บท
ตั้งค่า

ตอนที่2. คลี่ยิ้มน้อย ๆ

จ้าวหลิวหลีคลี่ยิ้มน้อย ๆ เมื่อนึกถึงน้องสาวต่างมารดา ที่มิว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จ้าวอี้เหมยก็ยังไม่รู้จักที่จะพอใจในสิ่งที่ตนเองมี ซึ่งหากเทียบกับนางแล้ว ตำแหน่งพระชายาของจ้าวอี้เหมยนั้นก็สูงส่งมากพออยู่แล้ว

แต่ความริษยาของน้องสาวกลับมิคิดที่จะพึงพอใจ ต่อวาสนาในมือเท่าใดนัก จึงได้คอยวนเวียนที่จะทำลายนางอยู่ทุกลมหายใจก็ว่าได้

“ไปกันเถอะ หากสายกว่านี้แดดจะแรงเอาได้”

จ้าวหลิวหลีเอ่ยกับสาวใช้คนสนิทยิ้ม ๆ นางรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้ออกไปข้างนอกจวน

“เจ้าค่ะ”

เสี่ยวเชี่ยนรีบเดินไปหยิบร่มมาถือเอาไว้ในมือ หญิงสาวยิ้มจนดวงตาปิดให้แก่ผู้เป็นนาย พลอยทำให้จ้าวหลิวหลีหัวเราะร่าในความน่าเอ็นดูของเสี่ยวเชี่ยน

สองนายบ่าวก้าวออกจากห้องด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทว่า... เพียงก้าวพ้นตัวเรือน ทั้งคู่จำต้องหยุดลง

“เสี่ยวเชี่ยนคารวะ ท่านอ๋อง”

เสี่ยวเชี่ยนรีบย่อกายให้แก่ผู้มาเยือน ที่กำลังยืนใบหน้าโกรธเกรี้ยวอยู่ทางเดินหน้าเรือน

“จ้าวหลิวหลี!”

“หลิวหลีคารวะท่านพ่อเจ้าค่ะ”

จ้าวหลิหลีย่อกายให้แก่ผู้เป็นบิดา ที่ดูเหมือนกำลังมีโทสะ และนางมิจำเป็นต้องคาดเดา ว่าผู้ใดคือต้นเหตุของความกรุ่นโกรธในครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นนางบุตรสาวผู้น่าชังอย่างแน่นอน

“ฮึ ! ยังมีหน้าเรียกข้าว่าพ่ออยู่เช่นนั้นรึ”

จ้าวอ๋องตอบกลับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ถึงแม้จะแสดงออกถึงความโกรธกริ้วมากเพียงใด ทว่าคนตรงหน้ากลับยังคงมีใบหน้าเรียบเฉย

ยิ่งเป็นการเพิ่มไฟโทสะให้แก่จ้าวอ๋อง นับเท่าทวีคูณเลยก็ว่าได้ ที่บุตรสาวหาได้ยำเกรงต่อตนเองไม่

“มิทราบว่าท่านอ๋อง มีเรื่องอันใดกับข้าน้อยเช่นนั้นรึเจ้าคะ”

จ้าวหลิวหลีเปลี่ยนคำเรียกขานบิดาในทันที นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้เป็นพ่อที่เคยมีความฉลาดรอบรู้ มีความเที่ยงธรรมจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

แม้แต่ตอนที่นางถูกใส่ความ จนต้องแต่งแก่แม่ทัพหลี่จ้าน บิดาไม่แม้แต่จะคิดสืบหาความจริง ซ้ำยังมิเคยเหลียวแลนางแม้แต่หางตา ทุกคำของมารดาเลี้ยงและน้องสาวคือความถูกต้อง ส่วนคำของนางนั้น เป็นเพียงเรื่องเหลวไหลของบุตรสาวผู้ไม่รักดีไปเสียหมด

ทุกอย่างเปลี่ยนไปมิใช่เพราะความรัก ที่บิดามีต่อมารดาเลี้ยงเท่านั้น แต่มันคืออำนาจที่บิดาของนาง พร้อมอ้าแขนรับ เมื่อมันถูกหยิบยื่นมา โดยแลกกับทั้งชีวิตของนาง ที่ต้องกลายเป็นความอัปยศของสกุลจ้าว หากบิดามีความเที่ยงธรรมสักหน่อย ถึงแม้นางมิได้แต่งเข้าจวนองค์ชายสี่ อย่างน้อยนางก็คงมิต้องแบกความเสื่อมเกียรตินี้ไปชั่วชีวิตเพียงลำพัง

แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นนางคือผู้กระทำเรื่องไร้ยางอาย แย่งคนรักของน้องสาว เพียงเพราะอยากเอาชนะจ้า;อี้เหมย ที่มีความงดงามและสมบูรณ์แบบกว่า

คงมีเพียงคนจิตใจคับแคบเท่านั้น ที่มองเห็นว่ามันเป็นเช่นนั้น นางไม่เคยคิดจะไขว่คว้าสิ่งเกินตัวให้มันเหนื่อยยากเลยสักนิด นางรักที่จะอยู่อย่างสงบนับตั้งแต่มารดาสิ้นไป

ทว่าสิ่งที่นางได้รับนั้น เป็นเพราะความเหมาะสมที่ถูกวางเอาไว้นับตั้งแต่นางถือกำเนิด ในฐานธิดาคนโตในชายาเอกของจ้าวอ๋อง มิใช่ความต้องการของนางเลยแม้แต่น้อย

การแต่งงานของนาง ในวันนั้น เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกได้ ถึงอิสระในชีวิตใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว นางสบายใจเป็นที่สุด มิใช่เพราะได้สามีเป็นหลี่จ้าน แต่เพราะนางมิต้องก้าวเข้าสู่วังวนแห่งอำนาจหรือการแย่งชิง ในฐานะพระชายา

“เมื่อไหร่ที่เจ้าจะเลิกริษยาในตัวอี้เหมยเสียที เจ้ากล้าดีเยี่ยงไรที่ส่งยาขับเลือดปนไปกับยาบำรุงของอี้เหมย”

จ้าวอ๋องชี้นิ้วอันสั่นเทามายังจ้าวหลิวหลี สายตาชิงชังนั้นไม่มีคำว่าปิดบังเลยสักนิดเดียว

“มีเรื่องเช่นนั้นด้วยหรือเจ้าคะ ว่าอย่างไรเสี่ยวเชี่ยนเจ้าได้รู้เห็นเรื่องนี้บ้างหรือไม่”

จ้าวหลิวหลีเลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมตั้งคำถามกับผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะหันไปถามสาวใช้ข้างกาย ก่อนจะมองกลับไปยังบิดาอีกครั้ง

“เรียนฮูหยิน ย่อมไม่มีเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ เสี่ยวเชี่ยนเป็นพยานได้เจ้าค่ะ ว่าฮูหยินไม่เคยส่งสิ่งใดไปให้แก่พระชายาสี่เลยเจ้าค่ะ”

เสี่ยวเชี่ยนยืนยันหนักแน่น ถึงความบริสุทธิ์ของผู้เป็นนาย ซึ่งนางเองคาดไม่ถึงเช่นกันว่าพระชายาสี่จะลงมือได้รวดเร็วถึงเพียงนี้

“นายบ่าวย่อมไม่มีทางยอมรับความจริง วันนี้ข้าจะไม่ยินยอมนิ่งเฉยอีกต่อไปแล้ว กี่ครั้งแล้วหลิวหลีที่ข้าทนเงียบกับสิ่งที่เจ้ากระทำต่ออี้เหมย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel