บทย่อ
เคยไหม...ยิ่งต่อต้านใครสักคน แต่กลับยิ่งโหยหาเคยไหม...ยิ่งผลักไสใครสักคนให้ออกห่าง ก็ยิ่งเหมือนผูกพันหัวใจไว้กับเขาเคยไหม...ที่อยากวิ่งหนีหัวใจตัวเอง แต่หนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้นตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาเกือบแนบชิดกับใบหน้าสวย ตาที่พราวระยับของเขาทำเอาอันดามันใจเต้นระส่ำ สัญชาตญาณบ่งบอกว่าภีมภัทรกำลังปรารถนาอะไร“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคะอา” เสียงหวานเอ่ยห้ามสั่นระริก“อาไม่ได้จะทำอะไรบ้าๆ อาแค่จะขอรางวัล”“แต่มิ้มยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลยนะ” อันดามันหาข้ออ้างเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะถูกจูบ“อาก็ยัง” เขาดักคอ“แต่...”“ไม่มีแต่ อาแค่จะจูบ”“เรื่องอะไร”“ก็เรื่องที่มิ้มเมาจนอาต้องไปรับมิ้มกลางดึกนั่นไง” เมื่อเธอเล่นเจ้าล่อเอาเถิดเขาก็ไม่เดือดร้อนที่จะต้อนให้หลานสาวจนมุม“ใครใช้ให้ไปรับเล่า”“เพื่อนมิ้มใช้ หรือจะให้อาไปจูบเพื่อนมิ้มดี” เขาถามพลางจ้องตาคู่สวยอย่างล้อเลียน“ฮึ! อย่าหวังเลย มิ้มไม่มีทางยอมให้ผู้ชายอย่างอาได้จูบหยีหรอก”“หึงอา?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นขณะถามตาพราว“หวงเพื่อนต่างหาก” อันดามันรีบแก้ต่าง“งั้นเราก็ให้อาจูบสิ อาจะได้ไม่ต้องไปจูบเพื่อนเรา”ในที่สุดความได้เปรียบก็ตกไปอยู่กับคนมาชั้นเชิงกว่าเช่นเดิม อันดามันมองค้อนแต่แก้มนวลแดงก่ำ ถูกเขาจูบมากี่ครั้งแล้วก็ยังอดเขินและตื่นเต้นไม่ได้“ทำไมอาชอบแกล้งมิ้มนัก”“อาไม่ได้ชอบแกล้งแต่ชอบจูบ”“มิ้มไม่ชอบให้อาจูบนี่”“ไม่ต้องชอบ แค่ยอมก็พอ”
๑.๑ คุณอาเจ้าเสน่ห์
บทนำ
สายลมกรรโชกแรงในยามดึกสงัดของราตรีกาลที่มีฝนฟ้าคะนอง ลอดผ่านหน้าต่างซึ่งเปิดแง้มเอาไว้ทำให้ชายผ้าม่านปลิวไสว บ้างก็แล่นฉิวเข้ามาในห้องกระทบกับมุ้งซึ่งถูกผูกโยงคลุมเตียงนอนขนาดใหญ่อีกทีเพื่อป้องกันยุงและริ้นไรไม่ให้มาไต่ตอม แม้ว่าบ้านไม้ริมน้ำหลังนี้จะติดมุ้งลวดรอบบ้านแล้วก็ตาม
แสงอสุนีบาตที่แลบแปลบๆ ราวกับแสงแฟลชจากกล้องขนาดใหญ่เป็นระยะ ทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของสองร่างบนเตียงใหญ่ได้อย่างชัดเจน
“อา...”
เสียงครางต่ำลึกดังขึ้นอย่างสุดกระเส่าจากเรียวปากหยักลึก ในขณะที่สองมือเล็กได้แต่กำผ้าปูที่นอนจนยับย่น ปากนุ่มที่บวมเบ่งจากแรงจุมพิตสุดเร่าร้อนครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนหน้านี้กำลังจะเผยอร้อง แต่ก็ถูกปิดทับด้วยปากร้อนเสียก่อน
จุมพิตดูดดื่มเริ่มขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆ กับที่เอวสอบเริ่มขยับโยกไหวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าใจจริงแล้วอยากจะรุกเร้าหนักหน่วงตามใจปรารถนาก็ตาม
ฝนเม็ดหนาทึบตกลงมากระทบหลังคาดังซ่าๆ นำพาความเย็นฉ่ำแผ่มาโอบล้อมทั่วอาณาบริเวณ สายลมที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบชายมุ้งเป็นระยะจนผ้าสีฟ้าปลิวไสวไม่ได้ทำให้สองกายหนาวซ่านแต่อย่างใด ตอนนี้บนเตียงใต้มุ้งบางเบากำลังเร่าร้อนด้วยอุณหภูมิของไฟสวาทที่โหมกระพือ มือเล็กยกขึ้นโอบร่างใหญ่ไว้แน่นยามที่เขาพาโลดทะยานไปพานพบความซ่านสยิวแปลกใหม่ เสียงครางหวานกระเส่าเริ่มดังขึ้นไม่ขาดสาย หลังจากปากร้อนผละออกจากการจุมพิตปากนุ่มแล้วเลยไปเชยชมพรมจุมพิตส่วนอื่น
๑
คุณอาเจ้าเสน่ห์
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร
ดวงตาคู่สวยกำลังกวาดมองตัวหนังสือบนป้ายดิจิตอล ซึ่งกำลังขึ้นตัวหนังสือแจ้งว่า ขณะนี้สายการบินที่เดินทางมาจากประเทศแคนาดากำลังลงจอดที่รันเวย์ของสนามบินอันใหญ่โตกว้างขวางแห่งนั้นเรียบร้อยแล้ว และในอีกประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาบุรุษหนุ่มรูปร่างสง่างาม เจ้าของใบหน้าหล่อคมติดดุดัน แต่ทว่ากลับเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหลก็ก้าวเข้ามาในอาคารผู้โดยสารขาเข้าพร้อมๆ กับผู้โดยสารอื่นๆ ที่เริ่มทยอยออกมาอย่างไม่ค่อยหนาตามากนัก
ทันทีที่สายตาปะทะกับร่างสูงนั้น หัวใจของ ‘สายน้ำผึ้ง’ สาวน้อยวัยยี่สิบสองปีก็เต้นแรงระรัวราวกับมีกองทัพกำลังกระหน่ำกลองศึกอยู่ภายในนั้นก็ไม่ปาน มือไม้เกิดอาการสั่นอย่างไม่อาจระงับ เมื่อร่างสูงสง่าเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
แต่แล้วอาการตื่นเต้นของสายน้ำผึ้งก็ค่อยๆ หายไป ใบหน้าเนียนใสเจื่อนลงเพราะเขาไม่ได้แม้แต่จะชายตาแลมาทางเธอด้วยซ้ำไป
“สวัสดีค่ะอาภีม”
‘อันดามัน’ ยกมือขึ้นไหว้ผู้ชายที่มีศักดิ์เป็น ‘อา’ ของตน ที่เรียกว่ามีศักดิ์เป็นอาก็เพราะ ‘ภีมภัทร’ กับเธอไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆ เลยแม้แต่นิด ปู่แท้ๆ กับย่าบุญธรรมของเธอเป็นม่ายลูกติดทั้งคู่ พ่อของเธอเป็นลูกติดพ่อ ส่วนภีมภัทรเป็นลูกติดแม่ และเมื่อปู่กับย่าแต่งงานกันจึงมีลูกด้วยกันอีกหนึ่งคน คือจอมทัพซึ่งเป็นอาคนเล็กของเธอนั่นเอง
“มาได้ยังไง”
ภีมภัทรถามด้วยน้ำเสียงห่างเหินเช่นเดียวกับทุกครั้ง แต่ตาไม่ได้คลาดไปจากใบหน้าเนียนใสของอันดามันเลยแม้แต่เศษเสี้ยวนาที แต่คนถูกมองแสร้งทำเป็นไม่สนใจอากัปกิริยาใดๆ ของคนมอง ทำเพียงแค่พยายามจะยิ้มและควบคุมน้ำเสียงให้ร่าเริงสดใสเท่านั้น
“มิ้มไม่มีเรียนช่วงบ่าย เห็นว่าอาภีมจะกลับวันนี้ก็เลยมารับ”
“แน่ใจเหรอว่าอยากมารับอาจริงๆ โดยที่ไม่มีอะไรแอบแฝง”
ตาคู่คมหรี่มองอย่างจับพิรุธขณะถามอย่างรู้ทัน ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะมองแบบนั้น ในเมื่อเธอกับเขาไม่ได้ญาติดีกันมากว่าสองปีแล้ว
“แน่ใจสิคะ”
ปากยืนยันอย่างหนักแน่น แต่พฤติกรรมกลับตรงกันข้าม หลังจากพูดจบก็หันไปทางเพื่อนสาวของตัวเองที่ยืนอยู่ข้างๆ และแนะนำให้ผู้เป็นอารู้จักทันที
“นี่สายน้ำผึ้ง อาเรียกว่าหยีก็ได้ หยีเป็นเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนที่มิ้มรักที่สุดในมหาวิทยาลัยค่ะ”
“สวัสดีค่ะอาภีม”
สายน้ำผึ้งยกมือขึ้นไหว้อย่างขลาดๆ สายตาคมดุที่ปรายมามองแค่แวบเดียวสั้นๆ นั้นทั้งเย็นชาและมีแววรำคาญปนอยู่อย่างเปิดเผย ภีมภัทรไม่ได้เอ่ยทักทายตอบแต่อย่างใด แค่ยกมือขึ้นรับไหว้แล้วหันไปทางหลานสาวของตัวเองต่อ ทำเอาใบหน้าที่เจื่อนอยู่แล้วกลายเป็นสีขาวซีดราวกับกระดาษในทันที
“มิ้มกับเพื่อนกลับไปเถอะ อามีคนมารับแล้ว”
อันดามันหันไปตามสายตาของภีมภัทร ก็เห็นว่ามีสาวสวยในวงสังคมชั้นสูงยืนยิ้มให้เขาอยู่ แม้จะไม่ผิดจากที่คาดไว้สักเท่าไหร่ แต่ก็อดเคืองไม่ได้ เธอไม่ได้อยากมารับเขาสักนิดถ้าไม่เห็นแก่สายน้ำผึ้ง ด้วยเพราะรู้ดีว่าสายน้ำผึ้งแอบชอบภีมภัทรมานานแล้ว จึงอยากจะถือโอกาสแนะนำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเสียที วันนี้จึงเสี่ยงพาสายน้ำผึ้งตากหน้ามา และแอบลุ้นลึกๆ ว่าภีมภัทรอาจจะถูกตาต้องใจเพื่อนสาวของตน ซึ่งเขาก็ดับความหวังของเธอตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว
“สรุปว่าอาภีมจะไม่กลับพร้อมมิ้ม”
“ไม่ล่ะอามีคนมารับแล้ว อามีธุระส่วนตัวต้องทำต่อ” ภีมภัทรเน้นคำว่าธุระส่วนตัว แค่นั้นก็ทำให้อันดามันและสายน้ำผึ้งเดาได้แล้วว่า เขากับสาวสวยคนนั้นจะไปทำอะไรกันต่อ
“งั้นก็เชิญตามสบายเถอะค่ะ”
อันดามันเผลอสะบัดหน้าพรืดใส่เจ้าของร่างสูงสง่าอย่างเคืองๆ ที่เขาฉีกหน้าเธอกับสายน้ำผึ้งอย่างไม่มีชิ้นดี
“พาเพื่อนเรากลับได้แล้ว อาไปล่ะ”
ว่าแล้วอาหนุ่มวัยสามสิบแปดปีของอันดามันก็ตรงไปหาสาวสวยที่ยืนรออยู่ทันที เขากับสาวสวยคนนั้นโผเข้ากอดกันและบดจูบกันอย่างเร่าร้อนท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่กำลังเดินขวักไขว่ในห้องผู้โดยสารขาเข้า โดยไม่มีทีท่าว่าจะเขินอายใดๆ เลยแม้แต่นิด
“เชอะ แกล้งทำเก๊กดุ ที่แท้ก็หื่นแถมหน้าไม่อายอีกต่างหาก”
อันดามันเบ้ปากใส่แล้วเมินหน้าหนีจากภาพที่เห็น
“หยีบอกแล้วว่าอาของมิ้มไม่สนหยีหรอก มิ้มดูแฟนอาภีมสิ สวยจะตาย” สายน้ำผึ้งบอกอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะภีมภัทรแสดงออกชัดว่าเขาไม่สนใจเธอเลย แทบจะไม่มองหน้าด้วยซ้ำ
“ผู้ชายตาถั่วก็แบบนี้ล่ะหยี หยีสวยขนาดนี้ ทำเป็นไม่มอง”
“ขนาดผู้หญิงสวยๆ อาของมิ้มยังเมิน แล้วเขาจะมามองเด็กกะโปโลอย่างหยีได้ยังไง”
“มิ้มไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก หยีไม่ได้กะโปโลเสียหน่อยออกจะน่ารัก นิสัยก็ดี ยังไงซะ มิ้มก็ต้องทำให้หยีเป็นอาสะใภ้ของมิ้มให้ได้” อันดามันบอกอย่างมุ่งมั่นขณะพากันเดินกลับไปยังลานจอดรถ
“เลิกคิดในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้เถอะมิ้ม”
“มิ้มจะเลิก ถ้าหยีบอกมิ้มมาคำเดียว ว่าหยีไม่ได้ชอบอาภีม”
อันดามันหันไปจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างล้อเลียน รู้ดีว่าสายน้ำผึ้งแอบชอบอาของตัวเองมานานแล้ว เพราะเคยเห็นอัลบั้มภาพของภีมภัทรที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์และนิตยสารต่างๆ อยู่ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่สายน้ำผึ้งแอบบันทึกเอาไว้ในอัลบั้มหลายสิบภาพ
“หยีก็เคยบอกมิ้มไปแล้วนี่นา ว่าหยีแค่ชื่นชอบอาภีมของมิ้มเท่านั้น ไม่ได้ชอบทำนองชู้สาวเสียหน่อย” สายน้ำผึ้งยืนยันหนักแน่นแต่กลับหลุบตาลงหลบสายตาของอันดามัน
“จริงน่ะ”
“อื้อ...จริงสิ” คนถูกจ้องพยักหน้าทั้งที่ยังหลบตา
“ถ้างั้นเดี๋ยวพอกลับไปถึงหอพักของหยี มิ้มจะลบรูปผู้ชายเจ้าชู้แถมเย็นชาแบบอาภีมออกจากโน้ตบุ๊กของหยีเอง หยีเก็บไว้ก็เปลืองเมมโมรีเครื่องเปล่าๆ”
“ไม่ได้นะมิ้ม หยีเก็บของหยีมาตั้งหลายปี”
สายน้ำผึ้งรีบเงยหน้าขึ้นบอกอย่างเดือดเนื้อร้อนใจ เธอเก็บรูปของภีมภัทรมาตั้งหลายปีตั้งแต่ยังไม่รู้จักกับอันดามันด้วยซ้ำ จะให้ลบทิ้งง่ายๆ ในไม่กี่วินาทีได้ยังไง มันทำใจยากพอๆ กับที่จะลบเขาออกจากหัวใจนั่นล่ะ
“นั่นแน่...ในที่สุดผู้ร้ายปากแข็งก็ยอมหลุดปาก”
อันดามันหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะยิ้มอย่างล้อเลียนอีก ทำให้สายน้ำผึ้งหน้าแดงซ่านด้วยความเขิน
“เลิกล้อหยีแล้วพาหยีกลับได้แล้วมิ้ม หยีมีรายงานต้องทำ เสร็จแล้วต้องไปทำงานพาร์ตไทม์อีก เดี๋ยวเข้างานไม่ทัน หยีไม่อยากโดนผู้จัดการดุแถมจะต้องโดนหักเงินอีกต่างหาก” สายน้ำผึ้งรีบเปลี่ยนเรื่องและเร่งให้อันดามันพากลับหอพักทันที
“ต้องอย่างนี้สิคุณสมบัติของอาสะใภ้ที่คู่ควร น่ารัก ขยัน แถมยังนิสัยดี เรียนจบแล้วไปทำงานกับอาภีมนะหยี หยีจะได้ใกล้ชิดกับอาภีมเผื่อจะได้แต่งงานกันเร็วๆ” อันดามันยังคิดจะเดินหน้าแผนการจับคู่ให้สาวน้ำผึ้งกับภีมภัทรต่ออีกในระยะยาว
“เลิกคิดเลิกวางแผนได้แล้ว ออกรถเสียทีเดี๋ยวหยีก็ไปทำงานไม่ทันหรอก”
“ก็ได้ๆ อย่าคิดว่ารู้ไม่ทันนะว่ากำลังเขิน”
อันดามันหัวเราะอย่างถูกใจเมื่อเห็นแก้มของสายน้ำผึ้งแดงปลั่ง สักพักจึงสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วขับออกจากสนามบิน มุ่งหน้าไปยังหอพักของสายน้ำผึ้ง