บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

หลังจากผลผลิตที่วางอยู่ตรงหน้าหายไป ก็มีแสงโฮโลแกรมฉายรายการสิ่งที่เขาเพิ่งนำมาสะสมไว้ขึ้นมาเป็นหน้าจอใสๆ แทนที่ของที่หายไป

ภารกิจ : ปลดล็อคสินค้าโซนอุปกรณ์การเกษตร

มันฝรั่ง_________20/30 หัว

แครอท_________20/30 หัว

กระหล่ำปลี______00/30 หัว

ผักกาดขาว_____00/30 หัว

“โปรดตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลด้วยค่ะ” ฟ้าถามยืนยันอีกครั้ง

“ครับ ถูกต้องครับ” ภามกล่าวยืนยัน

หลังจากจัดการเรื่องการสะสมของสำหรับการปลดล็อคโซนขายสินค้าเรียบร้อยแล้ว ฟ้าก็นำมือมาวางเหนือซองเมล็ดพันธุ์อีกครั้ง ในครั้งนี้ซองเมล็ดพันธุ์ไม่ได้หายไป แต่ยังคงมีจอภาพแสดงรายการสินค้าพร้อมราคาปรากฏขึ้นมาตรงหน้าอยู่เช่นเดิม

เมล็ดมันฝรั่ง 100 เมล็ด ราคา 200 เหรียญทองแดง

เมล็ดแครอท 100 เมล็ด ราคา 200 เหรียญทองแดง

เมล็ดกระหล่ำปลี100 เมล็ด ราคา 200 เหรียญทองแดง

เมล็ดผักกาดขาว 100 เมล็ด ราคา 200 เหรียญทองแดง

รวมทั้งสิ้น 800 เหรียญทองแดง

“สินค้าทั้งหมดราคา 800 เหรียญทองแดง หรือ 8 เหรียญเงินค่ะ” ฟ้าแจ้งราคาสินค้าตรงหน้าซ้ำอีกครั้ง

“ครับ” ภามตอบรับ ก่อนจะหยิบถุงใส่เหรียญออกมาจากกระเป๋ากางเกง หยิบเงิน 8 เหรียญเงิน ยื่นให้กับฟ้า ซึ่งเธอยื่นมือมาวางบนเหรียญ ก่อนที่เหรียญจะหายวับไปเหมือนเดิม

ภามหยิบซองเมล็ดพันธุ์ และหัวไชเท้าที่ไม่ได้ใช้ในครั้งนี้ขึ้นมาถือไว้ในมือ จากนั้นบอกลาฟ้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปทางประตู ในระหว่างนั้น ภามนึกถึงจำนวนเงินที่เหลืออยู่ในถุงใส่เหรียญของตัวเองเมื่อครู่ ก็รู้สึกว่าเขาควรจะต้องนั่งจัดการเรื่องรายรับรายจ่ายให้ดีหน่อยแล้ว

ทันทีที่ภามก้าวออกจากห้องกลับมาสู่ตัวบ้าน แสงสว่างจ้าก็ดับพร้อมกับประตูที่ถูกปิดลง

ภามนำหัวไชเท้าไปวางรวมไว้ในตะกร้าผัก ในตอนนี้เขาเหลือมันฝรั่งอยู่ 3 หัว จากที่ขุดมาเมื่อวานแล้วนำไปใช้ทำอาหารไม่หมด แครอท 7 หัว และหัวไช้เท้า 25 หัว จากที่ขุดมาในวันนี้

ก่อนที่จะได้ผลผลิตจากเมล็ดล็อตใหม่นี้ คงต้องกินส่วนที่เหลือนี้ไปพลางๆ ก่อน ยังดีที่เขาสามารถไปจับปลาที่ธารน้ำหลังบ้านมาเพิ่มได้ ไม่อย่างนั้นคงกินแต่ผักจนเบื่อแย่

“เอ๊ะ ไม่สิ วันนี้เราจะเข้าไปในเมืองนี่นา คงต้องไปเดินดูหน่อยแล้วว่ามีอะไรน่าสนใจซื้อกลับมาตุนไว้ได้บ้าง” ภามพูดขึ้นมาคนเดียวอย่างดีใจ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอาจจะไม่ต้องทนกินแต่ผัก เพราะในเมืองคงจะมีของต่างๆ ขายอยู่มากมาย

ภามหยิบซองใส่เมล็ดและเดินออกไปหน้าบ้าน เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ว่าจะปลูกเมล็ดเหล่านี้ไว้ ก่อนที่จะเดินทางเอาของเข้าไปขายในตัวเมือง

เนื่องจากภามไม่แน่ใจนัก ว่าการเข้าเมืองครั้งแรกของเขาครั้งนี้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน เขาไม่รู้ว่าคนในโลกนี้มีพ่อค้าคนกลางที่จะรับผลผลิตทั้งหมดนี้ไปขายต่อหรือไม่ หรือเขาจะต้องหาที่ตั้งขายของเหล่านี้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ปัญหาสำคัญเลย คือ เขาไม่รู้ว่าตัวเมืองอยู่ไกลจากบ้านเขาแค่ไหน เพราะในตอนที่เขามาอยู่ในโลกนี้วันแรกๆ ภามได้ลองขี่ม้าสำรวจบริเวณรอบๆ หุบเขานี้แล้ว และดูเหมือนว่าที่ดินของเขาผืนนี้จะไม่เคยมีคนผ่านเข้ามาที่นี่มาก่อน

ภามสำรวจจนรอบก็ไม่พบเส้นทางที่ถูกทำไว้สำหรับเดินทางเลย ซึ่งโดยปกติหากเป็นเส้นทางที่คนใช้เดินทางกันบ่อยๆ ต้องมีการตัดต้นไม้ถางหญ้าให้เป็นถนนไว้ แต่รอบๆ ที่ดินที่อยู่กลางหุบเขาผืนนี้ไม่มีถนนตัดผ่านสักเส้น เขาต้องขี่ม้าออกไปไกลพอสมควรเลยทีเดียว กว่าจะพบถนนที่ผู้คนใช้ในการเดินทางกัน ซึ่งภามคิดว่าหากเขาเดินทางตามถนนเส้นนั้นไปเรื่อยๆ คงได้พบตัวเมืองเอง

แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเมืองอยู่ไกลไหม และต้องใช้เวลาในการค้าขายผลผลิตพวกนี้นานแค่ไหน ดังนั้น ภามจึงคิดว่า ปลูกเมล็ดพันธ์พวกนี้ทิ้งไว้ น่าจะดีที่สุด

ภามจัดการนำเมล็ดพันธุ์ที่มีทั้งหมดปลูกลงในแปลงผักโดยแยกเป็นประเภทๆ เช่นเคย จากนั้นรดน้ำไว้ให้ชุ่ม และนำฟางมาวางคลุมดินไว้ เพื่อรักษาความชื้นระหว่างรอเมล็ดงอกเป็นต้นกล้า

ซึ่งกว่าจะลงเมล็ดทั้งหมด 400 เมล็ด รดน้ำ และคลุมหน้าดินเสร็จ ก็กินเวลาไปไม่น้อย ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาเกือบเที่ยง เพราะภามรู้สึกว่าท้องของเขาเริ่มร้องประท้องหาอาหารแล้ว

ภามเดินอ้อมไปด้านหลังบ้านหยิบไม้ยาวที่ปลายถูกเหลาไว้จนแหลมมาจากกล่องเก็บอุปกรณ์ที่เดิม จากนั้นจึงนำไปใช้เสียบปลาในลำธารหลังบ้าน ก่อนจะนำเข้ามาควักใส้ ขอดเกล็ด เสียบไม้ย่าง ซึ่งในระหว่างที่รอปลาย่างสุก ภามก็นำแครอทมาหันเป็นชิ้นยาวๆ และต้มไว้ที่เตาข้างๆ

หลังจากปลาย่างสุก และแครอทถูกต้มจนเนื้อนุ่มแล้ว ภามก็นำทั้งสองอย่างจัดลงจาน และไปนั่งกินที่โต๊ะอาหาร ซึ่งถูกต้องไว้บริเวณริมหน้าต่าง มุมหนึ่งของห้องครัว วันนี้เขาไม่ได้นำอาหารขึ้นไปกินนั่งกินข้าวชมวิวชิวๆ บนดาดฟ้าเหมือนเช่นวันอื่นๆ เนื่องจากในตอนแรกเขาคิดว่าจะรีบกิน และออกเดินทางเข้าไปในตัวเมือง แต่เมื่อนั่งลงข้างหน้าต่าง และมองออกไปเห็นแสงแดดด้านนอกแล้ว...

“ออกจากบ้านช่วงแดดร่มลมตกกว่านี้หน่อยดีกว่า” ภามพึมพำออกมาเมื่อตัดสินใจได้

หลังจัดการกินอาหารตรงหน้าจนหมด โดยไม่ได้เร่งรีบเหมือนในตอนแรก ภามก็นำจานไปล้าง และเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องนอน เตรียมสัมภาระที่จะนำติดตัวไปด้วยเล็กน้อย เป็นเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนหนึ่งชุด แปรงสีฟัน และยาสีฟัน จากนั้นก็จัดการสำรวจความเรียบร้อยรอบๆ บ้าน ล็อคประตู เตรียมออกเดินทาง

เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ภามก็เดินตรงไปบริเวณข้างคอกม้า วางสัมภาระลงข้างๆ กระสอบผลผลิต เขานั่งเล่นกับเจ้าดำอยู่พักใหญ่ จนเวลาล่วงเลยไปเกือบเย็นแล้ว เมื่อเห็นว่าแดดร่มจนเป็นที่น่าพอใจ ภามก็เข้าไปจัดการเทียมเกวียนเข้ากับม้าของเขา ซึ่งมันทำท่าทางดีใจเหมือนรู้ว่าจะได้ออกไปเที่ยว

หลังจากเทียมเกวียนเรียบร้อยแล้ว เขาก็จูงม้าออกจากคอกมาหยุดอยู่ที่ให้ต้นไม้ใหญ่ข้างๆ คอกม้า และค่อยๆ ยกกระสอบผลผลิตที่ว่างไว้ทั้งหมดขึ้นไปไว้บนเกวียน รวมถึงสัมภาระที่เขาเตรียมไว้ด้วย

“พร้อมไปผจญภัยด้วยกันรึยังเจ้าดำ” ภามถามม้าของตนเอง

ฮี้ๆ~

เสียงเจ้าดำร้องกลับมา เหมือนเป็นการตอบรับ

“โอเค งั้นก็ออกเดินทางกันเถอะ!” ภามบอกพร้อมกับก้าวขึ้นไปนั่งบริเวณหน้าเกวียน พร้อมกับเอื้อมมือไปดึงสายบังเหียนมาถือไว้ในมือ เพื่อคอยบังคับทิศทาง

เจ้าดำที่เห็นว่านายของมันขขึ้นมานั่งบนเกวียนเรียบร้อยแล้วก็เริ่มออกวิ่งช้าๆ โดยมีภามคอยบังคับทิศทางให้มันมุ่งตรงเข้าป่าไปในทิศทางที่เขาเคยเข้าไปสำรวจมาเมื่อคราวก่อน

-----------------------------------------------

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนิยายกันมานะครับ วันนี้จะลงแบบพิเศษให้ในตอนที่ 10

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel