บท
ตั้งค่า

5. จิวซูผู้น่าสงสาร

สายของวันถงเหยาก็ยกยามาเตรียมไว้ตามที่สามีของตนสั่ง เพราะก่อนเฟยหยางจะตามผู้เป็นนายเข้าวัง ได้ย้ำนักหนาว่าอย่าลืมเป็นเด็ดขาด

“ไยนายน้อยถึงทำเช่นนี้กับเจ้านะจิวซู หรือว่าเจ้าเป็นภรรยาของนายน้อยจริงๆ”

ถงเหยามองสตรีตัวน้อยที่ยังคงหลับมิได้สติ ก็อดสงสารมิได้ แม้จะมิรู้ต้นสายปลายเหตุเรื่องทั้งหมด แต่สภาพที่จิวซูเป็นอยู่ในตอนนี้ มันมิน่าใช่ธรรมชาติของสตรีที่เคยร่วมรักกับบุรุษเลย เพราะคราบเลือดบนเตียงมันบ่งบอกเรื่องทั้งหมดแล้ว

ร่างเล็กขยับกายเพราะรู้สึกปวดระบม และเจ็บร้าวตรงช่วงล่างจนครางออกมาเป็นระยะ

ถงเหยารีบตรงเข้าไปประคองร่างนางเอาไว้ในทันที และสิ่งแรกที่มิลืมก็คือยาที่ต้องเอาให้อีกฝ่ายดื่ม เพราะถงเหยาเองก็มิอยากให้จิวซูต้องตั้งครรภ์ โดยที่ยังมิรู้ที่มาของตนเองเช่นกัน

“ดื่มยาเถอะ นี่เป็นยาบำรุงที่นายน้อยสั่งต้มให้เจ้า”

“ข้าต้องดื่มเดี๋ยวนี้เลยหรือพี่ถงเหยา”

“อืม ดื่มเสียมันดีต่อตัวเจ้าในภายหน้า เชื่อข้าเถอะ”

ถงเหยาเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน หากสายตาที่มองอีกฝ่ายนั้นมีแต่ความสงสาร เพราะร่างกายนี้ดูบอบช้ำเสียเหลือเกิน ดูท่าจะถูกนายน้อยจับกินทั้งคืนเป็นแน่

จิวซูดื่มยาจนหมดโดยมิคิดสิ่งใด เพราะนางไว้ใจทุกคนในเรือนนี้ โดยเฉพาะคนตรงหน้า ถงเหยายิ้มจางๆ ให้สตรีตัวน้อย ก่อนจะประคองนางให้ไปแช่น้ำในถัง ที่ถูกเตรียมไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว

“ฮูหยินแช่น้ำซักพักแล้วกัน ข้าน้อยจะไปเปลี่ยนผ้าปูเตียงใหม่ เสร็จแล้วเรียกนะเจ้าคะ”

“ไยพี่มิเรียกข้าเช่นเดิม”

จิวซูเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“คำสั่งของนายน้อยเจ้าค่ะ เมื่อครู่ข้าน้อยเองก็ลืม ยังคงปฎิบัติต่อท่านเฉกเช่นแต่ก่อน”

“ข้าเป็นฮูหยินนายน้อยจริงหรือพี่ถงเหยา”

“เรื่องนั้นข้าน้อยเองก็มิรู้เจ้าค่ะ แต่หากมิใช่ฮูหยินจะมีสภาพเช่นนี้หรือเจ้าคะ นายน้อยคงมิทำเรื่องเช่นนี้ในเรือน หากมิได้ทำกับคนของตนนะเจ้าคะ”

ถงเหยาเอ่ยเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ เพราะนางเองก็มิรู้ว่าอยู่ภายนอกนายน้อยที่เงียบขรึม จะแอบมีภรรยาไว้สักกี่คน แต่ในเมื่อผู้เป็นนายประกาศกับมารดาแล้วว่าสตรีนางนี้คือฮูหยิน ก็คงมิมีอันใดเปลี่ยนแปลงเป็นแน่

จิวซูยิ้มหวานส่งให้ถงเหยาเมื่อได้ยินเช่นนั้น เพราะนางเองก็มิรู้ว่าจะต้องทำเช่นไรกับชีวิตตนในยามนี้ หวังว่าในสักวันจะจำเรื่องราวที่ผ่านมาได้ นางมองตามร่างของอีกฝ่ายซึ่งเดินออกจากห้องอาบน้ำไปแล้ว

นัยน์ตาสวยจึงปิดลงอีกครั้งเพื่อผ่อนคลายร่างกาย แต่ภาพบางอย่างก็ปรากฏขึ้นมาในหัวชั่วขณะหนึ่ง

“นายท่านเด็กพวกนี้เราจะทำเช่นไรกับมันดีขอรับ”

“จัดการให้หมด อย่าให้มันเหลือรอดไปได้”

คมดาบถูกตะหวัดไปยังเด็กชายวัยเพียงสิบสี่ปีทีละคน ทำให้ร่างนั้นแดดิ้นบนพื้นด้วยความทรมาน แต่ก็มีหนึ่งคนตัดสินใจกระโดดลงจากเรือทั้งที่ถูกเชือกมัดแขนอยู่ ถึงกระนั้นก็ยังมีลูกศรพุ่งตามมาจากด้านบน และภาพที่จิวซูเห็นในหัวก็หายไปอย่างรวดเร็ว

“ทำไมถึงได้เห็นภาพหน้ากลัวเพียงนี้ แล้วเด็กคนนั้นเกี่ยวข้องอันใดกับข้า ไยถึงรู้สึกเหมือนทุกการกระทำนั้นคือตัวข้าเอง หรือว่าจะเป็นสิ่งที่ข้าลืมเลือนไป”

จิวซูนึกถึงเรื่องที่ตนเห็นในหัว แต่พอพยายามนึกอีกคราก็ทำให้ปวดที่ขมับด้านซ้าย

“โอ้ย! ปวดหัว” เสียงร้องดังขึ้นจนทำให้ถงเหยาตื่นตระหนก นางรีบวิ่งเข้ามาในทันที

“เป็นกระไรหรือเจ้าคะ”

“ข้าแค่ปวดหัวพี่ถงเหยา”

“เช่นนั้นก็ลุกเถอะเจ้าคะ ทานอาหารแล้วค่อยนอนพักอีกที เห็นพี่เฟยหยางบอกว่านายน้อยจะออกไปสืบคดีที่ต่างเมือง คงมิได้กลับจวนอีกซักพัก”

“อย่างนั้นหรือ” ใจดวงน้อยวูบไหวจนคนที่ประคองอยู่จับสังเกตได้ จึงได้แต่ปลอบประโลมให้นางเข้าใจ

“นายน้อยมักจะออกไปเช่นนี้ด้วยหน้าที่ ฮูหยินอย่าได้กังวลไปเลยนะเจ้าคะ มินานก็กลับมา”

“ข้าเปล่าเสียหน่อย อยากไปที่ใดก็ไปสิ”

จิวซูยังคงเถียงไปทั้งอย่างนั้น แม้สีหน้าจะแสดงท่าทีจนอีกฝ่ายมองออกชัดเจน แต่ถงเหยาก็ทำทีเป็นเชื่อ เพื่อให้นางคลายใจลงบ้าง

“เช่นนั้นก็ทานอาหารนะเจ้าคะ จะได้นอนต่อ”

จิวซูพยักหน้าก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้า ไม่นานก็กลับไปนอนอีกครั้ง ซึ่งทุกอย่างดูสะอาดตาต่างจากตอนแรกที่ตนลุกออกมา จึงอดมิได้ที่จะสงสัยเรื่องเมื่อคืน จึงได้เอ่ยถามคนที่แต่งงานแล้วอย่างถงเหยา

“เอ่อ พี่ถงเหยาข้าขอถามซักข้อได้หรือไม่”

ถงเหยาขมวดคิ้วใส่ทันที เพราะท่าทางของผู้เป็นนายดูเหมือนจะอยากรู้เรื่องที่เอ่ยถามเป็นอย่างมาก

“ฮูหยินมีสิ่งใดจะถามข้าน้อยหรือเจ้าคะ”

“ยามที่พี่ เอ่อ ทำเรื่องนั้นกับสามี ข้าอยากรู้ว่ามันจะเจ็บทุกครั้งหรือไม่ แล้วจะมีเลือดออกเช่นนี้ทุกคราหรือ นายน้อยบอกว่าเป็นเพราะเรามิได้ทำเรื่องนี้นาน เลย”

“นายน้อยว่าเช่นนั้นหรือเจ้าคะ”

“อืม นายน้อยบอกข้าเช่นนั้น”

“ก็คงจะจริง ก็นายน้อยไปราชการต่างเมืองตั้งสิบวัน กว่าจะได้มาหาฮูหยินนี่เจ้าคะ ก็คงเป็นเช่นที่ท่านว่า นอนเถอะเจ้าค่ะ จะได้หายเร็วๆ”

ถงเหยาตอบก่อนจะดันร่างเล็กให้นอนลงแล้วห่มผ้าให้ ในใจนั้นอดที่จะสงสารนางมิได้ เพราะทุกสิ่งที่เห็นนั้นตรงข้ามกับความเป็นจริงทั้งหมด ยามนี้ถงเหยามั่นใจแล้วว่าจิวซูคงมิใช่ภรรยาที่นายน้อยมีก่อนนี้เป็นแน่

จิวซูหลับตาลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังบังคับตนให้นอนราวกับเด็กน้อยก็มิปาน เสียงลมหายใจที่ดังออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ถงเหยาเดินออกมาจากห้องพร้อมกับปิดประตู ก็เจอกับแม่นมหลินซึ่งยืนรออยู่แล้ว

“ฮูหยินเรียกไปพบ”

“เจ้าค่ะ” ถงเหยาเดินตามอีกฝ่ายไปจนถึงห้องโถง ซึ่งมีท่านราชครูและฮูหยินจางนั่งรออยู่ เพราะอยากรู้เรื่องราวระหว่างบุตรชายและสตรีตัวน้อยผู้นี้ เรื่องทั้งหมดจึงออกมาจากปากนางโดยมิปิดบัง แม้กระทั่งเรื่องที่นายน้อยอาจใช้จิวซูเป็นเครื่องมือ

“ต่ำช้าที่สุด นี่หรือบุตรชายข้าไยถึงได้ไร้จิตสำนึกเช่นนี้ สตรีที่มิรู้เรื่องราวอันใด กลับเอามาเกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ของตน เช่นนี้แล้วจะยึดถือเอาความยุติธรรมที่ใด ไปทำงานที่ฮ่องเต้มอบหมายให้ ตัดสินผู้อื่นว่าทำเลวแต่การกระทำตนนั้นก็มิต่างกัน”

เสียงดังทรงอำนาจที่มิเคยเปล่งออกมาให้ได้ยิน ทำเอาคนในจวนต่างก็ก้มหน้าก้มตาเกรงบารมีของราชครูจาง เพราะน้อยนักที่เขาจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ เขาถือเรื่องความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาอย่างที่สุด มิคิดว่าบุตรชายจะเล่ห์เหลี่ยมทำร้ายสตรีตัวน้อยเช่นนี้ เพียงแค่เห็นว่านางจำสิ่งใดมิได้จึงได้คิดรังแก จนมินึกถึงความถูกต้องและตำแหน่งหน้าที่ของตนเลยสักนิด

“ท่านพี่สงบใจไว้ก่อนเถอะเจ้าคะ อาจมิเป็นอย่างที่คิดก็ได้ เสิ่นอวี้บอกน้องเองว่าจิวซูคือภรรยาที่จะยกให้เป็นฮูหยิน เช่นนี้แล้วอย่างไรก็ต้องยกย่องนางอย่างที่พูดนะเจ้าคะ หรือไม่เราก็จัดงานแต่งเสียในเร็ววัน”

“หึ! เช่นนั้นก็จัดทันทีที่เสิ่นอวี้กลับมา มิเช่นนั้นอย่าว่าข้าใจร้ายเชียว ต่อให้เป็นบุตรชายคนเดียวของข้าก็เถอะ”

ราชครูจางเอ่ยสั่งก่อนจะเดินออกจากห้อง ฮูหยินจางจึงหันมาหาถงเหยาเพื่อถามเรื่องนี้อีกครา

“หากเป็นเช่นที่เจ้าเอ่ย จงดูแลจิวซูให้ดีรู้หรือไม่ ต่อไปอย่าให้นางดื่มยานั้นอีก ให้เปลี่ยนเป็นยาบำรุงแทน”

ฮูหยินจางหันมากำชับบ่าวในเรือนหนิงฟู

“แต่นายน้อยสั่งไว้ และผู้ที่เอายามาคือพี่เฟยหยาง ข้าน้อยมิรู้ว่าจะสามารถสับเปลี่ยนได้หรือไม่เจ้าค่ะ”

เสียงถอนหายใจดังขึ้น พร้อมกับคำตำหนิบุตรอีกครั้ง

“ไยเจ้าถึงใจร้ายเช่นนี้เสิ่นอวี้ เด็กที่จะเกิดมาก็เป็นบุตรของเจ้าไยถึงทำได้ลงคอ มิรู้หรือว่าสตรีดื่มยานั้นมากๆ ร่างกายจะอ่อนแอ และมิสามารถมีบุตรได้ในภายหน้า”

“นายน้อยอาจจะปล่อยจิวซูไปหลังจากนี้ก็ได้เจ้าคะ จึงมิอยากผูกมัดให้นางต้องมีห่วงในภายหลัง”

“หึ! ไม่ว่าเจ้าจะเอ่ยเช่นไร บุตรชายข้าก็ไร้สำนึกอยู่ดี ข้าละอายใจต่อจิวซูเหลือเกินที่ต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้”

“ฮูหยินอย่าได้กังวลไปเลยนะเจ้าคะ อย่างไรเสียนายน้อยก็ยินดีจะรับนางเป็นภรรยา สตรีมิรู้ที่มาเช่นนี้ได้เป็นเพียงอนุของบุตรชายราชครู ก็ถือว่ามีบุญวาสนาแล้ว”

แม่นมเอ่ยปลอบผู้เป็นนาย ซึ่งหากมองตามจริงมันก็เป็นเช่นที่นางเอ่ย สตรีเร่ร่อนหาที่มามิได้ มีโอกาสเข้ามาอยู่ในจวนนี้ถือว่านางโชคดีมากแล้ว

“เช่นนั้นเจ้าก็สั่งทุกคนให้ปฎิบัติกับนางเช่นนายคนอื่นๆ เถอะ จัดการหาแม่สื่อเตรียมเอาไว้ด้วย ทันทีที่เสิ่นอวี้กลับมาเราจะทำพีธีแต่งงานระหว่างสองคนนี้”

เสียงสั่งการที่เหนื่อยอ่อนดังขึ้น ก่อนจะหันไปหาถ้วยน้ำชาเพื่อดื่มดับความร้อนรุ่มในใจที่ยังคงมิเจือจาง

เมื่อรับคำสั่งแล้วแม่นมและถงเหยาก็ออกมาจากห้องโถง แต่ก็แยกกันไปทำหน้าที่ของตนซึ่งได้รับมอบหมายมา แต่ก่อนนั้นผู้อาวุโสกว่าก็อดมิได้ที่จะเอ่ยถามถงเหยา

“เจ้ามิเกรงจะถูกนายน้อยลงโทษหรือ”

“ข้าอดสงสารจิวซูมิได้จริงๆ แม่นมหลิน หากท่านเห็นสภาพนางและเตียงกว้างนั้น ท่านคงทำเช่นข้า”

“อืม ข้ามิคิดว่านายน้อยจะทำเช่นนี้กับสตรีที่จำสิ่งใดมิได้ แค่นางมิรู้ที่มาที่ไปของตนก็น่าสงสารแล้ว หากแต่กลับมีคนโป้ปดว่าเป็นสามีและยังย่ำยีมิมาดูดำดูดีอีก เป็นข้าคงเจ็บเจียนตายหากวันหนึ่งรับรู้ขึ้นมา”

“นั่นสิ หากสักวันนางจำเรื่องทุกอย่างได้จะทำเช่นไร”

“เอาเถอะ อย่างน้อยจิวซูก็ยังมีท่านราชครูและฮูหยินเช่นนี้คงมิต้องกังวลสิ่งใดอีกแล้ว”

แม่นมหลินเอ่ยจบก็เดินผละไป ถงเหยายิ้มบางให้กับตนเอง เพราะมินู้ว่าจะเป็นเช่นไรต่อไปหากนายน้อยรู้

“ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้จิวซู จากนี้แล้วแต่เวรแต่กรรมของเราทั้งคู่แล้วกันนะ ข้าเองก็มิรู้จะรอดหรือไม่”

ถงเหยาเปิดประตูเข้าห้องของสตรีตัวน้อยซึ่งยังคงหลับอยู่บนเตียง ยามนี้นางกำลังไข้ขึ้น จนต้องรีบตามหมอกันให้วุ่น ทำให้นายหญิงของจวนมาดูด้วยตนเอง พอเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยก็พาลจะเป็นลม เพราะมิคิดว่าบุตรชายจะร้ายกาจกับสตรีตัวน้อยถึงเพียงนี้

“โถว! จิวซูเจ้าต้องเจอกับสิ่งใดกัน ไยถึงเป็นเช่นนี้”

มือขาวซีดตามวัยลูบลงที่แก้มเนียน นางจ้องมองริมฝีปากที่ยังคงบวมและรอยขบจนเกิดเป็นแผล เนื้อตัวที่มองเห็นก็มีแต่รอยจ้ำแดง น้ำตาของนายหญิงหยดแหมะลงที่มือเรียว ซึ่งยามนี้มันร้อนระอุเพราะพิษไข้

“ฮูหยินลุกออกมาก่อนเถอะเจ้าคะ ถงเหยาจะได้เช็ดตัวให้นาง มิเช่นนั้นไข้จะมิลด”

แม่นมหลิวประคองผู้เป็นนายลุกขึ้น

“เจ้ารีบเถอะถงเหยาดูแลนางให้ดี คืนนี้หาบ่าวมานอนเพิ่มอีก จะได้มีคนสับเปลี่ยนกันดูแลฮูหยินน้อย”

ผ้าผืนเล็กถูกบีบน้ำออกก่อนจะเช็ดลงบนใบหน้าและลำคอของผู้ที่มิได้สติ อาภรณ์ที่สวมใส่ก็ถูกรั้งลงมาเพื่อง่ายต่อการทำหน้าที่ มือเรียวชะงักลงเมื่อเห็นจุดแดงเต็มช่วงอกขาวเนียน มันช่างเป็นภาพที่ฮูหยินจางหดหู่ยิ่งนัก

“แม่นมพาข้าออกไปจากที่นี่ที ถงเหยาข้าฝากด้วยนะ”

“เจ้าค่ะฮูหยิน” คนฟังรับคำก่อนจะทำหน้าที่ของตนต่อ แววตานั้นยังคงหม่นอยู่เช่นเคย แม้จะเห็นมาก่อนแล้ว แต่เพราะมันยังใหม่จึงมิเด่นชัดเหมือนยามนี้

“ข้ามิเสียใจเลยที่เอ่ยเรื่องนี้กับนายท่าน ข้าหวังว่าเจ้าจะได้รับโอกาสที่ดีหลังจากนี้จิวซู” 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel