บทที่ 6
สุธินีถึงกับหน้าซีด เมื่อได้ยินสิ่งที่รามิดาเอ่ยบอก พร้อมกับซองที่ยื่นส่งให้เธอ มันจ่าหน้าซองว่าจดหมายลาออก เธอขยับแว่นก่อนจะเม้มริมฝีปาก พร้อมกับเอ่ยถามอีกหน อย่างให้แน่ใจว่าตนเองไม่ได้หูฝาด
“เอ่อ...อีกทีสิคะน้องดา น้องดาว่าอะไรนะคะ”
“คือว่าดาขอลาออกน่ะค่ะ แบบว่าดามีเหตุจำเป็นจริงๆ ดาไมได้อยากลาออกเลยนะคะพี่สุ ดาทำงานที่นี่มาตั้งสามปีแล้ว แต่แบบว่า มันจำเป็นจริงๆ นะคะ”
“ตายแล้ว! เรื่องอะไรหรือคะน้องดา ที่ทำให้น้องดาต้องลาออกด่วนแบบนี้น่ะค่ะ แล้วพี่จะทำยังไงละคะ คนเซ็นอนุมัติให้น้องดาลาออกได้ก็คือคุณมาริโอคนเดียวเท่านั้นเสียด้วย ตอนนี้ท่านอยู่ที่สิงค์โปร์ น้องดาก็รู้ใช่ไหมคะ กว่าท่านจะกลับก็อีกตั้งหลายวัน”
“ดาจำเป็นจริงๆ นะคะพี่สุ คือว่า...”
รามิดานิ่งไปนิด เพื่อจะยกอ้างเหตุผลที่ว่า ‘จำเป็นจริงๆ’ ขณะที่อีกฝ่ายมองเธอ แล้วกัดริมฝีปากเหมือนกับจะลุ้นกับคำพูดของรามิดา ยิ่งทำให้เธอพูดไม่ออกไปกันใหญ่ ทั้งคนพูด ทั้งคนฟัง กำลังเกร็งด้วยกันทั้งคู่เลยตอนนี้ จนมีเสียงโทรศัพท์กรีดดังขึ้นเสียก่อน มันทำให้รามิดาแทบจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างลืมตัว ที่พ้นจากสถานการณ์บีบหัวใจได้ชั่วคราว
“ค่ะ เจ้านาย งานสัมมนาที่หัวหินหรือคะ ได้ค่ะ น้องดาหายแล้วค่ะ ตกลงให้น้องดาเป็นคนไปสัมมนาด้วยใช่ไหมค่ะ ได้ค่ะ...เอ๊ย เดี๋ยวก่อนค่ะ เจ้านาย เจ้านาย”
สุธินียิ้มแหย เมื่อพูดไม่ทันอีกฝ่าย แล้วเขาก็ตัดการสนทนาไปแล้วเสียด้วย เธอมองหน้ารามิดาอย่างจะขอความเห็นใจ ก่อนจะพูดเสียงอ่อย
“น้องดา พี่มีความจำเป็นจริงๆ เหมือนกัน ที่จะต้องให้น้องดาทำงานที่นี่ต่อไปจนกว่าจะถึงอาทิตย์หน้า เจ้านายระบุมาเลยน่ะค่ะ ว่าต้องการน้องดาไปร่วมงานสัมมนากับท่านด้วยที่หัวหิน น้องดาเป็นคนเตรียมงานนี้ ถ้าพี่จะต้องหาคนอื่นมาแทน ก็คงจะไม่ทันแน่ๆ โธ่...อย่าเพิ่งลาออกเลยนะคะน้องดา พลีส พี่ไม่อยากโดนคุณมาริโอถอนหงอกตอนแก่”
สุธินีอ้อนวอนอีกฝ่ายหนึ่งเต็มที่ เธอเป็นเลขานุการของมาริโอ และมีผู้ช่วยอีกถึงสองคน เธออยู่ประจำที่สาขาสำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวไกรอนันต์เลิศ ส่วนอีกสองคนจะมีคนหนึ่งคอยติดตามมาริโอไปทุกที่ นั่นก็คือรามิดา ซึ่งหนนี้เธอไม่ได้ติดตามเจ้านายหนุ่มไปด้วย เนื่องจากป่วยเข้าโรงพยาบาล เลขานุการที่ประจำอยู่ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกิจการของมาริโอเพียงคนเดียว จึงไปแทน
“แต่ว่าพี่สุขา ดาก็มีความจำเป็นจริงๆ นะคะ เฮ้อ...ถ้าแบบว่าดาหาคนมาทำงานแทนดา คนที่มีประสิทธิภาพพอๆ กับดามาทำงานให้ พี่สุจะว่ายังไงคะ จะยอมให้ดาลาออกไหม”
ข้อเสนอของรามิดา น่าสนใจและน่าสยองไปพร้อมๆ กัน น่าสนใจถ้าเกิดว่าคนๆ นั้นทำงานได้ดีจริงๆ และมันก็น่าสยองเกิดว่าคนๆ นั้นทำไม่ได้ขึ้นมา มาริโอกลับมาเจอหน้าเลขานุการคนใหม่ แล้วยังทำงานไม่ได้เรื่อง มีหวังเธอต้องผมหงอกหมดหัวแน่ๆ เพราะว่ากลัวเจ้านายหนุ่มจะจัดการเอา ข้อหายอมให้รามิดาลาออก และรับคนใหม่มาแทนโดยไม่ปรึกษาเขาสักคำ แต่จะทันได้ปรึกษาไหม ไปทำงานเมืองนอกแบบนี้ เป็นอันรู้กันว่าถ้าไม่จำเป็นหรือสำคัญจริงๆ ห้ามติดต่อเขาด้วยซ้ำ เพราะมาริโอจัดการงานไว้หมดแล้ว และผู้บริหารคนอื่นอย่างมารุต หรือว่า มาร์คัส ก็สามารถเรียกมาทำเอกสารแทนเขาได้ หนนี้ที่ไปสิงคโปร์ ผู้เป็นเจ้านายหนุ่มย้ำมาเลยว่า ไม่ต้องติดต่อไป มีอะไรเขาจะติดต่อมาเอง มันก็ยิ่งทำให้สุธินีไม่กล้าที่จะยกหู ปรึกษาเรื่องนี้กับเจ้านาย เพราะดูทีแล้วจะรั้งรามิดาไว้ไม่อยู่แน่ๆ ปรึกษาไปก็เท่านั้น แล้วแต่จะรังกวนใจเขาเสียเปล่าๆ สู้แก้ปัญญาไว้ให้เจ้านายของเธอเลยจะดีกว่า
“คือว่า...”
“ถ้าเกิดว่าดาหาคนที่ทำงานแทนดาได้แบบไม่ขาดตกบกพร่องมานำเสนอ พี่สุต้องยอมให้ดาลาออกนะคะ”
“ลองเอามาทดสอบดูสิคะ ว่าคนๆ นั้นจะผ่าน แล้วทำงานกับเจ้านายได้จริงๆ เฮ้อ...ถ้าพี่ไม่ให้ลาออก น้องดาก็คงจะต้องหนีงานเลยใช่ไหมละคะหนนี้”
สุธินีว่าหยั่งเชิง รามิดาถึงกับหัวเราะกิ๊ก ก่อนจะเอ่ยเย้าๆ
“แหม...ไม่หนีหรอกค่ะ แต่ดาก็คงจะมาทำงานไม่ได้แน่ๆ ดามีเรื่องสำคัญต้องไปทำภารกิจจริง ๆ น่ะค่ะพี่สุ โธ่...งานที่นี่ดี แล้วก็สวัสดิการดีมาก ดาไม่โง่ลาออกเฉยๆ ถ้าเกิดว่าไม่มีเรื่องจำเป็นหรอกค่ะ”
“ก็ได้ค่ะ ลองพามาก็ได้ มาวันนี้เลยได้ไหมคะ เพื่อจะได้ฝึกงานให้ ถ้าเกิดว่าพอจะเข้าที น้องดาพอจะถ่ายงานให้ได้ไหมคะ”
“ค่ะ เดี๋ยวดาจะติดต่อให้ด่วนเลย รับรองว่าพี่สุจะต้องชอบมากๆ คนนี้ดีกรีเยี่ยม แล้วก็ทำงานดีมากเลยค่ะ”
รามิดาถึงกับมือสั่นเมื่อได้ยินดังนั้น เธอโล่งอกขึ้นมาเลยทันทีเมื่อได้ยินสุธินีพูดแบบนั้น รามิดาฝันหวานถึงเงินก้อนใหญ่ หลังจากที่เธอลาออกขึ้นมาเลยทันที เงินก้อนที่เธอหาทั้งชีวิตก็ไม่ได้เท่านี้
โอย...เธอจะเอาไปเที่ยวเมืองนอก แล้วก็ช้อปปิ้งให้หนำใจเลยทีเดียว ก่อนจะกลับมาทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่อีกที่หนึ่ง ที่มีตำแหน่งรอเธอ และเงินเดือนดีๆ รวมถึงสวัสดิการดีพอๆ กับที่นี่รออยู่ ส้มหล่นจริงๆ งานนี้...หญิงสาวคิดในใจอย่างลิงโลด
“ว่าแต่ว่า น้องดาตอบพี่นิดหนึ่งสิคะ ว่าเหตุผลจำเป็นของน้องดาที่ว่าต้องไปด่วน คืออะไร พอจะบอกให้พี่หายข้องใจได้ไหมคะ”
“ไปช่วยพ่อทำนาที่บ้านนอก เอ๊ย! แหมพี่สุขา ดาล้อเล่นน่ะค่ะ ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยละคะ คือว่าพ่อของดาป่วย ท่านมีเวลาอีกไม่นาน ดาต้องไปช่วยดูแลท่าน วาระสุดท้ายของชีวิต ท่านก็อยากจะอยู่กับลูกสาวน่ะค่ะ ดาอยากจะอยู่ดูแลท่าน เพราะว่าไม่รู้ว่าจะเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ที่จะได้อยู่ใกล้กับคุณพ่อ”
รามิดาแสร้งก้มหน้าลงกับมือ ทำเหมือนกับกำลังเช็ดน้ำตา เล่นเอาอีกฝ่ายหนึ่งถึงกับหน้าสลดลงอย่างเห็นอกเห็นใจ
“โถ...พี่เข้าใจแล้วล่ะค่ะ เฮ้อ...เหตุจำเป็นจริงๆ เสียด้วย น้องดาเป็นลูกกตัญญูจริงๆ ถึงกับยอมลาออกไปดูแลท่าน เอ...แต่พี่จำได้ว่า น้องดาเคยบอกว่าพ่อเสียไปแล้วไม่ใช่หรือคะ?”
ประโยคหลังเล่นเอารามิดาถึงกับสะดุ้งเฮือก เธอแสร้งสะอื้น แล้วทำเสียงเครือเลยทันที
“พ่อเลี้ยงของดาน่ะค่ะ พ่อเลี้ยงแต่ก็เหมือนพ่อแท้ๆ ท่านดีกับดามาก แล้วก็ส่งเสียดาจนเรียนจบ ถ้าวาระสุดท้ายของท่านแล้วดาไม่ไปดูแล ดาก็ต้องเลวมากๆ ฮือๆ”
“อย่าร้องไห้เลยนะคะน้องดา เฮ้อ...แบบนี้พี่ก็จนใจในการจะรั้งน้องดาแล้วจริงๆ น่ะค่ะ น้องดาติดต่อคนที่ว่าให้พี่ด่วนเลยก็แล้วกันนะคะ ปรกติทางพี่ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน จะรับพนักงานใหม่โดยพละการแบบนี้ แต่คงจะต้องยอมแหกกฎแล้วล่ะค่ะ พี่ไม่อยากอกแหกเพราะโดนเจ้านายเล่นงานเอา”
“ค่ะ เดี๋ยวน้องดาจะนัดน้องเค้ามาเลยก็แล้วกันนะคะ”
รามิดาแสร้งเช็ดน้ำตา โล่งใจกับเรื่องโกหกสดๆ ร้อนๆ ของตนเองที่ทำให้รอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเลขหมายปลายทาง ก่อนจะกรอกเสียงสั่นๆ เพราะความตื่นเต้นลงไปทันที
“เอ่อ...พี่รามิดานะคะ น้องแทมหรือเปล่า? พี่จะนัดเวลาน้องแทมให้มาสัมภาษณ์งานน่ะค่ะ”
………