บทย่อ
นักฆ่าสาว ผู้มีชีวิตโดดเดี่ยวและเย็นชาอย่าง หม่าเยี่ยนถิง ถูกองค์กรหลอกใช้จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ยามได้โอกาสเกิดใหม่กลับกลายเป็นมารดาผู้รันทดในยุคจีนโบราณ หม่าเยี่ยนถิง เดิมทีก็เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ หากแต่ชีวิตพลิกผัน ทำให้ต้องถูกขับไล่ออกจากบ้าน กลายเป็นหญิงสาวที่ยากไร้ และต้องอุ้มชูลูกฝาแฝดเพียงลำพัง สี่ปีของความยากแค้น และความเจ็บช้ำทางใจที่ถูกสามีทอดทิ้ง ทำให้หม่าเยี่ยนถิงตรอมใจตายจาก แต่เมื่อหม่าเยี่ยนถิงฟื้นตื่น และกลายเป็นคนใหม่ นักฆ่าสาวจึงต้องหาทางผ่านพ้นความยากลำบากนี้ไปให้ได้ แม้ว่าเรื่องราวชีวิตของเจ้าของร่างจะยังเป็นหมอกดำที่หม่าเยี่ยนถิงคนใหม่ไม่อาจเข้าถึง แต่เธอก็จำต้องเลี้ยงดูเด็กน้อยสองคนให้ดี แต่แล้วเหตุการณ์กลับผลิกผันเมื่อเป้าหมายที่สังหารกลับมาเกิดใหม่ด้วย เรื่องราวจะจบเช่นไร ติดตามในเรื่อง ฮูหยินชาวไร่ท่านแม่ทัพ
บทนำ องค์กรหักหลัง
ตึกระฟ้าทันสมัยบ่งบอกความศิวิไลซ์ของเมืองแห่งนี้ ย่านธุรกิจที่มีคนใส่สูทผูกไทเดินพลุกพล่าน เป็นที่ที่เหมาะแก่การซ่อนตัว แล้วก็เหมาะกับการค้นหาเป้าหมายด้วยเช่นกัน ทว่าเพียงข้ามถนนมาเลนส์เดียวก็มีทัศนียภาพที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว
เพียงหนึ่งถนนกั้นก็เป็นย่านชุมชนแออัด มีตึกถูกทิ้งร้างเอาไว้ถึงสามแห่ง แต่พวกชาวบ้านแร้นแค้นก็ไม่มีสิทธิ์เหยียบย่างขึ้นไป ที่พอจะดูดีขึ้นมาหน่อยก็คงเป็นอะพาร์ตเมนต์โทรม ๆ ที่เธอจับจองพื้นที่บริเวณดาดฟ้าเอาไว้
เยี่ยนถิงนั่งจิบกาแฟอยู่บนชั้นพิเศษที่เธอถือวิสาสะขอใช้งาน รายงานของคู่หูบอกว่าเป้าหมายของเธอจะเดินทางมาพักใกล้ๆ นี่ และเจรจาธุรกิจกันที่ตึกระฟ้านั่นด้วย เธอเฝ้ารออย่างใจเย็นมาหลายวัน รอเพิ่มอีกวันหรือสองไม่สะเทือนเส้นความอดทนเธอหรอก
เป้าหมายครั้งนี้ถือเป็นปลาตัวใหญ่ในบ่อที่ชื่อว่าเกาะฮ่องกง ผู้นำตระกูลมาเฟียหนึ่งในสามอันดับแรกที่มีอิทธิพลที่สุด ภารกิจของเธอคือฆ่าเขาเสีย ตัวตนนักฆ่าอย่างเยี่ยนถิงทำงานตามคำสั่งผู้ว่าจ้าง แต่เวลาที่คนใกล้ชิดของเหยื่อมาทวงคืนความแค้น กลับไม่ได้ไปลงที่ผู้ว่าจ้าง แต่เป็นเครื่องมือสังหารเดินได้อย่างพวกเธอ
เครื่องสื่อสารขนาดจิ๋วที่ติดไว้หลังใบหูมีเสียงสัญญาณดังออกมาเบา ๆ
"ว่าไง"
(เป้าหมายเลื่อนนัดเจรจา กำหนดการเราเปลี่ยนเป็นพรุ่งนี้)
ปลายสายที่ใช้เสียงสังเคราะห์แทนตัวจริงเอ่ยแจ้งข่าวใหม่ที่พึ่งได้มา
"นายแน่ใจเหรอ"
(ไม่เชื่อฝีมือฉันหรือไง)
"ก็เปล่า"
(งั้นก็กลับมาได้แล้ว)
"ตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ"
(เท้ายังไม่เหยียบสนามบินเลย ทางนั้นมีพายุ ไฟลท์เลยเลื่อน)
"ก็บอกแบบนี้แต่แรกสิ ทำไมต้องเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระก่อนด้วย"
เยี่ยนถิงคิดว่าเวลาของตัวเองมีค่าเกินกว่าจะมาฟังเรื่องไร้ประโยชน์นี่ ไม่รู้ปลายสายจะโยกโย้กับเธอไปถึงเมื่อไหร่ ไม่ว่ากี่ปีต่อกี่ปีก็ไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเลย เมื่อเป้าหมายไม่มาในตอนนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่
นักฆ่ามืออาชีพมีแผนสำรองเสมอ เยี่ยนถิงมักใช้แผนสำรองหลายขั้นในการทำงาน และบางอย่างเธอก็ไม่ได้บอกให้คู่หูรับรู้ว่าวางกับดักอะไรเอาไว้บ้าง เพราะโจวเจี้ยนหนี่ติดเล่นเกินไป แถมยังปากสว่างทำให้แผนเธอพลาดบ่อยครั้ง สองเรื่องที่เชื่อใจได้คือการหาทางหนีทีไล่และสืบข่าวของเขาเท่านั้น
ทว่าเยี่ยนถิงที่พึ่งข้ามมายังตึกข้าง ๆ ก็เป็นต้องหงุดหงิด เมื่อมองผ่านหน้าต่างกระจกแตก ๆ ลงไปเบื้องล่างแล้วพบว่าเป้าหมายในรูปถ่ายพึ่งลงมาจากรถ กาแฟแทบกระฉอกออกมาจากแก้วกระดาษในมือ
เธอกัดฟันกรอดกดปุ่มเครื่องส่งสัญญาณไปหาคู่หู
"นายบอกว่าเขายังมาไม่ถึง แล้วที่ฉันเห็นอยู่มันฝาแฝดของซ่านหยางหรือไง!"
(อะไรนะ เป็นไปไม่ได้น่า ฉันจะตรวจดูที่กล้องสนามบินเดี๋ยวนี้
เลย)
เสียงสังเคราะห์ฟังดูร้อนรนขึ้นมา ทว่าเยี่ยนถิงไม่สนใจ
"หุบปากไป"
เธอน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ระดับบอสมาเฟียไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกตามรอยได้ง่าย ๆ หรอก เยี่ยนถิงรู้มาว่าเป้าหมายจะไปเจรจาธุรกิจที่ห้องไหนของตึกนั้น เธอจึงหาจุดยิงเหมาะ ๆ ได้ไม่ยาก กระเป๋าเก็บอุปกรณ์กีฬาที่พกมาเป็นเพียงภาพหลอกตาที่ภายนอก ด้านในบรรจุอาวุธคู่ใจของเธอไว้หลายกระบอก
ไรเฟิลเก็บเสียงที่ทางองค์กรคิดค้น คือคู่หูที่เธอเลือกหยิบมาในครั้งนี้ หญิงสาวในชุดรัดรูปนอนราบไปกับพื้น ส่องกล้องติดตามเป้าหมาย
หัวหน้ามาเฟียกลุ่มนั้นไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีมือปืนมัจจุราชจ้องจะเอาชีวิต เยี่ยนถิงต้องการโอกาสเพียงเล็กน้อยในการลั่นไก นักล่าที่ดีต้องรอให้เป็น อาจารย์เธอสอนมาเช่นนั้น นัยน์ตาหงส์หรี่ลงเมื่อเห็นชายหนุ่มในรูปถ่ายเข้ามาอยู่ในเลนส์
ทันทีที่เขานั่งลงเธอก็ลั่นไกออกไป วิถีกระสุนพุ่งตรงทะลุกระจกบานหนึ่ง เจาะเข้ากะโหลกศีรษะอย่างแม่นยำในนัดเดียว ในห้องเจรจาธุรกิจเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นทันที พวกลูกน้องเหลียวหาที่มาของกระสุน
เยี่ยนถิงถอยห่างจากจุดยิง คว้าแก้วกาแฟกระดาษที่ถือติดมือมาด้วยลงไปทางบันไดหนีไฟของตึกนั้น การค้นหาตัวเธอเป็นอะไรที่พวกนั้นต้องทำแน่อยู่แล้ว
โจวเจี้ยนหนี่บอกทางที่เธอต้องไปผ่านเครื่องส่งสัญญาณตัวจิ๋ว เส้นทางคับแคบที่มีไว้ให้แมวเดิน หากเป็นคนอื่นคงตัดใจ แต่เยี่ยนถิงมีความสามารถมากพอจะผ่านไปได้ ด้วยการเทน้ำหนักลงไปเพียงครู่เดียวแล้วเปลี่ยนจุดยืน
ที่นั่นเป็นย่านธุรกิจที่คนพลุกพล่าน การจะหาตัวเธอไม่ใช่เรื่องง่าย การเลือกสถานที่ลงมือก็มีผลกับงานเช่นกัน
เยี่ยนถิงขับมอเตอร์ไซค์คันเก่งมาจนถึงท่าเรือใกล้เพื่อเปลี่ยนพาหนะ พอดีกับเจ้ามนุษย์เสียงสังเคราะห์มาถึง
เธอใช้เครื่องมือสื่อสารอีกตัวหนึ่งที่ทางองค์กรประดิษฐ์ขึ้นมาโดยเฉพาะติดต่อกลับไปว่างานเสร็จแล้ว ก่อนหันมาหาคู่หูที่ยังยืนเฉย
"มัวทำอะไรอยู่ ขึ้นเรือสิ"
โจวเจี้ยนหนี่ไม่ตอบ แต่ยกยิ้มขึ้นอย่างไม่น่าไว้ใจ เยี่ยนถิงหรี่ตาลง มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
" หืม? ไม่นี่ แค่องค์กรติดต่องานใหม่มา"
"งานอะไร ทำไมติดต่อผ่านนายไม่ใช่ฉัน"
"เป็นงานที่ให้ฉันทำนี่ จะติดต่อเธอทำไมล่ะ" อีกฝ่ายเลิกคิ้ว เพราะคำตอบมันสมเหตุสมผล เยี่ยนถิงเลยเลิกใส่ใจเขาแล้วก้าวลงไปบนเรือยนต์ที่เตรียมไว้
หญิงสาวโยนกระเป๋าไว้มุมหนึ่งแล้วเดินไปที่ส่วนหน้าที่มีแผงควบคุม ทว่าอาจเพราะเธอไว้ใจคู่หูมากเกินไป ทั้งที่งานแบบนี้ไม่ควรไว้ใจทั้งนั้น เพราะมันมีการหักหลังได้ตลอดเวลา
วัตถุหนัก ๆ แข็ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าคืออะไรกันแน่ฟาดเข้าที่ศีรษะเธออย่างแรงจนหมดสติในทันที โจวเจี้ยนหนี่ยิ้มกริ่มต่อสายถึงองค์กร
"เสร็จงานแล้วครับ มารับตัวเธอได้เลย…"