บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 สัญญาที่ถูกลืม

 

หวู่ไฉตงเหลือบมองก่อนจะพูดเหน็บแนม “ข้ามีคนคอยรองมือรองเท้าไม่จำเป็นต้องนำทัพเอง” นางอยากได้ตำแหน่งแม่ทัพมากไม่ใช่หรือไร เขาเองก็อนุเคราะห์ให้ตามที่นางต้องการมาตลอด ไม่เคยแย่งหน้าที่แม่ทัพมาจากนางเลย นางคงไม่รู้วรยุทธ์เขาเหนือนางมานานแล้ว เขาแค่ไม่เผยความสามารถออกมาเท่านั้น ยังคงรอเวลาที่เหมาะสมอยู่ นางยังถือตราบัญชาการครึ่งหนึ่ง เขายังไม่คิดจะกำจัดนางทิ้งยามนี้

“เจ้าควรออกศึกเองได้แล้ว อย่าลืมว่าเจ้าคือแม่ทัพไม่ใช่ข้า” ว่านจิ่วซิ่นนั่งลงด้านข้างหวู่ไฉตง วันนี้นางไม่วางอำนาจกับเขา ทั้งยังใช้น้ำเสียงอ่อนโยน เพื่อให้เราสองใกล้ชิดกันมากขึ้น

แม่ทัพหนุ่มลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปนั่งเก้าอี้โยก “ก็รู้นี่” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชา

เขารู้สึกไม่ชอบใจเมื่อนางมานั่งใกล้ สตรีดี ๆ ที่ไหนจะปีนเตียงบุรุษที่เมาไร้สติ มีแค่นางเท่านั้นที่กล้าทำ “ถ้าอยากให้ข้าไป...เจ้าก็มอบตราบัญชาการอีกครึ่งมาให้ข้าสิ” หวู่ไฉตงกล่าวพลางยิ้มร้าย เมื่อเห็นท่าทีลังเลของอีกฝ่าย เขาก็หัวเราะอย่างเย้ยหยัน นางวางแผนมานานเพียงนี้ จะมอบตราบัญชาการคืนเขาโดยง่ายได้อย่างไร

“ถ้าครั้งนี้เจ้านำทัพชนะกลับมา ข้า...จะคืนตราบัญชาการอีกครึ่งให้” ว่านจิ่วซิ่นต่อรองด้วยไม่มั่นใจว่าหวู่ไฉตงจะทำได้ เขาไม่เคยออกศึกจริงสักครั้ง นางเป็นห่วงกลัวเขาทำไม่ได้ ทว่าคนเราต้องเติบโตดังนั้นศึกครั้งนี้นางจะให้เขาพิสูจน์ตัวเอง ถ้าเขาทำได้ตราบัญชาการอีกครึ่งนางก็ยินดีคืนให้

“ได้ แต่มีข้อแม้...หากข้าชนะกลับมาเจ้าต้องทำตามคำสั่งข้าโดยไม่มีข้อแม้”

“ตกลง”

หวู่ไฉตงยิ้มกริ่ม นางคงคิดว่าเหนือกว่าเขาทุกอย่าง หารู้ไม่ว่าเขาแค่อ่อนข้อให้ เพื่อบีบลูกไก่ให้แหลกคามือในครั้งเดียว สามปีมานี้เขาแอบฝึกทุกวัน จนตอนนี้ก้าวหน้าเหนือนางหลายส่วนแล้ว

สามวันต่อมาหวู่ไฉตงก็ชนะศึกกลับมา โดยเสียทหารไปไม่กี่สิบนาย ทำให้ว่านจิ่วซิ่นเริ่มวางใจที่จะปล่อยมือ ถึงเวลาที่นางควรคืนตราบัญชาการทหารให้เจ้าของเดิมได้แล้ว

ตอนนี้เขามีความสามารถนำทัพทั้งยังทำได้ดีมากอีกด้วย

ว่านจิ่วซิ่นเดินเข้าไปรินชาให้หวู่ไฉตง “เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจมาก” น้ำเสียงของนางทั้งตื่นเต้นทั้งยินดี

รอยยิ้มก็เปล่งประกายเจิดจ้าทำให้หวู่ไฉตงเลิกคิ้วสูง “ทำไม นึกเสียใจแล้วรึ” เขาประหลาดใจ นางไม่เคยรินชาเอาใจเขา ไม่เคยยิ้มอ่อนโยนแบบนี้ให้เขา ตั้งแต่บิดาเขาจากโลกนี้ไป นี่นับเป็นครั้งแรกที่นางยิ้มและเอาใจเขาเช่นนี้

สามปีมานี้ สิ่งที่นางทำให้สม่ำเสมอคือ การเข้มงวด กดขี่ ใช้กำลังบังคับ สิ่งที่ดูอ่อนโยนที่สุดคงจะเป็นการทำเสื้อคลุมให้เขาทุกปี แต่เขาก็ไม่เคยหยิบขึ้นมาดูหรือสวมใส่ แค่มองเขาก็รู้สึกผิดกับบิดาแล้ว การที่นางมาเอาอกเอาใจเช่นนี้ ดูแล้วคงไม่อยากคืนตราบัญชาการให้เขา

“ดีใจต่างหาก” ว่านจิ่วซิ่นยิ้มจนตาหยีแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามหวู่ไฉตง

หวู่ไฉตงยกจอกชาขึ้นจิบ รอดูว่าคนเจ้าแผนการอย่างนางจะทำตามที่รับปากหรือไม่ พอมองใบหน้าว่านจิ่วซิ่นเต็มตา น้ำชาในปากเกือบพุ่งออกมา เขารีบกลืนมันลงไป

บอกตามตรงเขาไม่เคยเห็น รองแม่ทัพผู้องอาจ ผัดแป้งทาชาดมาก่อน ยอมรับว่างามมาก แต่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย อย่างนางต้องแต่งชุดบุรุษทะมัดทะแมงถึงจะถูก “แต่งตัวแบบนี้มายั่วยวนข้า หวังให้ข้าไม่ทวงตราบัญชาการคืนสินะ เจ้าประเมินตัวเองสูงไปแล้ว สตรีเช่นเจ้าไม่อยู่ในสายตาข้าหรอก...จำไว้”

ว่านจิ่วซิ่นกัดริมฝีปากล่างอย่างประหม่า ชิงหลันบอกว่านางแข็งกร้าวเกินไปทำให้บุรุษไม่กล้าเข้าใกล้ นางจึงอยากลองเปลี่ยนตัวเองดูบ้าง “ไฉตงเจ้าเคยบอกเองว่าจะปกป้องดูแลข้า จำได้รึไม่ ข้า...” นางพูดไม่ทันจบเขาก็พูดสวนมาทันที

“ข้าจำไม่ได้”

เขาลืมสิ้นแล้วจริงหรือ ห้าปีก่อนเขาดูแลปกป้องนาง จากการถูกคนอื่นกลั่นแกล้ง ยื่นขนมกุ้ยฮวาให้นางประกาศว่าจะไม่ให้ผู้ใดมารังแกนางได้อีก ทำให้หัวใจที่สิ้นหวังของนางอบอุ่นขึ้นอีกครั้ง

นางจำได้ว่ายามนั้นท่านอาเยว่ซินช่วยชีวิตนางมาจากกองซากศพ หัวใจของนางแหลกสลายไร้ญาติขาดมิตร

เด็กที่ฝึกกระบี่พร้อมกับนางเป็นลูกหลานของคนในกองทัพ พวกเขาชอบล้อเลียนว่านางไม่มีพ่อแม่ เป็นหวู่ไฉตงที่ไล่กระทืบเด็กพวกนั้น และประกาศว่าใครกล้าแกล้งนางอีก จะถูกแม่ทัพหรือก็คือบิดาเขาลงโทษ

ในขณะที่นางร้องไห้ขี้มูกโป่ง เขาก็ยื่นขนมชิ้นนั้นกับคำพูดปลอบโยน ทำให้หัวใจของนางอบอุ่นและมีหวัง เรื่องราวเหล่านี้นางจำขึ้นใจเขากลับลืมไปจนสิ้น

ว่านจิ่วซิ่นก้มหน้าตาแดงก่ำ มือของนางกำชายเสื้อไว้แน่น ครั้งก่อนเคยถามชิงหลันว่า ถ้าเจ้าชอบบุรุษคนหนึ่งจะทำเช่นไร ชิงหลันตอบว่าถ้านางชอบใครก็จะไปสารภาพกับเขาตามตรง เพราะหากไม่พูดเขาก็จะไม่รู้เลยว่ามีคนชอบเขาอยู่

ชิงหลันยังบอกอีกว่า ไม่ว่าคนที่นางชอบจะตอบรับหรือปฏิเสธนางก็จะไม่เสียใจ เพราะนางได้บอกความในใจของนางไปแล้ว หากเขาตอบรับใจตรงกันก็ดีไป หากแต่ถ้าเขาใจไม่ตรงกับเรา เราจะได้ตัดใจโดยเร็ว

ว่านจิ่วซิ่นจดจำไว้ในใจ ในเมื่อชอบก็ควรบอกให้เขารู้ อีกอย่างนางคือภรรยาเขา และได้อุ่นเตียงกับเขาไปแล้ว ดังนั้นสิ่งใดควรพูดก็พูดไม่ต้องเก็บไว้ในใจอีก ครั้งนี้นางจะสารภาพพร้อมถามความรู้สึกของเขาด้วย “ข้า...ข้าชอบเจ้าไฉตง ชอบเจ้ามานานแล้ว ชอบเจ้าตั้งแต่วันที่เจ้ายื่นขนมชิ้นนั้นให้ข้า ที่ข้ายุแยงให้เจ้าสู้กับข้า เพราะข้าอยากให้เจ้าแข็งแกร่ง ปกป้องข้าปกป้องตัวเองได้...ไฉตงเจ้าเคยชอบข้าหรือไม่”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel