บท
ตั้งค่า

จางจือเสวียน 1

"รบกวนแล้วเจ้าค่ะ"

หม่าเยี่ยนถิงโค้งลงให้ผู้อาวุโสอย่างขอบคุณ แม้จะไม่รู้จักบุรุษผู้นั้น แต่ไม่อาจปล่อยทิ้งไม่ใยดีก็ไม่ได้ เพราะหัวใจดวงนี้ของนางเหมือนไม่ใช่นาง มันกระวนกระวายและรู้สึกทุกข์ใจ ซึ่งนางรู้ดีว่ามันเป็นความรู้สึกของร่างเดิม เพราะหากเป็นตัวนางต่อให้นอนตายต่อหน้าก็คงไม่สนใจ

"ไม่เป็นไร ๆ เรื่องเล็กน้อย อย่าเบี้ยวค่ายาข้าก็พอ ๆ" ท่านหมออาวุโสเอ่ยทีเล่นทีจริง

"คนเจ็บจะจ่ายเองเจ้าค่ะ" นางตัดบทสวนคืนเสียงชืดชา คำตอบของนางทำให้ท่านหมอหัวเราะร่วน

"สามีแม่นางหม่าหน้าตาไม่เบา มิน่า ลูก ๆ ถึงได้น่ารักน่าชังนัก"

"นางยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะยายแก่"

"ตาแก่อย่างเจ้าไม่แก่บ้างก็แล้วไป แล้วสามีนางก็รูปงามจริง ๆ นี่" สองสามีภรรยาโต้เถียงกันอย่างไม่จริงจังนัก พวกเขาต่อประโยคกันจนหม่าเยี่ยนถิงไม่มีโอกาสเอ่ยแทรกหรือแก้ตัว ท่านหมอที่ฟังอยู่ก็เข้าใจไปด้วยว่าบุรุษผู้นั้นเป็นสามีของนาง

หลิงฮูหยินจากสกุลหลี่คิดว่าคงไม่มีสตรีใดพาคนที่ไม่สนิทมารักษาด้วยท่าทางร้อนรนขนาดนั้น หม่าเยี่ยนถิงกังวลจนออกนอกหน้า หลิงซือจึงคิดว่าคงเป็นสามีของนางที่หายหน้าหายตาไปหลายปี

หลังจากเรื่องเร่งด่วนจบไปแล้ว สองสามีภรรยาคู่นั้นก็กล่าวลานางแล้วขึ้นเขาไปอีกครั้ง วันนี้พวกนางเก็บป่ามาได้เพียงครึ่งตะกร้าเท่านั้น แต่หม่าเยี่ยนถิงก็ตัดสินใจพาลูก ๆ กลับบ้านไปทำอาหารเย็นง่าย ๆ กินแทน เพราะของเท่านี้ ขายไปก็ไม่ได้กำไรอะไรเลย สู้เอาไปเป็นวัตถุดิบยังดีเสียกว่า

"คนคนนั้นจะตายหรือไม่เจ้า เขานอนนิ่งเหมือนท่านแม่เมื่อหลายวันก่อนเลย" หนี่เหวินถามเสียงเจื้อยแจ้ว

"ไม่หรอก ถึงมือหมอแล้วคงไม่อันตรายถึงชีวิต" หม่าเยี่ยนถิงตอบลูกสาวตัวน้อยที่พูดไม่หยุด ใบหน้าเล็กๆ ขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัย

"พรุ่งนี้เราไปเยี่ยมหรือไม่เจ้าคะ"

"ไปสิ"

ไม่ว่าอย่างไรนางก็รู้สึกว่าทิ้งคนผู้นั้นเอาไว้แล้วปล่อยไปเฉย ๆ ไม่ได้ บางทีอาจเกี่ยวข้องกับหม่าเยี่ยนถิงจริง ๆ เพราะรู้สึกคุ้นเคยถึงขนาดนั้น เพียงแต่นางยังนึกไม่ออกว่าคนผู้นั้นเป็นใคร

สามแม่ลูกจูงมือกันกลับบ้าน โดยจื่อเหวินไม่พูดอะไรเลยสักคำจนนางสงสัย เด็กชายทำหน้าเหมือนอยากถามแต่ไม่กล้า เก็บเงียบจนมาถึงบ้าน หม่าเยี่ยนถิงทำอาหารไปตามปกติและรอให้ลูกชายเป็นฝ่ายถามเอง มื้อเย็นวันนั้นมีเสียงสดใสของหนี่เหวินเป็นมหรสพเพียงหนึ่งเดียว

กระทั่งเล่านิทานจบ เป็นหม่าเยี่ยนถิงที่นอนแทบไม่หลับเพราะคาใจกับท่าทีอมพะนำของบุตรชาย นางคิดความเป็นไปได้ร้อยแปดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่ก็มีเรื่องเดียวที่ผิดแผกไปจากชีวิตประจำวันคือมีชายผู้นั้นเข้ามา

และแล้วคืนนั้นหญิงสาวอดีตมือสังหารก็นอนแทบไม่หลับ...

ขณะที่เรือนของสามแม่ลูกสกุลหม่ามีแต่ความสงบเงียบ โรงหมอประจำเมืองก็กำลังวุ่นวายเพราะคนไข้อาละวาด

ชายหนุ่มที่แม่นางหม่าพามาเมื่อกลางไข้ขึ้นสูงจนน่าตกใจ อีกทั้งยังพูดอะไรไม่รู้ความราวกับเป็นคนต่างถิ่น ทั้งที่เสื้อผ้าก็สวมตามระเบียบแคว้นเซี่ย

"ต้าอู๋ เซียวค่าย! หายหัวไปไหนกันหมด!"

"ไม่ทราบขอรับ!" ลูกศิษย์คนหนึ่งตะโกนตอบ

"ไม่รู้แล้วตอบทำไม! นี่นายเป็นหน้าใหม่งั้นเหรอ ไปตามลูกพี่นายมาเดี๋ยวนี้!"

"ข้าเป็นลูกคนเดียวขอรับ"

"ไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้น แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไร ที่นี่ที่ไหน"

"คุณชายโปรดสงบสติอารมณ์ก่อน เดี๋ยวปากแผลจะเปิดเอาได้..."

ท่านหมออาวุโสพูดยังไม่ทันจบดี ถาดจอกชาก็ปลิวเฉียดแก้มไป หมอชรานับหนึ่งถึงพันในใจ ห้ามตัวเองไม่ให้เอาเข็มจิ้มลิ้นที่กำลังกล่าวคำผรุสวาทนั่น

ซ่านหยางรู้สึกวิงเวียนเหมือนในหัวกำลังมีการฉายภาพยนตร์ซ้ำ ๆ เวียนวนเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในไม่กี่นาทีสมองเหมือนถูกฟาดอย่างแรงด้วยของแข็งจนมึน

เขาคลื่นไส้จนอาเจียนออกมา ทั้งที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีก็ถูกจำมัดไว้กับเตียง เพราะพิษไข้เขาจึงสลบไปอีกครั้งในเวลาไม่นาน

คืนนั้นเขาฝันประหลาด คล้ายว่าได้สวมรอยเป็นใครคนอื่นที่ไม่มีอะไรเหมือนกัน ทั้งนิสัยใจคอ หน้าตา หรือแม้แต่ชื่อแซ่...

เช้าตรู่วันต่อมา หม่าเยี่ยนถิงก็ตื่นมาด้วยความอ่อนเพลียเล็กน้อย เพราะติดใจเรื่องเมื่อวานจนนอนไม่หลับ แต่เพราะต้องทำกิจวัตรประจำวันของคนเป็นแม่ นางจึงลืมเรื่องนั้นไปในเวลาไม่นาน

เพราะรายได้ยังไม่พอให้ซื้อเมล็ดพันธุ์เพิ่ม ผักที่ปลูกไว้ก็ต้องรออีกหน่อย วันนี้หม่าเยี่ยนถิงจึงยังต้องขึ้นเขาไปกับลูก ๆ แต่ก่อนนั้นต้องแวะไปดูคนที่โรงหมอเสียหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

หม่าเยี่ยนถิงพาลูก ๆ เดินมาได้ครึ่งทางก็พบพรานหนุ่มผู้หนึ่งที่นางคุ้นหน้าดียามขึ้นเขาไปเก็บของป่า

"แม่นางหม่า วันนี้ก็จะขึ้นเขาอีกหรือ" เขาคนนั้นเอ่ยทักทาย นางเพียงยิ้มให้และพูดคุยกับเขาอย่างรักษามารยาท

"ช่วงนี้คงขึ้นไปทุกวัน เจ้าพึ่งกลับลงมาหรือ?"

"ใช่ วันนี้เจ้าคงตื่นสาย"

"มีเรื่องเกิดขึ้นเล็กน้อย"

หม่าเยี่ยนถิงเอ่ยตอบคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม นางผ่านโลกมาถึงสองภพด้วยกันจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่านายพรานหนุ่มคนนี้สนใจหม่าเยี่ยนถิง ซึ่งในความทรงจำร่างเดิมไม่ได้ให้ความหวังและเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสมเสมอ

"ข้าได้ยินว่าเจ้าไปที่โรงหมอมา ใครเจ็บป่วย เป็นอะไรมากหรือไม่"

"ข้ากำลังจะไปดูอาการอยู่เดี๋ยวนี้"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel