตะเกียบคีบเนื้อยื่นใส่ปากเพื่อให้เหมยอิงชิมมันอีกรอบ แต่ก็ถูกนางปัดมือออกทำให้เนื้อชิ้นนั้นหล่นลงพื้น
"ก็ดูหน้าตาอาหารสิเจ้าคะ ผู้ใดจะกินลงไปทำมาให้ข้าใหม่ไม่งั้นข้าจะฟ้องท่านแม่" นางพูดใช้มือเขี่ยจานอาหารของหนิงฮวาออกห่างจากตนเอง แต่ไม่ทันที่หนิงฮวาจะพูดอันต่อใดฮูหยินหรือแม่เลี้ยงของนางก็เดินเข้ามา
ใบหน้าที่เหมือนจะใจดีแต่จิตใจของนางเหี้ยมโหดยิ่งกว่านางมาร แต่หนิงฮวาก็ไม่เคยคิดที่จะกล้าหือกับนางแม้แต่น้อย
"นี่มันเรื่องอันใดกัน"
"ท่านแม่ข้าแค่ต้องการกินอะไรอร่อยๆ แต่ท่านพี่ดันทำออกมาไม่ถูกใจข้า ข้าเลยต่อว่านางให้ไปทำให้ใหม่" เหมยอิงรีบเดินเข้าไปออดอ้อนท่านแม่ของนางทันที
"หนิงฮวาเจ้าได้ยินหรือไม่ว่าน้องของเจ้าต้องการอาหารใหม่ ไปทำมาเดี๋ยวนี้วันนี้ข้าอารมณ์ดีอย่ามาทำให้ข้าอารมณ์เสีย"
"ได้เจ้าค่ะ ท่านแม่" หนิงฮวายกถ้วยอาหารที่เหมยอิงต่อว่า ว่าเป็นอาหารหมาใส่สำรับเดินกลับเข้าไปที่ห้องครัวอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำใสๆ เริ่มไหลรินออกมาจากนัยต์ตาทั้งสองข้างอย่างกลั่นไว้ไม่อยู่ สาวใช้ในครัวก็สงสารคุณหนูจับใจ ตั้งแต่ฮูหยินใหญ่ผู้นี้เข้ามาอยู่ที่นี่คุณหนูก็ไม่เคยมียิ้มที่สดใสอีกเลย ทุกคนจึงเข้ามาปลอบนางและช่วยนางทำอาหารไปใหม่ ถึงจะมีผู้สงสารแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องใต้เท้าเพราะพวกนางเหล่านี้ต่างเห็นอำนาจและความโหดร้ายของฮูหยิน ทุกคนต่างรักตัวกลัวตายกันทั้งสิ้น จึงทำได้เพียงปลอบโยนคุณหนูอยู่ข้างๆ เท่านั้น
"คุณหนูเดี๋ยวข้าช่วยทำนะเจ้าคะ" หนิงฮวาปาดน้ำตาพร้อมยิ้มให้กับสาวใช้และทำอาหารที่เหมยอิงต้องการ
"ขอบใจเจ้ามากนะ" ตอนที่ท่านพ่อของนางพาเหมยอิงเข้ามาอยู่ที่เรือนแห่งนี้นางมีอายุเพียง10ปีเท่านั้นวันแรกที่นางเห็นเด็กหญิงตัวเล็กที่มีอายุห่างจากนางประมาณสองปีส่งยิ้มหวานให้นาง นางก็เอ็นดูเป็นอย่างมาก เวลานางต้องการอะไรก็หามาให้ไม่คิดเลยว่าวันเวลาผ่านไปนาง จะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้
ฮูหยินหรือแม่เลี้ยงของนางเป็นสตรีงามที่อยู่อีกหมู่บ้านใกล้ๆ ท่านพ่อได้แอบเก็บซ่อนนางมาตลอดเพราะไม่อยากทำให้ท่านแม่ของหนิงฮวาเสียใจที่เขาได้แบ่งความรักให้สตรีอื่น เมื่อสิ้นท่านแม่ของหนิงฮวานางจึงได้ออกมาเผยให้ผู้คนเห็นว่านางนั้นเป็นฮูหยินคนใหม่ของเรือนแห่งนี้ นางมีนามว่าซินหยาง เป็นเพียงบุตรสาวของชาวบ้านธรรมดา แต่ว่าใบหน้าของนางช่างงดงามต่างเป็นที่เลืองลือในหมู่บุรุษแต่นางก็หามีใจให้ชายใดเพราะความยากจน นางจึงมองหาแต่บุรุษที่ทำให้นางสุขสบาย