บทที่ 1 อดีตที่จำไม่ลืม (2/2)
วันนี้ภายในโรงเรียนดูคึกคักเป็นพิเศษเพราะเป็นวันที่วัยหนุ่มสาวมักจะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งของปี เขารีบมองหาอังเดรทันที ก่อนที่เขาจะเห็นร่างสูงใหญ่วิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ
“เชอร์เบลอยู่ที่โรงอาหาร มึงรีบไปเถอะ มีแต่คนเอาของมาให้เธอ เดี๋ยวกูตามไปขอพักเหนื่อยก่อน” อังเดรได้แต่นั่งหอบหายใจถี่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ และโบกมือไล่เพื่อให้เพื่อนได้ไปทำตามหัวใจ
“เออ กูไปก่อนนะ”
เป้าหมายของเขาในตอนนี้คือโรงอาหาร ใช้เวลาไม่นานเขาก็มาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของทางเข้า ก่อนจะรวบรวมสติเพื่อทำในสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง
ฟลินท์เดินเข้าไปด้านใน เขาก็เห็นร่างเล็กของเชอร์เบลนั่งอยู่ที่โต๊ะ โดยมีเพื่อนสาวสองสามคน ส่วนรอบ ๆ โต๊ะที่เธอนั่งอยู่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเด็กหนุ่มมากมายที่ล้วนแล้วแต่หอบข้าวของมาให้เธอจนละลานตาไปหมด
เขาสูดลมหายใจก่อนจะเดินไปหยุดยืนที่โต๊ะของเธอ เมื่อเขาหยุดยืนด้านหน้าของเธอ คนที่ห้อมล้อมก็พากันถอยออกมาด้วยความสงสัยที่เด็กหัวดีอย่างเขามาทำอะไรที่โต๊ะของเชอร์เบล
“นะ…น้องเชอร์เบลครับ” บ้าเอ้ย! กะจะเปิดด้วยประโยคสวยหรูความเขินทำให้เขาประหม่าและตะกุกตะกักขึ้นมาเสียได้
“คะ” เชอร์เบลที่นั่งคุยกับเพื่อนสาว เอียงหน้ามาตอบเขาด้วยความสงสัย ใบหน้าเล็ก ตาโต ผมบลอนด์ทำให้เขาแทบคลั่ง
“พี่…เอ่อ…พี่ชอบเชอร์เบล!”
ในที่สุดเขาก็โพล่งมันออกไป ก่อนจะยื่นดอกไม้ช่อโตและกล่องช็อกโกแลตหรูหราไปเบื้องหน้าด้วยความเขินอาย
“เหอะ…” สิ่งที่เขาควรจะได้ยินต้องไม่ใช่คำว่าเหอะ พร้อมสะบัดใบหน้าหนีแบบนี้สิ
“พี่ชอบเชอร์เบลจริง ๆ นะ” ฟลินท์บอกเชอร์เบลอีกครั้ง
“โธ่ ไอ้ฟลินท์ มึงคิดว่าแค่เรียนเก่งแล้วจะบอกรักน้องเชอร์เบลได้เหรอวะ กระจอกชิบหาย”
“ไม่เจียมตัวเองเลย”
เสียงของคนรอบข้างดังเข้าสู่โสตประสาทจนเขาแทบจะหลอน ดวงตาคมได้แต่จ้องมองเชอร์เบล และหวังว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับคนอื่น
“พี่ชอบเชอร์เบลจริง ๆ เหรอคะ พี่คิดอะไรอยู่อะ งั้นเชอร์เบลถามหน่อยของที่พี่ให้เชอร์เบลพี่ซื้อมาเองหรืออังเดรซื้อให้พี่คะ”
เชอร์เบลลุกยืนขึ้นกอดอก ก่อนจะเบ้ใบหน้ากรอกสายตามองบนด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะส่งคำถามที่จี้จุดด้อยในอกขึ้นมา
“พี่…” เขาได้แต่อ้ำอึ้งพูดไม่ออก
“เชอร์เบลพูดแค่นี้พี่ถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอคะ”
“พี่…” เขาก็ยังคงได้แต่อ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะตอบออกไปยังไง
“ถ้าพี่ตอบไม่ได้ เชอร์เบลจะตอบให้ค่ะ คนอื่น ๆ จะได้รู้ด้วยเมื่อวานเชอร์เบลเห็นด้วยสองตาว่าพี่อังเดรจ่ายเงินซื้อของพวกนี้ให้กับพี่ แต่เชอร์เบลก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่คิดว่าพี่จะเอาของพวกนั้นมาบอกชอบเชอร์เบลแบบนี้”
“กระจอกสุด ๆ ไปเลยว่ะ ไม่รู้จักเจียม”
“หน้าไม่อาย จะบอกชอบสาวยังไม่มีเงินซื้อของอีก” บลา ๆ
สารพัดคำดูถูกสาดส่งกระแทกใบหน้าราวกับคลื่นมหาสมุทรลูกใหญ่ที่พร้อมพัดพาทุกสิ่งให้พังพินาศเช่นเดียวกับชีวิตของเขา
“พี่แค่ยืมอังเดรก่อน” เขาพยายามที่จะอธิบาย
“คนอย่างพี่มีปัญญาหาเงินคืนด้วยเหรอคะ รู้ไหมคะว่าของสองสิ่งนี้มันแพงกว่าค่ากินของพี่ทั้งเดือนอีก แล้วพี่จะมีปัญญาหาเงินมาคืนพี่อังเดรได้ยังไงกัน กระจอกสิ้นดี”
คนที่เขาบอกชอบสาดส่งคำหยามเหยียดให้เขาจนหน้าชา ท่ามกลางผู้คนที่หัวเราะขบขันจนเขารู้สึกจุกในอก
“พี่…” น้ำเสียงของเขาถูกกลืนลงไปในลำคอจนหมด
“ทำไมพี่ไม่เจียมตัวเลยคะ เชอร์เบลเป็นใคร พี่เป็นใคร พี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอ คนอย่างพี่นอกจากสมองดี อย่างอื่นพี่ก็…ไม่มีอะไรดีเลยค่ะ”
“เชอร์เบล ถ้าเธอไม่ชอบพี่ ก็ไม่เห็นต้องใช้คำหยาบโลนแบบนี้กับพี่เลย” เขาบอกออกไปอย่างหมดความอดทน
“เชอร์เบลก็แค่บอกให้พี่เจียมตัวเองค่ะ ถ้าพี่จะเป็นแฟนกับเชอร์เบล สร้อยคอนี้มีค่าเท่ากับบ้านพี่ทั้งหลัง ถ้าเชอร์เบลอยากได้อีกเส้น
พี่มีปัญญาซื้อให้ไหมคะ พี่ลองเอาไปคิดดู”
“พี่ขอโทษที่บอกชอบเธอ…”
ความน่ารักของคนในใจหายไปจนหมดสิ้น มีเพียงความเย่อหยิ่งเหยียดคนที่ด้อยกว่าของเธอเท่านั้นที่เขามองเห็นในตอนนี้ ความเกลียดเริ่มเข้ามาแทนที่ความชอบที่เขามีให้เธอ
เชอร์เบลเบ้ริมฝีปากมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าได้รูปเชิดหยิ่งพร้อมไหล่บางที่กระแทกร่างใหญ่ที่แสนเบาหวิวของเขาไป ก่อนที่เธอจะเดินออกจากโรงอาหารไป เหลือเอาไว้เพียงความอับอายและก่อเป็นปมใหญ่ภายในใจให้กับเขา
“ขอตัวนะคะ เชอร์เบลมีนัดกับพี่คาร์โลว”
คาร์โลวที่เธอเอ่ยถึงคือนักเรียนที่มีผลการเรียนดีเป็นอันดับสองรองจากเขา เพียงแต่คาร์โลวเกิดมาในครอบครัวที่มีครบสมบูรณ์แบบทุกอย่างแตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง ไม่แปลกที่เชอร์เบลจะมองหาคนระดับเดียวกัน คงเป็นเขาเองที่ไม่รู้จักเจียมตัว
หลังจากวันนั้นที่โดนเธอฉีกหน้า เขาก็ไม่สามารถแบกหน้ากลับไปยังโรงเรียนเดิมได้อีก สายตาของทุกคนที่จับจ้องมายังเขายังคงฝังใจความอับอายยังตราตรึงอยู่บนใบหน้า เขาจึงตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเดิมเพื่อเริ่มต้นใหม่ หลีกหนีสังคมจอมปลอมที่มีแต่คนอวดดี โดยไม่ลืมบาดแผลที่เธอสร้างให้เอาไว้ในใจ
ใบหน้าของเธอที่เย่อหยิ่งจะยังคงฝังใจเขาตลอดไปอย่างไม่มีวันลืม หากวันใดหวนคืนมาให้เขาได้มีโอกาสเอาคืน บอกเลยว่าเขาจะเอาคืนเธออย่างสาสม โดยไม่มีวันพลาดโอกาสไปอย่างแน่นอน…….