บทย่อ
แม่มดสาวแสนสวย จอมร้ายกาจ คาสโนวี่ติดอันดับอย่างธารพิมพ์ ต้องมารับภารกิจจากบิดา ในการเป็นสปายล้วงควักข้อมูลลับๆ จาก ซีอีโอหนุ่มสุดหล่อ เจ้าของรางวัลนักธุรกิจในฝันของสาวๆ อย่างมาริโอ ไกรอนันต์เลิศ แผนนี้ทำท่าว่าจะง่ายดาย แต่แล้วเธอก็ต้องเจอะเจอเข้ากับอุปสรรคชิ้นโต นั่นก็คือเจ้านายของเธอคนนี้ ตายด้าน! ราวกับภูเขาน้ำแข็ง มาริโอ ชายผู้เย็นชาและเมินหน้าหนีความรัก ยิ่งกับผู้หญิงที่มีฐานะเป็นพนักงานด้วยแล้ว เขายิ่งตั้งปณิธารไว้เลยว่า สมภารย่อมไม่กินไก่วัด! แต่แม่ไก่วัดจอมยั่ว ยั่วทั้งโมโห ยั่วทั้งน้ำลาย...เขาจะทนไหวไหม ที่จะไม่จับเธอมาขย้ำ กินกลืนเข้าไปทั้งเนื้อทั้งตัว “ปล่อยได้แล้วค่ะเจ้านาย” เสียงหวานพึมพำอุบอิบ เมื่อเห็นว่าทรรศิกากลับไปได้สักพักแล้ว หากแต่อ้อมแขนอุ่นร้อนยังไม่ยอมปล่อยเธอโดยง่าย ไหนจะใบหน้าคมสันนั่นอีกเล่ามันยังคงซุบซบกับซอกคอนุ่มหอม แล้วจมูกโด่งก็เริ่มสูดซับความหอมกรุ่นของกลิ่นกายสาว เสียงกระซิบกระเส่าเบาๆ แนบบริเวณนั้น ทำให้ธารพิมพ์ถึงกับขนลุกซู่ “คุณหอมจังเลย คุณพิมพ์” “เจ้านาย...อะไรกันคะเนี่ย” “ผมอยากจูบคุณ”
บทที่ 1
“คุณว่าอะไรนะ แทม”
เสียงทุ้มของคนตรงหน้าอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ ขณะที่หญิงสาวตรงหน้าเขามองมาด้วยสายตาเย็นเยียบ เหมือนกับว่าไม่เคยรู้สึกอะไรกับเขาเลยสักนิด หญิงสาวยักไหล่ แล้วเอ่ยเน้นด้วยน้ำเสียงย้ำชัด เน้นหนัก บาดใจคนฟังให้ขาดริ้วไม่มีชิ้นดี
“บอกชัดๆ อีกทีก็ได้นะคะ แทมอยากเลิกกับคุณค่ะ คุณยุทธ อ้อ...ต้องบอกว่าแทมเบื่อคุณแล้วล่ะค่ะ คุณอย่ามายุ่งกับแทมอีกเลย อีกอย่างหนึ่งนะคะ แทมหวังว่าคุณคงจะไม่เอาไปพูดบอกกับใครต่อใคร ว่าแทมเป็นอะไรกับคุณ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แม้แต่เพื่อน แทมว่าก็อย่าเลยค่ะ เพราะว่าคุณคงจะเกลียดแทมไปแล้วล่ะ”
ยุทธนาถึงกับอ้าปากค้าง กับสิ่งที่ตนเองได้ยิน พลางมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเจ็บช้ำ
ให้ตายเถอะ! มีคนเคยเตือนเขาแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นยังไง แต่ทำไมเขาไม่ฟังเลยนะ ยายแม่มดตัวแสบธารพิมพ์ ทำให้หัวใจเขาแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ เสียแล้ว
เขามองดูใบหน้าสวยเฉี่ยวของคนตรงหน้า ใบหน้ารูปไข่ที่ประกอบไปด้วย นัยน์ตากลมโตหวานฉ่ำสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งปลายรั้นเชิดนิดๆ ริมฝีปากอิ่มเต็ม โหวเฮ้งบ่งบอกว่าเจ้าหล่อนเป็นทั้งคนดื้อและมั่นใจในตนเอง ผมของเธอตัดสั้นเป็นทรงบ็อบเททันสมัย ทำสีน้ำตาลแดงยิ่งทำให้ใบหน้านั้นใสสว่างมากยิ่งขึ้น เธอเป็นคนสวย สวยมากเสียด้วย แต่ก็เลือดเย็นและเป็นยายตัวร้ายที่ไม่น่าพาตัวและหัวใจเข้าไปใกล้ แล้วตอนนี้ กว่าเขาจะรู้ตัวว่าเผลอลองเล่นกับไฟสีสวยอันตรายอย่างธารพิมพ์ หัวใจก็ถูกลวกจนไหม้ไปเสียแล้ว
“ลาก่อนนะคะ เราคงจะกินข้าวเย็นมื้อนี้ไม่อร่อยกันแล้ว”
มือเรียวล้วงกระเป๋าเงิน แล้ววางแปะธนบัตรไว้บนโต๊ะเป็นค่าอาหารของเธอ ก่อนที่ร่างระหงแสนเซ็กซี่ หุ่นอวบอัดยั่วยวนใจในชุดแซกสั้นยี่ห้อหรู ก็เดินจากเขาไปอย่างไร้เยื่อใย ทิ้งให้ยุทธนามองตามด้วยสายตาเจ็บปวด ก่อนจะกำกำปั้นทุบลงกับโต๊ะแรงๆ
แค้นนัก... แต่คงจะทำอะไรเจ้าหล่อนไม่ได้ถนัด นั่นก็เพราะนามสกุล ศิริไกร ที่เจ้าหล่อนใช้อยู่ มันบอกเตือนกลายๆ ว่า ถ้าไม่อยากเดือนร้อน ก็จงอย่าทำให้คุณหนูทายาทคนเดียวของศิริไกรต้องอารมณ์เสีย เพราะอาจจะถึงคราวซวยเอาได้
ยุทธนาได้แต่โทษตัวเอง ที่พาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแม่สาวแสนสวย หากแต่แสบเข้าไส้อย่างธารพิมพ์เอง หาเรื่องปวดหัวใจให้กับตัวเองแท้ๆ เลยหนนี้ เมื่อเผลอไปมีใจกับแม่มดร้ายธารพิมพ์ หัวใจก็ต้องเจ็บปวดอย่างไม่มีชิ้นดี เขาอยากจะให้มีคนมาปราบพยศแม่สาวตัวร้ายนี่ได้สักหนจริงๆ แล้วเมื่อวันที่เขาเห็นเธอซมซานเพราะความรัก เขาจะหัวเราะเยาะเธอให้สะใจเลยทีเดียว
.......
“อืม...คนน่ารำคาญแบบนั้นน่ะ ไม่ไหวหรอกย่ะ เอาใจเราทุกอย่าง ไม่เคยขัดใจเลย ได้ครับๆ ตลอด เบื่อ...รำคาญ ไม่ตื่นเต้น ไม่มีรสชาติอะไรเลย”
เสียงหวานๆ บ่นพึมพำกับเพื่อนที่อยู่ปลายสาย ก่อนจะทำหน้ามุ่ยนิดๆ เมื่อนึกถึงยุทธนา ผู้ชายที่เธอลองคบหาดูด้วย จะเรียกว่าลองคบ หรือว่าลองหยั่งเชิงปั่นหัวเขาดูกันนะ แม่สาวตัวแสบคิดในใจพลางอมยิ้ม เธอได้ยินกิตติศัพท์หนุ่มไฮโซคนนี้มานานว่า เป็นหนุ่ม หล่อ รวย เลือกได้ คาสโนว่าคนหนึ่งของวงสังคมเลยเช่นกัน เธอเจอเขาในงานปาร์ตี้ของเพื่อนสนิท หลังจากที่กลับมาเมืองไทยได้ไม่กี่อาทิตย์ เพียงแค่เห็นเขามองจ้องเธอด้วยสายตาราวกับจะกลืนกิน กับกิตติศัพท์อันร่ำลือของยุทธนา แถมท้ายด้วยเขากำลังคั่วอยู่กับสาวไฮโซที่เป็นอริกับเธอ มันก็ทำให้ธารพิมพ์อยาก ‘ลองของ’ อีกฝ่ายดูว่าจะแน่สักแค่ไหน
“โหย...แบบนี้คุณยุทธไม่เศร้าตายเลยหรือยังไงกันน่ะ แทม น่าสงสารเขาออกนะ”
“ถ้าเธอสงสาร ก็ไปอาสาดามอกให้เขาสิยะ ยายอะตอม รับรองได้ว่าเธอจะได้เค้ามาเป็นแฟนแบบเร็วมากๆ ผู้ชายกำลังอกหัก โดนผู้หญิงบอกเลิก ถ้ามีคนให้ความสนใจล่ะก็ เปอร์เซ็นต์ที่เธอจะได้ใจเค้ามาน่ะ ง่ายมากๆ แทมขอการันตรีเลย”
“ไม่ไหวล่ะมั้ง”
ปลายสายถึงกับหัวเราะกิ๊ก เมื่อคิดถึงความเป็นจริง ข้อที่ว่าขืนเธอไปทำอย่างที่ธารพิมพ์แนะนำ ยุทธนาคงจะได้กระโดดถีบเธอเข้าแน่ๆ ด้วยข้อหาที่ว่าเป็นเพื่อนกับธารพิมพ์ อนัญญารู้ดีว่าเพื่อนรักของตัวเองแรงมากขนาดไหน ในการพูดจาตัดสัมพันธ์กับผู้ชาย ที่ธารพิมพ์คิดว่าอีกฝ่ายหมดความน่าสนใจแล้ว
ธารพิมพ์เป็นคนสวยมาก และมั่นใจในตัวเอง เสน่ห์อันร้อนแรงของเพื่อนสนิท มักจะทำให้มีชายหนุ่มมารุมล้อมอยากทำความรู้จัก และอยากจะพิชิตใจเธอ แต่ธารพิมพ์มักจะเห็นว่าพวกเขา เป็นเหมือนของเล่นสนุกอย่างหนึ่งในการปั่นหัว และทดสอบเสน่ห์ของตนเอง สาวร้ายอย่างธารพิมพ์เป็นคุณหนูแสนเอาแต่ใจตัว และเป็นคนร้ายกาจนิดๆ แบบนี้ อาจจะเพราะถูกเลี้ยงดูมาโดยบิดาอย่างธัญก็เป็นได้ โบราณเคยบอกว่าดูช้างให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูที่แม่ แต่หนนี้คนที่ทำให้ธารพิมพ์นิสัยแย่ อาจจะเป็นเพราะบิดาของเธอก็เป็นไปได้
“แล้วแทมไม่กลัวหรือยังไงกันนะ ไปทำผู้ชายเสียใจมากๆ ระวังเหอะ กรรมจะสนองเอานะจ๊ะ เวลาถ้าเกิดแทมไปรักใครสักคน แบบจริงจัง รักมากๆ ระวังว่าเค้าจะทำแบบนี้กับแทมนะ”
คำเตือนของเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียว ที่ทนคบแม่ตัวร้ายได้จนตลอดรอดฝั่ง หาได้ทำให้เจ้าหล่อนได้คิดอะไรไม่ ธารพิมพ์ทำหน้าเชิด พร้อมกับยักไหล่ ก่อนจะโต้ตอบเพื่อนรักไปอย่างไม่ยี่หระ
“ไม่มีทางหรอกน่าอะตอม คนอย่างคุณหนูแทม ไม่มีทางจะพ่ายแพ้หรอกย่ะ ถ้าเรารักใคร คนๆ นั้นก็ต้องรักตอบเรา แล้วก็ยอมเราทุกอย่าง คุณหนูแทมไม่ได้ถูกสร้างมาให้อกหักนะจ๊ะ มีแต่หักอกคนอื่น”
ฟังเพื่อนรักหลงตัวเองสุดๆ แล้ว อนัญญาก็ได้แต่ถอนใจอย่างปลงๆ แม้จะขาดๆ เกินๆ น่าหมั่นไส้ไปบ้าง แต่ธารพิมพ์ก็ยังมีมุมที่ดีๆ อยู่ในตัวบ้าง ทำให้คบหาเพื่อนคนนี้มาได้ยาวนาน ตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง จนจบการศึกษา และต่อยอดมาคบหากันจนปัจจุบัน มีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ธารพิมพ์ไปเรียนต่อที่เมืองนอกก็ยังติดต่อกันไม่ขาด อาจจะด้วยนิสัยคุณหนูเอาแต่ใจ แบบสุดโต่งของธารพิมพ์ ทำให้เธอไม่มีเพื่อนสนิทเลยสักคน จะมีก็แต่อนัญญาคนเดียวเท่านั้นก็ว่าได้
ความที่ธารพิมพ์สวย รวย และมีเสน่ห์ล้นเหลือ จึงทำให้เธอมีแต่ผู้ชายที่พยายามเข้าตีสนิท ให้ความสนใจกับเธอก็เป็นไปได้ ถึงได้ทำให้ถูกเพศเดียวกันเขม่น ไม่ชอบหน้า บางคนก็หลอกคบกับเธอเพราะผลประโยชน์ เนื่องจากธารพิมพ์เป็นคนใจป้ำ และทุ่มเทไม่อั้นให้กับเพื่อนๆ เสมอ พอมารู้ทีหลังก็ยิ่งทำให้ธารพิมพ์ยิ่งระแวงไม่ไว้ใจคน และยิ่งร้ายกาจมากยิ่งขึ้น
ยิ่งทำให้ธารพิมพ์เป็นคนหยิ่ง เอาแต่ใจ แล้วเชิดมากยิ่งขึ้น อนัญญาเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่คบหากับเธอ และเธอก็นับเป็นเพื่อนรักที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะอีกฝายไม่เคยอิจฉา หรือว่า หลอกใช้เธอเลยแม้แต่หนเดียว ความจริงใจของอนัญญา ทำให้คุณหนูแทมผู้แสนร้ายกาจ ยอมลดราวาศอกให้กับเธอเพียงแค่คนเดียว
“จ้าๆ จะทำยังไงก็เอาให้ตามสบายเลยค่ะ คุณหนูแทม แค่นี้ก่อนนะแทม เราต้องเตรียมเอกสารให้เจ้านายต่อ แอบคุยโทรศัพท์ในเวลาทำงานแบบนี้ เจ้านายรู้เข้า ซวยเลย”
“บอกให้มาทำงานกับป๊าเราก็ไม่เชื่อ เราจะขอเงินเดือนให้อะตอมเยอะๆ เลย สบายกว่าไปนั่งทำงานงกๆ กับตาเจ้านายขี้งกของเธออีกนะอะตอม”
“ เรากลัวจะไม่ได้ทำงาน เพราะต้องไปเป็นเพื่อนแทมช้อปปิ้งน่ะสิ ไม่เอาหรอก เกรงใจ แค่นี้นะจ๊ะเพื่อนรัก”
อนัญญาส่งเสียงจุ๊บเบาๆ แล้ววางสายไป ทิ้งให้ธารพิมพ์ย่นจมูกน้อยๆ ก่อนจะบ่นพึมพำอย่างขัดใจเล็กน้อย
“คอยดูนะ เดี๋ยวจะงอน ไม่ไปรับกินอาหารญี่ปุ่นกับเราด้วยเลย ยายอะตอมนี่ เห็นงานดีกว่าเพื่อน”
นาฬิกาข้อมือบอกเวลาว่ายังไม่เย็นมากนัก แต่วันนี้ธารพิมพ์ก็หมดสนุกที่จะไปที่ไหนอีกแล้ว เธอจึงตัดสินใจกลับบ้าน ไปกินข้าวเย็นที่บ้านบ้าง คงจะเป็นการรับประทานอาหารตามลำพังอีกตามเคย เพราะบิดาของเธอ ท่านไม่เคยกลับบ้านก่อนพระอาทิตย์ตก
รถสปอร์ตสุดหรูสีแดงจ้า เลี้ยวเข้าไปในคฤหาสน์หลังงามของครอบครัวศิริไกร ยามหน้าประตูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นคุณหนูของบ้านกลับมาในเวลานี้ หลังจากจอดรถแล้วเรียบร้อย เด็กรับใช้ที่ถูกฝึกไว้อย่างดี ก็วิ่งปราดเข้ามาเปิดประตูให้กับเธอ พร้อมกับเอ่ยถามเสียงใส
“คุณแทมจะรับน้ำส้มคั้นเย็นๆ หรือว่าน้ำแตงโมดีคะ มีน้ำมะตูมด้วยนะคะ ป้าปิ่นทำไว้เมื่อวาน หวานเย็นชื่นใจอร่อยมากๆ เลยค่ะ”
“เป็นพนักงานร้านอาหารเก่าหรือยังไงกันนะ อ๋อม เจอหน้าทีไร ต้องบอกเมนูชวนชิมตลอด”
ธารพิมพ์แกล้งทำหน้าดุๆ แต่อีกฝ่ายหนึ่งรู้ทันเธอเลยได้แต่ยิ้มแป้นแล้นตอบ
“เห็นคุณหนูขับรถมาเหนื่อย ก็ต้องเสนอเมนูที่ทำให้ชื่นใจสิคะ”
“ขอบใจมากจ้ะ เอาเป็นน้ำส้มก็แล้วกัน แล้วบอกป้าปิ่นด้วยนะ ว่าวันนี้อยากกินอาหารไทย เดี๋ยวจะเข้าไปช่วยในครัว”
เธอยิ้มให้กับเด็กรับใช้ ที่ค้อมศีรษะให้เธอ ก่อนจะวิ่งปร๋อไปทำหน้าที่ของตนเองอย่างรวดเร็ว
ธารพิมพ์ถอนใจเฮือก เมื่อก้าวเข้าไปในบ้าน คฤหาสน์หลังงามที่ใหญ่โตและโอ่โถง การตกแต่งบรรจงวิจิตรให้ดูหรูหรา ราวกับอยู่ในปราสาทของขุนนางอังกฤษ มันให้ความรู้สึกว่าสวยงามเกินกว่าจะใช้ในชีวิตประจำวัน เหมือนกับว่าทุกสิ่งมีไว้เพื่ออวดฐานะความมั่งคั่งของเจ้าของบ้านเพียงเท่านั้น เนื่องจากผู้เป็นเจ้าของบ้าน แทบจะไม่ได้ใช้สอยจากพื้นที่ของบ้านอันใหญ่โตนี้สักเท่าไหร่นัก
เธออยู่ที่นี่มาจนอายุ 26 ปี แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่อบอุ่น ไม่เหมือนบ้าน เหมือนหอศิลป์มีชื่อเสียมากว่า ที่นี่เต็มไปด้วยของเก่า ของมีราคาตกแต่งไว้ ที่เพียงแห่งเดียวที่เธอรู้สึกว่ามันมีไออุ่นอยู่บ้าง นั่นก็คือห้องครัวของคฤหาสน์ศิริไกร และเรือนคนใช้ ซึ่งมีหญิงวัยกลางคนนามว่าปิ่น คอยให้ความอบอุ่น ความรักกับเธอ ราวกับว่าเธอเป็นลูกสาวของนาง
หญิงสาวเดินก้าวเร็วๆ ขึ้นไปยังชั้นสอง เพื่อเข้าไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดสุดเปรี้ยว กลายเป็นชุดสบายๆ เพื่อจะได้ไปช่วยปิ่นในครัว ถอดคราบจากคุณหนูสุดสวย เปรี้ยวจี๊ด เป็นหญิงสาวหน้าใสธรรมดาๆ ในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นง่ายๆ เดินแบบวิ่งพลางกระโดดพลางลงมาจากชั้นบน ใบหน้าสวยเฉี่ยวล้างเครื่องสำอางออกจนหมดจด ตอนนี้ดูสวยใสเหมือนเด็กสาวแรกรุ่น ล้างคราบคุณหนูไฮโซแสนเชิดที่ทุกคนรู้จัก ไปเป็นผู้หญิงหน้าใสหวานน่ารัก ดูไม่มีพิษมีภัยใดๆ ทั้งสิ้น