บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

ในที่สุดอาหารเย็นสำหรับคนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายก็เสร็จเรียบร้อย เป็นปลาย่าง และมันฝรั่งต้มที่ภามนำมาบทเป็นมันบท เขาน้ำทั้งสองอย่างมาจัดลงในจานอย่างเสวยงาม และมองผลงานของตัวเองอย่างพอใจ เนื่องจากดูๆ ไปแล้วมันแทบไม่ต่างจากสเต็กปลาย่างและมันบทในโลกก่อนเลย

ภามถือจานอาหารออกไปที่หน้าบ้าน และเดินขึ้นบันไดข้างๆ ไปบนดาดฟ้า ด้านบนถูกจัดไว้เป็นสวนหย่อมเล็กๆ ที่มีชุดโต๊ะและเก้าอีกไม้วางอยู่ข้างๆ ระเบียงดาดฟ้า โดยใกล้ๆ กันมีร่มกันแดดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย ภามเดินเข้าไปวางอาหาร และนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งที่ไม่โดนแดด จากนั้นจึงจัดการทานอาหารไปพลาง ชื่นชมทิวทัศน์ไปพลาง อืม.. ช่างเป็นชีวิตที่สงบสุข เรียบง่ายจริงๆ

ภามใช้เวลานั่งพักอีกเล็กน้อย ก่อนจะมองลงไปที่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างคอกม้า ตรงนั้นมีเกวียนที่ยังประกอบไม่เสร็จดีวางอยู่ จากที่มองท้องฟ้าในวันนี้ เขาคิดว่าคงมีเวลาอีกพักใหญ่กว่าดวงอาทิตย์จะตกดิน ซึ่งน่าจะเพียงพอให้เขาได้ประกอบเกวียนที่จะใช้เทียมกับม้าที่เขามีให้เสร็จ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงเดินเอาจานลงไปเก็บล้าง และกลับออกมาจัดการประกอบเกวียนต่อทันที ในระหว่างที่เขานั่งประกอบเกวียน ยังมีเสียงมอนสเตอร์ดังมาจากในป่าอีกเป็นระยะๆ ซึ่งภามไม่ได้ให้สนใจมากนัก ตราบใดที่พวกมันยังไม่ได้เข้ามาในเขตที่ดินของเขา

หลังจากประกอบเกวียนจนเสร็จ ดวงอาทิตย์ก็ใกล้จะลาลับขอบฟ้าพอดี ภามจัดการนำเกวียนที่ทำเสร็จไปทดลองเทียมเข้ากับตัวม้าของเขา เมื่อตรวจสอบว่าสามารถใช้งานได้พอดี เขาก็ถอดเกวียนเพื่อปล่อยให้ม้าได้พักผ่อนตามอิสระอีกครั้ง

ภามแวะดูแปลงผักด้านหน้าบ้านอีกเล็กน้อย

‘พืชผักก็เจริญเติบโตดีแล้ว เกวียนก็เสร็จแล้ว หาเวลาขุดผักพวกนี้ไปขายในเมืองได้แล้วมั้ง’ ภามคิดในใจ ก่อนจะเดินเข้าบ้าน

หลังจากอาบน้ำ และเดินดูความเรียบร้อยรอบบ้านอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว ภามก็เข้านอน เป็นอันจบการชีวิตประจำวันอันแสนเรียบง่ายของเขาไปอีกหนึ่งวัน

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ..

เสียงที่เหมือนเสียงนกร้องเป็นสัญญาณเตือน ว่ายามเช้ามาได้เยือนแล้ว ปลุกให้ภามตื่นขึ้นมาเหมือนเช่นในทุกวัน พร้อมกับเดินออกจากห้อง เพื่อไปไล่เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ชอบมาส่งเสียงร้องจิ๊บๆ แล้วกัดกินพืชผักที่เขาปลูกไว้ที่หน้าบ้าน

ทันทีที่ก้าวออกจากบ้าน ภามก็ได้เห็นเจ้าของเสียงจิ๊บๆ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ มีดาวตากลมโตเพียงตาเดียว ที่ใต้ดวงตาของมันมีปากที่แหลมเหมือนปากนกยื่นออกมา สองข้างของลำตัวมีปีกเหมือนค้างคาว ที่กำลังตีปีกบินพยุงร่างกลมๆ ของมันให้กัดกินใบของมันฝรั่ง แครอท หัวไชเท้าในแปลงของเขาอยู่ บางตัวเป็นตัวสีฟ้า บางตัวสีดำ บางตัวสีน้ำตาล บางตัวสีเขียว เรียกได้ว่ามีหลากสีไปหมด

ภามหยิบไม้ไผ่ยาวที่วางอยู่ข้างประตูบ้านขึ้นมาถือไว้ และเดินตรงไปที่แปลงผัก เขาเหวี่ยงไม้ไผ่ยาวในมือกวาดไปข้างหน้า บริเวณแปลงผักที่มีมอนสเตอร์พวกนั้นบินก่อกวนอยู่ โดยไม่ได้หมายจะปัดตีให้ตาย เพียงแค่ต้องการไล่ให้พวกมันบินหนีไปที่อื่นเท่านั้น

หลังจากไล่มอนสเตอร์เหล่านั้นไปแล้ว ภามก็กลับเข้าบ้าน อาบน้ำแปรงฟัน และออกมาใช้ชีวิต ‘เรียบง่าย’ ของเขาต่อ ด้วยการขุดมันฝรั่ง แครอท หัวไชเท้าในแปลงผักขึ้นมาจนหมด

ภามมองผลผลิตตรงหน้าอย่างรู้สึกภาคภูมิใจอยู่ไม่น้อย เขาซื้อเมล็ดของมันฝรั่ง แครอท และหัวไชเท้า มาทดลองปลูกอย่างละ 100 เมล็ด ในราคาตกเมล็ดละ 2 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 600 เหรียญทองแดง หรือ 6 เหรียญเงินนั่นเอง

ถ้าเทียบกันเงินในโลกก่อน การซื้อเมล็ดพันธุ์เหล่านี้มาในราคาเมล็ดละ 2 บาทนั้น ถือว่าแพงมาก!! แต่เมล็ดเหล่านี้ได้รับการการันตรีว่า เพาะขึ้นทุกเมล็ด ภามจึงคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะลองซื้อมาปลูกดู

และด้วยพรที่ติดมากับที่ดินผืนนี้ ที่ปลูกอะไรก็งอกงาม แถมโตเร็ว ทำให้ภามได้ผลผลิตมาในจำนวนมาก เรียกได้ว่า ปลูกชนิดละ 100 เมล็ด ก็เกิดผลได้ 100 ต้น แถมผลผลิตที่ได้ยังอวบใหญ่กว่าปกติเป็นเท่าตัว อีกทั้งพืชพันธุ์เหล่านี้ที่ปกติในโลกเดิมใช้เวลาปลูก 2-3 เดือน แต่เมื่อปลูกที่โลกนี้กลับใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งตรงจุดนี้เขาไม่แน่ใจนักว่ามาจากพรที่พระเจ้าให้มาด้วย หรือเป็นเรื่องปกติของโลกใบนี้

ภามค่อยๆ เก็บมันฝรั่ง แครอท และหัวไชเท้าลงกระสอบ พร้อมกับนับจำนวนผลผลิตที่ได้แต่ละชนิด ซึ่งมันฝรั่งมีจำนวน 90 หัว, แครอท 97 หัว, ไชเท้า 95 หัว โดยส่วนที่ขาดไป เป็นส่วนที่เขาขุดไปใช้ทำอาหารในแต่ละวันนั่นเอง หลังจากเก็บผลผลิตใส่กระสอบเรียบร้อยแล้ว ภามก็นำมันมาวางไว้ข้างๆ เกวียน

“ไง เจ้าดำ วันนี้ไปเที่ยวกันหน่อยไหม” ภามแวะเข้ามาทักทายม้าที่ยืนสะบัดหางไปมาอยู่ข้างรั้วกั้นคอก

ฮี้ๆ~

เจ้าดำร้องตอบพร้อมกระโดดไปมา เหมือนกับเข้าใจสิ่งที่เขาพูด

“ดี งั้นต้องรบกวนแกแบกของพวกนี้ไปด้วยนะ เราจะเอาไปขายในเมืองกัน เพื่ออนาคตการกินอยู่ของพวกเรา!” ภามคุยกับเจ้าดำต่อ ประหนึ่งว่ามันเขาใจสิ่งที่เขขาพูด พร้อมกับตบแผงคอมันเบาๆ

ภามหยิบมันฝรั่ง แครอท หัวไช้เท้า ออกมาจากกระสอบ ให้เหลือแค่กระสอบละ 70 หัว เพื่อเตรียมที่จะนำส่วนนั้นไปขายในเมือง ส่วนที่เหลือ มันฝรั่ง 20 หัว, แครอท 27 หัว, หัวไชเท้า 25 หัว เขานำมันเก็บเข้าบ้านไปด้วย

เมื่อเข้ามาในครัว ภามแยกแครอท 7 หัว กับหัวไช้เท้า 5 หัว ไว้ในตะกร้าใส่ผักข้างๆ อ่างล้างจาน และนำส่วนที่เหลือชนิดละ 20 หัวติดตัวเดินไปทางหลังบ้านด้วย

ก่อนจะถึงประตูหลังบ้าน ทางด้านซ้ายมือ มีประตูไม้ที่มีลักษณะไม่ได้ต่างไปจากประตูบานอื่นๆ ในบ้านตั้งอยู่ ภามเอื้อมมือไปที่ลูกบิด ก่อนจะเปิดประตูนั้นออก

แสงสว่างจ้าสาดกระจายออกมาจากภายในห้องนั้น จนภามต้องยกมือหันบังแสงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องพร้อมกับผลผลิตที่นำติดตัวมา เมื่อภามก้าวเข้าไปในห้อง ประตูบานนั้นก็ปิดลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel