บท
ตั้งค่า

ตอนที่3. เห็นแก่คำว่าพี่น้อง

“เป็นข้าสินะเจ้าคะ ที่ลงมือต่อน้องสาวคนดี หากท่านพ่อมิได้ดวงตามืดบอด ก็น่าจะมองเห็นว่าเท็จจริงเป็นเช่นไร ข้าหรือเป็นผู้กระทำ และเป็นข้าอีกเช่นนั้นหรือที่เป็นผู้ริษยา ที่ใดกันท่านพ่อที่ข้าเป็นเช่นนั้น ชีวิตของข้าจ้าวหลิวหลีในจวนหลี่แห่งนี้ ย่อมสงบสุขหากไม่มีผู้อื่นมาก่อกวนอยู่มิขาดสาย เห็นข้ามิตอบโต้ ใช่ว่าข้าไร้ดวงตาที่จะมองไม่เห็นว่าผู้ใดบ้างหวังดีและหวังร้ายต่อข้า”

จ้าวอ๋องถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินคำพูดของบุตรสาวคนโต เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจ้าวหลิวหลีจะหาญกล้าต่อคำ เพราะที่ผ่านมามิว่าเกิดเรื่องใดขึ้น นางจะนิ่งเงียบและยอมรับมันแต่โดยดี

แล้วไยครั้งนี้นางจึงได้ลุกขึ้นตอบโต้เขาได้เล่า แม้จะมีคำถามที่ขัดแย้ง แต่เรื่องที่เกิดต่อบุตรสาวคนเล็กนั้น ส่งผลต่อความมั่นคงของตัวเขาและทุกคนในสกุลจ้าว

จะใช่เรื่องจริงหรือไม่เขามิคิดจะสนใจ ขอแค่เพียงบุตรสาวคนเล็กพึงพอใจ เขาก็ยินดีที่จะกระทำมัน

“อย่าคิดสรรหาคำแก้ตัวอีกเลย เจ้ารู้โทษของเรื่องนี้ดีใช่หรือไม่ ผู้ที่คิดทำร้ายสายเลือดมังกรจะต้องแบกรับสิ่งใดบ้าง แต่เพราะเจ้าคือพี่สาวที่พระชายาสี่รัก นางจึงให้เจ้าเลือกออกจากเมืองหลวงไปซะ!”

‘หึ ๆ จิตใจของท่านทำด้วยสิ่งใดกันบิดาข้า’

“เรื่องนี้ข้าคิดว่าควรรอให้สามีของข้ากลับมาก่อนจะดีกว่านะเจ้าคะ เพราะสิ่งใดที่เกิดกับข้านั้น เขาย่อมต้องรับรู้และต้องร่วมออกความคิดเห็นด้วย อีกอย่างนะเจ้าคะ เรื่องนี้ไร้พยานและหลักฐานมายืนยัน กลับพากันกล่าวหาข้าอย่างเลื่อนลอย แล้วหากในวันนี้ข้าบอกว่าพระชายาสี่เป็นผู้ลงมือต่อข้า ท่านผู้เป็นบิดา จะเรียกร้องความเป็นธรรมนี่แก่ข้าบ้างหรือไม่เจ้าคะ”

จ้าวหลิวหลีไม่คิดสนใจสีหน้าโกรธกริ้วของผู้เป็นพ่ออีกต่อไป หญิงสาวก้าวผ่านจ้าวอ๋องไปอย่างสงบ นางไม่ได้กระทำอย่างที่ถูกกล่าวหา ไยต้องเก็บมาคิดให้เปลืองสมองด้วยเล่า

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ข้าให้เจ้าไปได้แล้วรึ”

จ้าวอ๋องรู้สึกเสียหน้า ยิ่งเมื่อถูกบ่าวไพร่ภายในจวนหลี่มอง ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับการถูกตบหน้าจนชาหนึบ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าคนเช่นจ้าวหลิวหลี จะมีชีวิตที่งดงามอยู่ในจวนแห่งนี้ได้

“เรียนท่านอ๋อง ข้าเป็นเจ้าของบ้าน ย่อมมีสิทธิ์ที่จะเดินไปที่ใดก็ได้ มิเหมือนท่านกับพระชายาที่เป็นคนนอกซึ่งข้ามิได้เชื้อเชิญ”

“จ้าวหลิวหลี! ต่ำช้านัก ทำความผิดใหญ่หลวงถึงเพียงนี้ เจ้ายังมีหน้าเอ่ยวาจาสามหาวกับข้าอยู่อีกหรือ”

“หากมันเป็นเรื่องจริงอย่างที่ท่านอ๋องกล่าวมา เหตุใดองค์ชายสี่ยังคงมิลงมือต่อข้า หรือร้องเรียนต่อฮ่องเต้ ไยยังคงนิ่งเฉยอยู่เช่นนี้ด้วยเล่า นอกเสียจากเรื่องนี้มีสิ่งที่บอกแก่ผู้อื่นมิได้”

จ้าวหลิวหลีหันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นพ่ออีกครั้ง นางอาจดูโง่เขลาเมื่อครั้งในอดีต แต่นั้นมันเมื่อก่อนมิใช่ปัจจุบัน ที่นางไม่มีคำว่ายินยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไป

“เพราะอี้เหมยเห็นแก่คำว่าพี่น้อง เรื่องนี้นางจึงยังมิได้ทูลให้องค์ชายสี่ได้ทรงทราบ”

เป็นชุ่ยเหนียงเฟย พระชายาเอกคนปัจจุบันในจ้าวอ๋องกล่าวแทรกขึ้นมา เมื่อเห็นพระสวามีเริ่มจนในคำพูด

“ไม่มีความจำเป็นที่นางต้องทำเช่นนั้น เพราะการวางยาหมายกำจัดสายเลือดมังกร นับเป็นเรื่องใหญ่ที่มิอาจปล่อยผ่านไปได้ มิเว้นแม้แต่สายเลือดเดียวกัน คำว่าพี่น้องมิใช่ข้ออ้างให้ท่านอ๋องกับพระชายา มากล่าวหาข้าโดยไร้มูลความจริงอยู่อย่างนี้”

“เอ่อ...”

สองสามีภรรยาจนในคำพูด เมื่อเจ้าของบ้านตอบกลับมาด้วยเหตุผลที่หนักแน่นกว่า จ้าวอ๋องมองไปยังภรรยาที่ตอนนี้เอาแต่หลบสายตาของบุตรสาว

แม้แต่เขาที่เป็นพ่อ ยังไม่หาญกล้าที่จะมองตาเอาเรื่องของบุตรสาวคนโตได้เลย คราแรกเขานับว่าถือหมากเหนือกว่า ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นเขาที่ตกเป็นรองในคำพูด

“จะอย่างไรเรื่องนี้ ข้าก็ต้องหาความจริงให้จงได้”

“หึ ๆ อย่าลืมหาเผื่อข้าด้วยนะเจ้าคะ ท่านอ๋อง”

เอ่ยจบร่างระหงได้เดินจากคนทั้งคู่ โดยไม่คิดแยแสต่อความรู้สึกของผู้เป็นพ่อ ในวันที่นางซอกซ้ำทั้งร่างกายและจิตใจ สิ่งเดียวที่นางต้องการหาได้เป็นสิ่งของใดเลย มีเพียงอ้อมกอดของบิดาเท่านั้นที่นางโหยหา แต่ไม่เลยนางมิเคยได้รับมันแม้เพียงเศษเสี้ยว

วันนี้ยิ่งกระจ่างชัดถึงความรู้สึกของบิดา ว่าที่ผ่านมานั้นเขาคิดเช่นใดต่อนางกันแน่ ด้วยคำว่าพ่อลูกทำให้นางเพียรพยายามเข้าข้างตนเองว่าบิดาเพียงเลอะเลือน ไปชั่วขณะเท่านั้น

นางคิดผิดมาโดยตลอด นอกจากจะมิได้เลอะเลือนแล้ว บิดายังจงใจที่จะใช้นางเป็นเพียงบันไดส่งให้บุตรสาวอันเป็นที่รักของเขา ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่เหนือกว่าสตรีใดในแผ่นดิน

“ท่านพี่อย่าได้มีโทสะไปเลยนะเจ้าคะ เป็นข้าที่อบรมนางไม่ดีเอง จึงทำให้หลิวหลีคิดเสมอว่าข้าลำเอียงกับนางมาตลอด”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel