บทที่ 5
มารุตลอบมองใบหน้าคมสันของบุตรชายทั้งคู่ ซึ่งเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย- สเปน เขาได้ส่วนดีมาจากทั้งบิดาและมารดา จึงมีใบหน้าคมเข้มเปี่ยมเสน่ห์ด้วยกันทั้งคู่ มาร์คัสดูจะหล่อเหลาเสน่ห์ร้อนแรงกว่าน้องชาย เพราะนัยน์ตาระยับสีน้ำตาลเข้ม อาจจะเพราะมาริโอชอบทำหน้านิ่ง และนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาก็มักจะไม่แพรวพราวเหมือนกับพี่ชาย หากแต่มองนานๆ แล้วมาริโอกลับดูจะมีเสน่ห์ตรึงใจเสียยิ่งกว่าผู้เป็นพี่ชาย อาจจะเพราะความลึกลับ ชวนค้นหานั้นก็เป็นไปได้
ใบหน้าเรียวได้รูป คิ้วเข้มจรดหางตา นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ส่องประกายนิ่งสงบเหมือนกับบ่อน้ำเย็นเชียบอันลึกลับ จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากบางเฉียบ เขามีลักยิ้มที่มุมแก้มด้านซ้ายด้วย แต่ก็ไม่ค่อยมีใครได้เห็นนัก เพราะมาริโอไม่ค่อยยิ้มสักเท่าไหร่ ผมสีน้ำตาลตัดได้รูป ตอนนี้เริ่มยาวระต้นคอเล็กน้อย เพราะเจ้าตัวมัวแต่ยุ่งเรื่องธุรกิจ จนลืมสนใจตัวเอง แถมตอนนี้ยังมีสมาชิกใหม่ในบ้านไกรอนันต์เลิศเพิ่มมาอีกสองคน อาอย่างเขากำลังเห่อหลานชายสองคนจับใจ พอๆ กับพี่ชาย เรียกได้ว่าเย็นเมื่อไหร่ ก็ต้องรีบกลับบ้านไปหาหลาน จนพ่อแท้ๆ อย่างมาร์คัสบางทีก็ต้องนึกโมโห ที่น้องชายตัวดีทำท่าจะแย่งทำหน้าที่พ่อเอา แล้วทำท่าจะเตะมาริโอเสียด้วย ข้อหาสนิทสนมกับละอองดาวพี่สะใภ้จนแทบจะเกินความจำเป็น ที่หาของบำรุงและตำราหลังคลอดไปให้ภรรยาสาวคนสวยของเขาบ่อยๆ
“เย็นนี้ผมจะให้แม่ครัวทำยำหัวปลี กับไก่ผัดขิงเป็นอาหารมื้อเย็นนะครับ บอกพี่ไว้ก่อน เพราะว่าพี่ไม่ชอบกินขิงแล้วก็หัวปลี เผื่อจะสั่งให้ป้าเอมทำอย่างอื่นเพิ่ม”
“ทำไมต้องสั่งทำอะไรที่พี่ไม่ชอบด้วยล่ะ จะแกล้งกันหรือยังไงวะริโอ”
มาร์คัสขมวดคิ้ว เพราะร้อยวันพันปีน้องชายไม่ค่อยยุ่งกับรายการอาหาร ที่จะทำขึ้นโต๊ะในแต่ล่ะมื้อสักเท่าไหร่ วันนี้กลับไปบอกแม่ครัวเสร็จสรรพ แถมเป็นของที่เขาไม่ชอบเอาเสียด้วย ขณะที่ผู้เป็นน้องชายยิ้มน้อยๆ มองหน้าพี่ชายด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะแสร้งหลุบลงทำงานในมือของตนเองต่อ
“ผมสั่งให้กับพี่สะใภ้เป็นพิเศษต่างหากล่ะครับ อาหารเรียกน้ำนม ให้กับตาเกล กับตาแกรนด์ต่างหากครับพี่ ไม่ได้แกล้งพี่เสียหน่อย”
“นายจะมายุ่งอะไรกับนมเมียพี่วะ”
คำพูดโพล่งๆ แบบไม่พอใจของมาร์คัส ทำให้ทั้งมารุตและมาริโอถึงกับขำพรืดออกมาพร้อมๆ กันทันที ขณะที่คนพูดดูหน้าตาเคร่งขมึงเพราะความโมโหหึง มารุตหัวเราะก๊ากแล้วปรามบุตรชายคนโตเสียงทุ้ม
“ใจเย็นสิมาร์คัส น้องมันหวังดีกับหลานกับพี่สะใภ้ แกจะหึงอะไรกับริโอวะ ถ้าไม่ได้น้องมันนี่ แกจะได้เมียหรือเปล่าก็ไม่รู้ ป่านนี้แกคงจะถูกป้ามัลของจับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ประเคนหนูแพทไปแล้ว”
บิดาท้าวความหลัง ทำให้มาริโอถึงกับอมยิ้ม ส่วนมาร์คัสมีสีหน้าพิกล แล้วกระแอมออกมาเบาๆ เมื่อรู้ตัว จนชักจะรู้สึกเขิน ที่ตัวเองขี้หึงมากเกินไปหน่อย
“แหม...ไม่ได้อะไรมากหรอกครับพ่อ ก็รู้อยู่ว่านายริโอหวังดี พี่ว่านายหาเมียเป็นของตัวเองสักคนไหมริโอ นายยุ่งกับเมียพี่กับลูกพี่เหลือเกินพักนี้”
ประโยคหลังอดหันมาแขวะน้องชายไม่ได้ มาริโอยิ้มกริ่ม พลางยักไหล่ แล้วส่ายหน้าน้อยๆ
“เสียใจครับ ผมคงไม่มีเวลาไปหาหรอกนะมาร์คัส จะยุ่งกับน้องดาว แล้วก็หลานๆ ของผมต่อไปนี่แหละครับ”
“พ่อครับ”
บุตรชายคนโตหันไปหาบิดาเหมือนกับว่าจะฟ้อง ท่านหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบเสียงขรึมๆ
“ช่วยไม่ได้จริงๆ แหะ พ่อเองก็สารภาพตามตรง ว่าหลงรักเมียแกแล้วก็ลูกแกมากพอๆ กับริโอมันนั่นแหละ แกจะหึงพ่ออีกคนหนึ่งด้วยไหม”
“โธ่...”
มาร์คัสถึงกับถอนหายใจ เมื่อไม่มีคนเข้าข้าง เขาและบิดานัดกันมาหาน้องชายวันนี้ที่บริษัท อสังหาริมทรัพย์ของมาริโอ เพื่อจะรับพ่อเจ้าประคุณกลับบ้านพร้อมๆ กัน และแสดงความยินดีกับมาริโอด้วย ที่ได้รับเลือกให้รับรางวัล ในฐานะธุรกิจหนุ่มไฟแรง จากนิตยสารผู้ชายหลายฉบับ รวมถึงหนังสือของเขาด้วย ที่จัดอันดับนักธุรกิจหนุ่มในฝันของสาวๆ ไว้ น้องชายของเขาได้รับอันดับหนึ่งถึงสองเล่มซ้อน ยิ่งการันตรีความฮอตของเจ้าตัว ซึ่งดูเหมือนว่าชายหนุ่มที่ได้รับรางวัล จะไม่สนใจอะไรเลยทั้งสิ้น นอกจากงานล้วนๆ
สามหนุ่มต่างวัยพูดคุยกันอีกสักพัก ก่อนที่มาริโอจะยอมเลิกงานในที่สุด เขาสั่งงานกับเลขานุการไว้ แล้วเดินตามบิดาและพี่ชายไปยังลานจอดรถ เขาถูกต้อนให้ไปขึ้นรถของบิดา เพราะกำลังพูดคุยกันอย่างติดลม นานครั้งหรอกจะพร้อมหน้าครอบครัวแบบนี้ เนื่องจากต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ โดยเฉพาะมาริโอ ซึ่งพักนี้แทบจะไม่ได้เห็นหน้าคนในครอบครัว เนื่องจากเขากำลังโหมงานอย่างหนัก
“นายไม่มีเวลาหาจริงๆ น่ะเหรอริโอ”
ผู้เป็นพี่ชายยังคงชวนคุยต่อ เรื่องเกี่ยวกับหัวใจของมาริโอ ชายหนุ่มมองหน้าคมสันของมาร์คัส ก่อนจะหัวเราะหึๆ
“พี่ถามทำไมหรือครับ จะอาสาหาให้ผมหรือยังไงกัน”
“อยากได้แบบไหน คัพไหน หุ่นแบบไหน จัดให้ว่ะ”
คำพูดของมาร์คัส ทำให้น้องชายส่ายหน้า แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นี่พี่จะช่วยผมหาแม่ของลูก หรือว่าแค่คู่ควงธรรมดาๆ ล่ะครับ”
“นายจริงจังเกินไปวะริโอ รีแล็กซ์บ้างสิน้องชาย”
เขาตบบ่าหนาของมาริโออย่างหยอกๆ รถแล่นถึงบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวไกรอนันต์เลิศพอดี มาร์คัสยังเอ่ยทิ้งท้ายเสียงทุ้ม
“ถ้างานมันเครียดนัก ก็หาอะไรทำคลายเครียดบ้างเถอะริโอ พี่กลัวเงินจะทับนายตายว่ะ มีเงินเยอะแต่ไม่มีความสุข ชีวิตมันจะมีสีสันอะไรวะ นายน่ะหาความสุขให้กับชีวิตบ้าง อย่าให้ลิก้ามาทำให้ชีวิตของนายเสียหายสิวะ”
คำเอ่ยถึงชื่อของใครบางคน ทำให้ใบหน้าคมสันนั้นเผือดลงไปนิด มาริโอนิ่งเงียบไปเลยทันที บิดาที่ได้ยินบุตรชายคนโตเอ่ยคำพูดแทงใจน้องชายก็กระแอมเสียงเบาๆ ก่อนจะเอ่ยชวนพูดคุยเรื่องอื่น เพราะดูท่าว่าบุตรชายคนรอง ชักจะเริ่มเครียดเสียแล้ว
“ไปพูดถึงยัยนั่นทำไมน่ะมาร์คัส ริโอเป็นคนจริงจังมาก แกก็รู้ไม่ใช่หรือยังไงกัน”
บิดาเอ่ยเบาๆ กับบุตรชายคนโต หลังจากที่พวกเขาอยู่ในคอร์ทซึ่งจัดสวนแบบสเปน มีพรรณไม้ดอกและไม้ประดับปลูกไว้ให้ความสดชื่น แสงจันทร์กำลังสาดส่อง ลมยามดึกพัดมาอ่อนๆ บรรยากาศดีและสดชื่นนัก พวกเขาทั้งครอบครัว เมื่ออิ่มอาหารเย็นแล้ว จึงมานั่งหย่อนใจ และพูดคุยสนทนากันตามประสาครอบครัว บนตักของมาร์คัสมีเด็กทารกตัวกลมป้อม นอนเอกเขนกอยู่บนนั้น พ่อหนูน้อยหน้าตาน่ารักน่าชัง กำลังนอนดูดนิ้วมองผู้เป็นปู่ตาแป๋ว ฝาแฝดคนน้องที่หน้าตาเหมือนกับถอดพิมพ์กันมาจากแฝดพี่ ตอนนี้กำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่กับผู้เป็นอา โดยมีละอองดาว ภรรยาของเขานั่งอยู่ด้วย
“รู้สิครับ ถึงขั้นมาขอแหวนหมั้นจากพ่อ หมอนั่นรักจริงหวังแต่งเลยล่ะ ธรรมดาที่ไหนกัน”
มาร์คัสถอนใจน้อยๆ แล้วเอ่ยตอบเป็นเสียงกระซิบ เพราะไม่อยากให้น้องชายได้ยิน ตอนนี้ที่นั่งของเขาและบิดา ห่างจากมาริโอและละอองดาวพอสมควร หน้าตาเขาบึ้งตึงเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยหวาน ของอดีตคนรักของน้องชาย คนที่ทำให้มาริโอกลายเป็นหนุ่มนิ่งเฉย มึนชาเรื่องความรักเลยก็ว่าได้ เพราะว่าหลังจากทรรศิกาแล้ว น้องชายของเขาก็ไม่เคยคบหาใครอีกเลย แม้แต่จะควงเล่นๆ ก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ นี่ก็เกือบสองปีแล้ว จนถึงขั้นว่าเขานึกเป็นห่วง ว่าน้องชายตัวดีอาจจะกลายเป็นพวกเย็นชาทางเพศ เสื่อมสรรถภาพทางเพศไปเลย
“นี่ถ้าแกไม่แต่งงาน แล้วมีสองหน่อนี่ขึ้นมา พ่อคงจะเครียดเรื่องที่จะหวังเรื่องทายาทสืบตระกูลของเราไปแล้วนะ มาร์คัส เพราะแกมันก็คาสโนว่า ส่วนน้องชายก็กลายเป็นคนเย็นชา คงจะไม่มีวี่แววได้หลาน พ่อยังตกใจตอนที่แกแต่งงาน หึๆ ว่าไงหลานปู่ ยิ้มเก่งจริงๆ เราน่ะ”
ประโยคหลังทักทายทารกน้อย ที่ยิ้มให้กับเขาหน้าเป็นเลยทีเดียว จนอดเอื้อมมือหยิกแก้มยุ้ยๆ เป็นพวงนั่นไม่ได้ มาร์คัสถอนใจอีกเฮือก นึกสงสารน้องชายไม่ใช่น้อยเหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรเล่า เรื่องของหัวใจมันพูดกันยากนัก ยิ่งให้ลืมเรื่องราวความหลังเกี่ยวกับความรักอันบอบช้ำ มันก็ยิ่งยากหนัก มาริโอเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่องในชีวิต ซึ่งรวมถึงเรื่องนี้ด้วย ฉะนั้นเวลาที่เจ็บปวดจึงน่าจะอาการหนักมาก
“เราหาแฟนให้นายริโอสักคนดีไหมครับพ่อ นี่ถ้ายังไม่เข็ดเรื่องยายแพท ผมก็จะเสนอน้องสาวคนนี้อยู่หรอกครับ เพราะดูว่าจะเหมาะกับนายริโอ หมอนั่นดูน่าจะชอบสาวพยศหน่อยๆ ร้ายนิดๆ”
“ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิตเถอะน่า” มารุตว่า “ดูขนาดเสือร้ายอย่างแกท่านยังปราณีให้มีคู่ แล้วน้องชายของแก นิสัยดีกว่าแกตั้งหลายเท่า ท่านก็คงจะประทานคู่มาให้บ้างหรอกน่า”
“โถ...พ่อครับ”
อดีต ‘เสือร้าย’ถึงกับทำหน้าเจื่อน ตอนที่บิดาว่าให้แบบนั้น ตอนนี้เขาถอดเขี้ยวถอดเล็บหมดแล้ว กลายเป็นแมวเหมียว ร้องหง่าวๆ แทนเสือร้ายดั่งเดิม ตั้งแต่มีละอองดาวมาแนบข้าง เขารายงานตัวกับเธอทุกวันในช่วงบ่าย ถามเกี่ยวกับเรื่องลูกน้อยและตัวเธอ กลับมากินข้าวเย็นที่บ้านทุกวัน ติดภรรยาและลูกเอามากๆ ลืมผู้หญิงคนอื่นๆ ไปเสียสนิทใจ แม้แต่เจอนางแบบมาแก้ผ้ายั่ว อดีตคาสโนว่าอย่างเขายังเฉยๆ แถมยังไล่เจ้าหล่อนออกไปจากห้องเสียด้วยซ้ำ เขารักละอองดาวและลูกแฝดจนหมดหัวใจ ไม่ยอมเผื่อแผ่ให้ใครคนไหนได้มาแทรกซึมอีกเลย
นัยน์ตาคมวับปรายมองดูน้องชาย ที่กำลังนั่งคุยกับภรรยาคนสวยของเขาอย่างออกรส แม้แต่เสือร้ายอย่างเขาพระเจ้ายังให้โอกาส แล้วกับน้องชายของเขาเล่า ท่านจะให้โอกาสบ้างไหมหนอ ถ้าจะยังไงเขาอยากให้มาริโอเจอผู้หญิงแสนดี น่ารักแบบที่เขาเจอ แม้เธอจะพยศนิดๆ ดื้อหน่อยๆ แต่ก็น่ารักนักหนา อย่าส่งผู้หญิงร้ายๆ มาให้น้องชายต้องปราบพยศจนเหนื่อยเลย