๒.๓ ปรารถนาซาตาน
“อาภูเป็นผู้ช่วยซีอีโอต้องดูแลบริษัทในเครือและเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ไม่มีเวลาสอนงานหนูเต็มเม็ดเต็มหน่อยหรอก ไปทำกับอาภีมดีที่สุดแล้ว” ประโยคนั้นปณิธานเป็นคนเอ่ยเมื่อลูกสาวเริ่มอิดออด และนั่นก็ทำให้อันดามันไม่สามารถโต้แย้งใดๆ ได้อีก
สาวสวยวัยยี่สิบสองแต่งตัวเปรี้ยวเฉี่ยวด้วยชุดกระโปรงสั้นสีเหลืองมะนาวตัดกับผิวขาวเนียนลออ เรียกสายตาของใครต่อใครให้หันมามองอย่างสนใจตั้งแต่ครั้งแรกที่อันดามันก้าวเข้าไปในตึกสูงซึ่งเป็นที่ทำการของบริษัทนำเข้ารถยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งนั้น คนที่นี่ไม่มีใครรู้ว่าอันดามันเป็นหลานสาวของภีมภัทรกับจอมทัพ เพราะเธอไม่เคยย่างกรายมาที่นี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว มือเรียวกดลิฟต์ชั้นที่เป็นห้องทำงานของภีมภัทรตามที่ผู้เป็นมารดาให้ข้อมูล เมื่อไปถึงชั้นนั้นก็ไปแนะนำตัวกับเลขานุการหน้าห้องของเขาซึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนอายุราวๆ สี่สิบต้นๆ
“สวัสดีค่ะคุณเลขาฯ มิ้มมารายงานตัวทำงานวันแรกค่ะ” อันดามันเอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร แม้จะไม่เต็มใจสักนิดเลยที่จะมาทำงานกับภีมภัทร แต่ก็ไม่ชอบสร้างศัตรูหรือทำหน้าบึ้งใส่ใครที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของตน
“คุณอันดามันใช่มั้ยคะ ท่านสั่งไว้แล้วค่ะว่าถ้าคุณอันดามันมาให้เข้าไปพบได้เลย” จันทิมาเลขานุการหน้าห้องของภีมภัทรลุกขึ้นแล้วขยับออกมาจากโต๊ะด้านในเพื่อพาอันดามันเข้าไปพบภีมภัทร
“คุณเลขาฯ เรียกมิ้มว่ามิ้มก็พอค่ะ”
“ได้ค่ะคุณมิ้ม ตามดิฉันเข้าไปพบท่านได้เลยค่ะ”
จันทิมาก้าวนำไปยังห้องของซีอีโอซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่และเป็นเจ้านายโดยตรงของเธอ อันดามันจึงก้าวตามเข้าไปแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
“คุณมิ้มมาแล้วค่ะท่าน” จันทิมารายงานกับเจ้านายที่กำลังนั่งเซ็นเอกสารอยู่
ภีมภัทรเงยหน้าขึ้นมองหน้าหลานสาวซึ่งบึ้งตึงและเมินหน้าหนีจากสายตาของเขา ชายหนุ่มไม่ได้ละสายตาไปไหนขณะที่เอ่ยกับเลขานุการของตน
“ขอบคุณมากคุณจันทิมา วันนี้ไม่มีประชุมใช่มั้ย”
“ไม่มีค่ะท่าน”
“งั้นรอบเช้าผมงดรับแขกนะ เพราะต้องสอนงานหลานสาวตัวต่อตัว” เขาเน้นคำหลังอย่างมีความนัยเป็นพิเศษทำให้อันดามันหันมาทำตาขวางใส่ ส่วนจันทิมารู้ตัวว่าหมดหน้าที่แล้วจึงออกจากห้องไป
ร่างสูงลุกขึ้นแล้วขยับไปหาหลานสาวคนสวยที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ที่เดิม สายตากวาดมองไปทั่วร่างอรชร ก่อนจะเอ่ยขึ้นเหมือนตำหนิ
“มาทำงานวันแรก ก็แต่งตัวเปรี้ยวมาเลย กลัวหนุ่มๆ ที่นี่จะไม่มีอะไรให้มองหรือไง ถึงได้โชว์ขาอ่อนแบบนี้”
“มันขาของมิ้มนี่คะ จะโชว์จะอวดใครมันก็เรื่องของมิ้ม”
หญิงสาวข่มความอายแล้วเชิดหน้าขึ้นเถียงเขาฉอดๆ
“แล้วถ้าอาอยากเห็นส่วนอื่นๆ มากกว่าขาล่ะ จะอวดอามั้ย” เขาย้อนพลางลดสายตาลงจ้องมองตรงต้นขาขาวเนียนที่โผล่พ้นชายกระโปรงสั้นแคบอย่างจาบจ้วงโลมเลีย ทำเอาอันดามันหน้าร้อนวูบ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกภีมภัทรปลดเปลื้องกระโปรงตัวนั้นอยู่ก็ไม่ปาน
“อย่าหวังเลยว่าอาจะได้เห็นอีก มิ้มจะเก็บไว้ให้ผู้ชายที่มิ้มรักดูคนเดียว”
“มีหรือยังล่ะ ผู้ชายที่มิ้มว่า” ภีมภัทรย้อนถามยิ้มๆ แต่รอยยิ้มของเขายิ่งทำให้อันดามันโมโหโกรธกรุ่น
“สวยเลือกได้อย่างมิ้ม ทำไมจะไม่มี”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ควรจะเก็บของสวยๆ งามๆ พึงสงวนเอาไว้ให้เขาดูคนเดียว วันหลังอย่าเปิดหน้าเปิดหลังมาแบบนี้อีก ไม่งั้นอาจจะโดนคนอื่นฉุดเสียก่อนจะได้เปิดให้แฟนดู”
“อาภีมบ้า ปากจัด มิ้มมาทำงานนะคะ ไม่ใช่มาให้อายืนด่า”
“อาแค่แนะนำเรื่องการแต่งตัว”
“ช่างเป็นคำแนะนำที่น่าประทับใจเหลือเกิน” อันดามันเบ้ปากและย่นจมูกใส่อย่างฉุนเฉียว
“เอาละงั้นเรามาเริ่มงานกันดีกว่า อาขี้เกียจเถียงกับเราแล้ว” ภีมภัทรเป็นฝ่ายตัดบทก่อน
“นึกว่ามิ้มอยากเถียงกับอามากนักหรือไงล่ะ” หญิงสาวไม่วายยอกย้อน “แล้วอาภีมจะให้มิ้มทำอะไร”
“มิ้มต้องเรียนรู้งานกับอาก่อนแล้วอาถึงจะมอบหมายงานให้ อาสั่งให้คนจัดโต๊ะให้แล้ว อยู่ตรงนั้นน่ะ” เขาบุ้ยปากไปยังอีกมุมหนึ่งของห้อง อันดามันมองตามจึงเห็นว่ามีโต๊ะทำงานวางอยู่ชุดหนึ่ง บนโต๊ะมีเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน เธอไม่ทันสังเกตแต่แรกเพราะมัวแต่เมินหน้าหนีเขาอยู่นั่นเอง
“ทำไมต้องให้มิ้มนั่งทำงานห้องเดียวกับอาด้วย หรือว่าอาภีมต้องการแกล้งมิ้ม มิ้มไม่ใช่นักโทษของอานะ ที่ต้องอยู่ในสายตาอาภีมตลอดเวลา” อันดามันแหวใส่อย่างไม่พอใจ เมื่อคิดว่าภีมภัทรจงใจจะควบคุมให้เธออยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา
“อาไม่ใช่เด็ก ที่ต้องคิดหรือทำอะไรเป็นเด็กๆ เหมือนที่มิ้มชอบทำ ที่อาต้องให้มิ้มทำงานในห้องนี้กับอาก็เพื่อความสะดวก อาต้องสอนงานให้มิ้ม จะให้อาเดินเข้าเดินออกทั้งวันหรือไง” ภีมภัทรย้อนเสียงเข้มดุอย่างคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลมากกว่า ทำให้อันดามันรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าและไร้เหตุผลคิดอะไรเป็นเด็กๆ อย่างที่เขาตำหนิ จึงเถียงไม่ออกแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองแทน
“อาจะให้มิ้มทำอะไรบ้างล่ะคะ” เสียงหวานเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย
“แฟ้มที่อยู่ในตู้ข้างหลังนั่นเป็นนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานของบริษัททั้งหมด อาอยากให้มิ้มอ่านให้ละเอียด อ่านทุกแฟ้ม ทุกบรรทัดและทำความเข้าใจ สงสัยตรงไหนให้ถามอา”
“แล้วคอมพิวเตอร์นี่ล่ะ มิ้มใช้ได้หรือเปล่า” อันดามันอดถามไม่ได้ เธอคงเบื่อตายเลยหากต้องนั่งอ่านเอกสารทั้งวัน
“อ่านเอกสารนั่นให้เสร็จก่อนก็แล้วกัน ถ้าอาเห็นว่าเราสมควรจะให้ใช้เมื่อไหร่ แล้วอาจะบอกเอง”
“อ่านผ่านคอมพิวเตอร์ก็ได้นี่คะอา ที่จริงเอกสารพวกนี้มันต้องมีบันทึกไว้ในดาต้าเซ็นเตอร์ของบริษัทอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ” อันดามันไม่ยอมทำตามง่ายๆ อย่างน้อยถ้าได้เปิดคอมพิวเตอร์เข้าระบบอินเตอร์เน็ต เธอยังสามารถดูนั่นดูนี่คั่นเวลาแก้เบื่อได้บ้าง
“ทำตามที่อาสั่ง” ภีมภัทรตอบสั้นๆ แต่เด็ดขาดอยู่ในที
“เผด็จการ”
ประโยคนั้นอันดามันได้ทำปากขมุบขมิบพึมพำคนเดียว ไม่กล้าเสียงดังใส่เพราะเวลาที่ภีมภัทรเอาจริงขึ้นมานั้นก็น่ากลัวน้อยเสียที่ไหน