บทที่ 5 การแก้แค้นได้เริ่มขึ้นแล้ว
หวู่ไฉตงไม่คาดคิดว่านางจะพูดคำว่าชอบเขาออกมา ในระยะเวลาสามปีที่แต่งงานกัน เขาเรียกสตรีเข้าจวนไม่ซ้ำหน้า ไม่เห็นว่านางจะมีท่าทีเสียใจตรงไหน มีแต่วางอำนาจบาตรใหญ่ไล่คน และสิ่งที่นางกล่าวมาทั้งหมดเขาไม่คิดจะเชื่อ ทว่าคำพูดนางมีผลกับใจอย่างบอกไม่ถูก
แม่ทัพหนุ่มหลุบตาลงต่ำกล่าวเสียงเย็นชา “คำพูดหวานหูของเจ้าหลอกข้าไม่ได้ อีกอย่างถ้าเป็นเจ้าจะชอบฆาตกรที่ทำลายครอบครัวเจ้าลงรึ” จากนั้นก็แบมือไปตรงหน้านาง เพื่อเตือนสติว่าควรทำตามที่พูดได้แล้ว
ว่านจิ่วซิ่นยื่นตราบัญชาการไว้บนฝ่ามือเขา “ข้าเข้าใจแล้ว” หญิงสาวเก็บซ่อนน้ำตาไว้อย่างมิดชิด ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไร้ความรู้สึกก็ยังถามให้ตนเจ็บ แต่ไม่เป็นไรความรู้สึกที่อัดอั้นมานาน ได้ปลดปล่อยออกมาสักที แม้จะเจ็บปวดใจแต่ก็นับว่าได้ระบายแล้ว “ว่ามา...จะให้ข้าทำอะไร”
ไหนบอกว่าชอบเขาไม่เห็นเสียใจสักนิดที่ถูกปฏิเสธ ก็ว่าอยู่แล้วคนเจ้าแผนการแบบนาง คงพูดเพื่อยึดตราบัญชาการไว้เท่านั้น ยังดีที่ไม่หลงกล
นางมีอายุมากกว่าเขาสองปี เก่งกว่าเขาทุกด้านก็จริง แต่เขาเป็นบุตรชายตระกูลหวู่ นางมีสิทธิ์อะไรมายึดครองสิ่งที่ควรเป็นของเขา อีกอย่างนางได้มาโดยไม่ชอบธรรม ได้มาจากการสังหารบิดาเขา “หยวนกังอยากได้ตัวเจ้าไปเป็นฮูหยิน แลกกับการปล่อยตัวชาวบ้าน ข้าเห็นว่าเข้าทีจึงรับปากเขาไปแล้ว มิเช่นนั้นจะชนะกลับมาโดยเสียกำลังคนไม่กี่สิบนายได้รึ”
นี่น่ะหรือการเอาชนะศัตรูของเขา ไร้ความผ่าเผยของแม่ทัพสิ้นดี นางไม่ได้ส่งคนไปจับตาดู เพราะกลัวตนเองทนไม่ไหวออกไปช่วยเขาอีก เพื่อพิสูจน์ว่าเขาคุมกองทัพได้ ครั้งนี้ปล่อยให้เขาเดินทัพเต็มตัวโดยไม่แทรกแซง ไม่คิดว่าเขาจะชนะมาด้วยวิธีนี้ “เจ้าจะให้ข้าหย่ากับเจ้า แล้วแต่งงานไปเผาซ่านหู่ นี่คือคำสั่งทหารหรือแค่คำบอกเล่า” ว่านจิ่วซิ่นเอ่ยเสียงเย็นชา ถ้าเป็นคำสั่งทหารนางก็ไม่อาจขัดเพราะนางเป็นผู้ใต้บัญชาของเขา
“ย่อมต้องเป็นคำสั่งทหาร” หวู่ไฉตงหัวเราะเสียงหยัน แต่ถ้านางไม่ยอมเขาก็ไม่บังคับ เขารู้ดีว่านางต้องไม่ยอมแน่
ว่านจิ่วซิ่นหัวเราะ นางหัวเราะจนน้ำตาไหล เขายังไม่เลิกคิดจะส่งนางไปตาย ส่งนางไปให้ศัตรูถึงสองครั้ง หัวใจของเขาทำด้วยอะไร ค่ำคืนนั้นระหว่างเราไม่มีความหมายกับเขาเลยหรือ
ก็จริง!! นางคิดไปเองฝ่ายเดียว แอบชอบเขาข้างเดียว แบบนี้ก็ดี ดีมากแล้วที่เขาไม่สังหารนางด้วยมือตนเอง
ได้...ในเมื่ออยากให้นางตายนัก นางก็จะตามใจเขา “ตกลงข้าจะหย่ากับเจ้า แล้วแต่งให้หยวนกังตามที่เจ้าปรารถนา”
ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดรักนาง ชาวบ้านที่นางปกป้องมองนางเป็นคนเลวร้าย อกตัญญู สังหารผู้มีพระคุณ เห็นนางเป็นสิ่งอัปมงคลไม่ควรเข้าใกล้ ชายที่นางรักส่งนางให้ศัตรูอย่างเลือดเย็นถึงสองครั้ง โลกใบนี้ไม่มีที่ให้นางพักพิงอีกต่อไป ที่แท้ความรู้สึกโดดเดี่ยวก็เป็นเช่นนี้นี่เอง หัวใจของว่านจิ่วซิ่นเยือกเย็นไปหมด
หวู่ไฉตงตกตะลึง! นางไม่เคยยอมเขาง่าย ๆ แบบนี้มาก่อน เขาเองยังคิดว่านางต้องคัดค้านหัวชนฝา จึงคิดจะให้ผู้อื่นปลอมเป็นนางเข้าพิธีแทน ไม่ทันที่หวู่ไฉตงจะเอ่ยอะไรออกมา ว่านจิ่วซิ่นก็ออกจากจวนไปแล้ว
ว่านจิ่วซิ่นออกไปไม่นานกวางหมิงก็เดินเข้ามานั่งลงตำแหน่งที่ว่านจิ่วซิ่นลุกออกไป “กลุ้มใจอะไร…ดูทำหน้าเข้าสิ”
“เจ้าว่าช่วงนี้ว่านจิ่วซิ่นแปลกไปรึไม่”
กวางหมิงครุ่นคิดครู่ใหญ่ก็ถาม พลางรินชาให้ตนเอง “แปลกอย่างไร” เขายกชาขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า สายตามองแผ่นหลังสตรีที่สวนทางกันเมื่อครู่พลางครุ่นคิด ไม่เห็นมีตรงไหนแปลกซิ่นเอ๋อร์ก็คือซิ่นเอ๋อร์
“นางตกลงหย่ากับข้า แล้วไปแต่งานกับหยวนกังตามคำสั่งข้า ทั้งที่รู้ว่าหยวนกังกลับมาแก้แค้น นางยังยอมเจ้าว่าไม่แปลกรึ”
กวางหมิงชะงักไปแล้วมองสีหน้าสับสนและเหลือเชื่อของสหาย “ไฉตง นางเป็นสตรีของเจ้าแล้ว ยกนางให้ชายอื่นเจ้าคงไม่เสียใจภายหลังนะ”
“ไม่มีทาง” หวู่ไฉตงตอบทันควัน เขานะหรือจะเสียใจภายหลัง สตรีที่ลงมือสังหารบิดาเขาเพื่ออำนาจ ไม่สมควรได้รับความรักความห่วงใยจากเขาเลย นางตกลงก็ดีแล้ว วันนี้ควรถึงเวลาที่นางต้องชดใช้ให้เขาได้แล้ว
“นางย่อมมีวิธีเอาตัวรอดของนาง เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงนางหรอก” กวางหมิงเอนกายพิงเก้าอี้พูดแบบไม่ใส่ใจ
“ใครว่าข้าห่วงนาง ข้าแค่ประหลาดใจ อีกอย่างนางหายไปสองเดือนใช่ว่าพวกเราไม่ตามหา แต่ไม่มีข่าวคราวใดเลย เจ้าว่าไม่แปลกหรือ”
“ไฉตง เจ้าไม่อยากส่งนางให้หยวนกังก็พูดมาตามตรง” กวางหมิงเอ่ยเย้าแหย่พลางอมยิ้ม เห็น ๆ อยู่ว่าสองเดือนที่หาว่านจิ่วซิ่นไม่พบ เจ้านี่สับสนวุ่นวายใจจนคิ้วขมวด ยังจะปากแข็งว่าไม่ห่วงอีก เพราะเห็นว่าเด็กนี่เครียดเกินไปเขาจึงจัดสุรานารีมาให้ถึงจวน ใครจะคิดว่าซิ่นเอ๋อร์จะกลับจวนวันนั้น แล้วเผด็จศึกสามีทันที หืม คิดแล้วขนลุก
“หุบปาก ข้าพูดคำไหนคำนั้น” หวู่ไฉตงขึ้นเสียงใส่กวางหมิง
