บทที่ 2
“ป้าปิ่นขา แทมอยากกินข้าวผัดทะเล กับแกงจืดตำลึงหมูสับ”
เสียงหวานเอ่ยดังขึ้นมาก่อนตัว ทำให้คนที่กำลังสาละวนอยู่หน้าเตายิ้มน้อยๆ พลางเอ่ยตอบเธอด้วยน้ำเสียงเอื้อเอ็นดู
“จัดการเองเลยค่ะ คุณหนู ป้ากำลังทำตุ๋นไก่ดำให้กับคุณผู้ชายอยู่”
“ป้าปิ่นใจร้าย รักป๊ามากกว่าหนู แทมอยากกินฝีมือป้าปิ่นนะคะ ป้าปิ่นทำอร่อยที่สุดในโลกเลย”
เธอตรงเข้าไปกอดรอบร่างท้วมๆ อย่างประจบประแจง ปิ่นถึงกับยิ้มกว้าง ก่อนจะเอ่ยห้าม
“ป้ากำลังทำกับข้าวอยู่ค่ะคุณหนู เดี๋ยวน้ำแกงจะหกใส่เอานะคะ หั่นของเตรียมไว้เลยค่ะ เดี๋ยวป้าทำให้กิน”
ตอนนี้ในครัวเหลือเพียงแค่ธารพิมพ์ และปิ่นเพียงแค่สองคนเท่านั้น เหมือนว่าเด็กรับใช้คนอื่นจะรู้ใจ ว่าธารพิมพ์เวลาเข้าครัวอยู่กับปิ่นแล้ว อยากจะอยู่ด้วยกันตามลำพัง จึงพากันไปทำงานอื่นเสียหมด
ทั้งสองคนคุยกันกระหนุงกระหนิงและทำครัวไปพลางอย่างมีความสุข ธารพิมพ์ไม่ได้ให้ตั้งโต๊ะที่ห้องรับประทานอาหารเหมือนทุกวัน เธอเลือกที่จะให้เด็กปูเสื่อให้ตรงสนามหลังบ้าน ซึ่งมีสวนกุหลาบปลูกไว้กำลังออกดอกสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ สวนกุหลาบนานาพันธุ์นี้บิดาสั่งให้คนปลูกเพื่อเอาใจลูกสาวคนเดียว ในวันครบรอบวันเกิดอายุยี่สิบห้าปีของธารพิมพ์ บางต้นเป็นกุหลาบพันธุ์หายากจากเมืองนอกซึ่งมีราคาแพงมาก ท่านสร้างเรือนกระจกไว้สำหรับพวกกุหลาบเมืองหนาวดอกใหญ่ และมีต้นกุหลาบที่ผสมเพื่อเธอเป็นพิเศษ ซึ่งท่านได้จ้างนักผสมพันธุ์กุหลาบชื่อดัง ทำเป็นเฉพาะให้เธอในโอกาสพิเศษแบบนี้ เป็นกุหลาบสีโอโรสตรงปลายกลีบดอบเป็นสีชมพูเข้มสวย เจ้ากุหลาบต้นนี้มันจะออกดอกแต่ในวันสำคัญๆ วันพิเศษของเธอเสมอๆ และดอกของมันก็จะถูกตัดไปปักแจกันให้เธอเมื่อมันออกดอก เหมือนกับจะเป็นของขวัญให้แก่ธารพิมพ์
“อร่อยมากๆ เลย ฝีมือของป้าปิ่นอร่อยที่สุดเลยค่ะ”
คนพูดตอนนี้อิ่มเรียบร้อยแล้ว และกำลังนอนเอกเขนกอยู่บนตักของปิ่น นางหยิกที่แขนของหญิงสาวเบาๆ เจ้าตัวร้องโอดครวญอย่างน่าสงสาร
“เจ็บนะคะป้าปิ่น มาหยิกแทม เดี๋ยวแทมฟ้องป๊านะคะ”
“กินแล้วนอนแบบนี้ ใช้ได้ที่ไหนกันคะคุณหนู เดี๋ยวเกิดชาติหน้าก็เป็นงูหรอกค่ะ”
“ชาติหน้าแทมไม่มาเกิดแล้วล่ะค่ะป้าปิ่น เบื่อแล้วล่ะค่ะ ชาตินี้ไม่ค่อยทำบุญด้วย ทำแต่บาป คงจะได้ไปชดใช้กรรมที่อื่นมากกว่า”
หนนี้คนปากดีเลยโดนตีดังเพี้ยะ จนต้องร้องโอ๊ย! ออกมาเพราะเจ็บจริงๆ หนนี้
“ป้าปิ่น เจ็บนะคะ อูย...”
“ดูพูดจาเข้าสิคะ คุณหนูแทมนี่ ไม่ดีค่ะไม่ดี ใครเค้าให้พูดแบบนี้กันละคะ”
ปิ่นมองใบหน้าเนียนหวานที่หนุนตักอยู่อย่างปรามๆ ขณะที่ธารพิมพ์ย่นจมูก ก่อนจะพูดเสียงอ่อย
“แหม...ก็จริงๆ นี่คะ วันนี้แทมก็เพิ่งจะไปทำบาปมานะคะป้าปิ่น”
“แน้...ไปทำอะไรมาคะคุณหนู”
“หักอกผู้ชายมาน่ะค่ะ”
คำตอบของธารพิมพ์ ทำให้ปิ่นถึงกับหัวเราะกิ๊ก ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ พลางเอ่ยเสียงอ่อนโยน
“คุณหนูนี่ล่ะน้า บาปกรรมเหมือนกันนะคะ ไปหลอกให้เค้ารักแล้วทำให้เค้าเสียใจนี่ ถ้าไม่รักไม่ชอบก็อย่าไปยุ่งกับเขาสิคะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ก็ใครใช้ให้อยากลองของล่ะค่ะ แทมก็เลยจัดการเสียเลย เสือผู้หญิงจ๋อยไปเลยล่ะค่ะป้าปิ่น สมน้ำหน้า อยากมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองดีนัก”
“คุณหนูไม่คิดจะช่วยคุณท่านทำงานที่บริษัทบ้างหรือคะ กลับมาได้สักพักหนึ่งแล้วแบบนี้ พักนี้คุณท่านดูเหนื่อยๆ มาก น่าจะอยากได้คนไปช่วยทำงาน”
นางเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เหมือนจะรู้ว่าธารพิมพ์ชอบนักในเรื่องนี้ ชอบแกล้งผู้ชายที่มาหว่านเสน่ห์กับเธอ แต่แม้ว่าคุณหนูของนางจะดูเป็นผู้หญิงแรงและร้ายกาจมากขนาดไหน แต่ลึกๆ แล้วธารพิมพ์เป็นเช่นไร นางรู้ดีที่สุด ธารพิมพ์เป็นคนมีปมด้อย และขาดความอบอุ่นมาก บางอย่างที่ทำก็เหมือนประชดประชัน ลึกๆ ธารพิมพ์โหยหาความรักเป็นอย่างมาก
ความรัก...ที่เจ้าตัวอยากได้การเติมเต็ม แม้จะพยายามทำเหมือนกำลังล้อเล่น และไม่เคยเชื่อถือกับรักแท้เลยก็ตามที
“แทมก็อยากจะเสนอตัวไปช่วยป๊านะคะ แต่ว่าหน้าป๊าแทมยังไม่ค่อยเจอเลยค่ะ แทมตื่นตอนป๊าไปทำงาน แทมนอนตอนป๊ายังไม่กลับ หรือไม่บางทีแทมกลับมาป๊าก็หลับไปแล้ว เวลาของเราไม่ตรงกันเลยสักทีนะคะป้าปิ่น นี่ตั้งแต่แทมกลับมาจากแอลเอ ก็เจอหน้าป๊านับครั้งได้ คุยแทบจะนับประโยคได้เลยนะคะ”
เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายหัวใจ ก่อนจะหลับตาพริ้มเอาเสียดื้อๆ เหมือนกับจะซ่อนความอ่อนแอไว้ ปิ่นลูบเรือนผมสั้นนิ่มสลวยเบาๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คุณท่านรักคุณหนูนะคะ บ่นถึงคุณหนูบ่อยๆ ตอนที่คุณหนูไปเรียนต่อ ท่านเปิดอินเตอร์เนตให้ป้าดูรูปคุณหนูบ่อยๆ เอ...เค้าเรียกโปรแกรมอะไรหนอ ที่คุณหนูไปบอกความเคลื่อนไหวของตัวเองน่ะค่ะ ที่บอกว่าวันนี้ไปที่ไหนบ้าง หรือว่าไปเที่ยวที่ไหน มีรูปสวยๆ เยอะแยะไปหมดเลย”
“อ๋อ...น่าจะเป็นเฟสบุ๊คน่ะค่ะ”
ธารพิมพ์รู้สึกว่าหัวใจพองโตขึ้นมาเลยทันที เมื่อรู้ว่าบิดาคอยติดตามความเคลื่อนไหวของเธอ ท่านไม่ค่อยมีเวลาให้เธอนัก ตั้งแต่เด็กจนโต ก็เหมือนแต่จะมีเพียงแค่ป้าปิ่นของเธอเท่านั้น ที่คอยดูแลและให้ความอบอุ่นเธอ ส่วนบิดานั้น ท่านยุ่งวุ่นวายกับธุรกิจ ชีวิตของท่านดูเหมือนจะมอบให้กับคำว่างาน เพียงเท่านั้น งานประชุมผู้ปกครอง งานวันสำคัญต่างๆ ที่ต้องให้ผู้ปกครองของเธอไปร่วมงานมีเพียงป้าปิ่นเท่านั้น ขณะที่เด็กคนอื่นๆ มีพ่อหรือแม่ไปร่วมงาน ธารพิมพ์จึงรู้สึกว่าตนเองช่างถูกละเลย และขาดความรักจากบิดาของตนเองนัก
“คุณหนูบ่นว่าไม่ค่อยได้ทำบุญ ถ้าอย่างนั้นตื่นเช้าๆ มาตักบาตรกับป้าไหมล่ะค่ะ พรุ่งนี้ป้าจะปลุก จะได้ทำบุญให้กับคุณๆ ด้วย”
คำเอ่ยนั้นทำให้นัยน์ตางดงามไหวระริกไปชั่วครู่ ก่อนที่ธารพิมพ์จะพยักหน้าเป็นการตอบรับ
การเป็นคุณหนูคนสวย แสนมั่นใจของ ธารพิมพ์ ศิริไกร ใครจะล่วงรู้กันเล่า ว่าแท้จริงนั้น มีความรู้สึกอย่างไรแอบแฝงอยู่ ความอ่อนแอของแม่มดคนสวยอย่างธารพิมพ์ จะมีใครเจาะกำแพงด้านนอกที่แสดงออกว่าเธอแสนร้ายกาจ เข้ามาสัมผัสและให้ไออุ่นได้บ้าง หัวใจที่แสนอ้างว้างของธารพิมพ์ ยังแอบรอคอยและโหยหา คำว่ารักแท้...