ตอนที่ 9 ศึกแม่ผัวลูกสะใภ้
ตอนที่ 9
เพียงไม่กี่ยามข่าวลือเรื่องคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ก็แพร่สะพัดไปทั่วจวน ยามที่คนทั้งสองเดินผ่านบรรดาบ่าวไพร่ จึงตกเป็นเป้าสายตาไปโดยปริยาย
“มองอะไรกัน”
เหม่ยอิงลองเอี้ยวตัวกลับไปมองก็พบสาวใช้กลุ่มหนึ่ง กำลังกระซิบกระซาบมองมาทางตนเองอยู่
“อย่าสนใจเลย เช้านี้เจ้าต้องยกน้ำชาให้บิดามารดาข้าไม่ใช่หรือ”
หย่งฝูรู้หัวข้อข่าวซุบซิบนั้นดี เพราะนั่นก็เป็นผลลัพธ์ที่เขาอยากจะให้มันเป็น ให้ข่าวว่าเขารักฮูหยินมากมายเพียงใดแพร่ออกไปให้มากที่สุด จะได้ไม่มีสตรีนางใดคิดมายุ่งกับเขาอีก
แม้จะสงสัย แต่ยังมีหน้าที่ที่ต้องไปทำ เหม่ยอิงจึงปล่อยเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เดินตามสามีในนามจนมาถึงเรือนใหญ่
ภายในห้องโถงรับรอง ไม่ได้มีเพียงญาติทางฝ่ายสามี แต่ยังมีบุตรีที่เหม่ยอิงพอจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามอยู่บ้าง
สาวงามนางนั้นปรายตามองมาทางเหม่ยอิงครู่หนึ่ง แล้วรีบหันไปตั้งอกตั้งใจ ชวนจางฮูหยินพูดคุย หัวเราะต่อกระซิกกัน
ทำให้เวลาที่เหม่ยอิงยอบกายทำความเคารพผู้ใหญ่ มารดาของสามีไม่เห็นหรืออย่างไร ถึงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย ยังคงพูดคุยกับสตรีนางหนึ่งอย่างออกรส
ผิดกลับใต้เท้าโจว ที่พยักหน้ารับการคารวะ และยังเอ่ยถามออกมาด้วยความปรานี
“มานอนต่างบ้านคืนแรก หลับสบายไหมลูก หวังว่าบุตรชายพ่อ คงไม่กวนลูกมากหรอกนะ”
เหม่ยอิงชั่งน้ำหนักจากการแสดงออกของจางฮูหยินแล้ว นางคงจะต้องพบกับปัญหาแม่สามีลูกสะใภ้แน่ แต่ช่างเถอะ หาต้องเก็บมาใส่ใจไม่ เพราะนางไม่ใช่ลูกสะใภ้จริง ๆ เสียหน่อย ดังนั้นเสียงที่ตอบคำถามพ่อสามี จึงจงใจเอ่ยออกมาเสียงดังฟังชัด
“เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลยเจ้าค่ะ ท่านพี่กวนทั้งคืน”
ได้ผล สาวงามที่ทำเป็นไม่สนใจเหม่ยอิงในตอนแรก สีหน้าซีดเผือดลง ประกายตาไหววูบสลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนจางฮูหยินทนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้
“ไร้ยางอาย สตรีแบบไหนกัน พูดเรื่องนี้ไม่อายปาก”
“ก็ข้าพูดความจริงเจ้าค่ะ ท่านแม่ไม่เชื่อถามท่านพี่ดูก็ได้”
“เถียงคำไม่ตกฟาก มารดาเจ้าไม่สั่งสอนหรืออย่างไร”
“สอนเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่จำ” เหม่ยอิงยอกย้อนกลับไปแบบหน้าตาย
จางฮูหยินโกรธจนหน้าดำหน้าแดง กำลังจะเอ่ยปากด่าลูกสะใภ้ต่อหน้าคนนอก แต่ถูกสามีเอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาก่อน
“หยุดเลยทั้งคู่ ฮูหยินวันนี้เป็นวันต้อนรับลูกสะใภ้วันแรก น้องก็อย่าเข้มงวดเกินไปเลย ส่วนเจ้าเองแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ก็ควรสงบปากสงบคำเอาไว้บ้าง”
นั่นละถึงทำให้สงครามฝีปากสงบลง กระนั้นบรรยากาศก็เริ่มกลับมาอึดอัดมากกว่าเดิมอีก
เหม่ยอิงนับหนึ่งสองสามสงบสติอารมณ์ของตนเอง ปั้นหน้ายิ้มยกถ้วยชาถ้วยแรกให้บิดาของสามี จากนั้นก็ยกถ้วยที่สองให้มารดาของสามี
แต่ดูทางฝ่ายนั้นจะเริ่มเล่นสงครามประสาทกับนางอีกแล้ว เพราะจางฮูหยินหันกลับไปพูดคุยกับบุตรีสกุลเฉียน ไม่ยอมมองมาทางลูกสะใภ้เลยแม้แต่น้อย
“น้องหญิง” เพ่ยฟางเอ่ยเรียกภรรยาเบา ๆ
จางฮูหยินแสร้งหันมา มือสะบัดถูกมือที่ถือถ้วยชาร้อนอยู่ จนมันหกราดลงบนมือของเหม่ยอิง
“ตายแล้ว แม่ขอโทษ พอดีไม่ทันเห็นว่าเจ้ายกน้ำชาให้แม่แล้ว และไม่ได้ยินเสียงอะไรด้วย” หญิงวัยกลางคนเชิดหน้าอย่างผู้ที่เหนือกว่า
“อิงเอ๋อร์ ปวดแสบปวดร้อนหรือเปล่า”
หย่งฝูรีบเข้ามาจับมือของอีกฝ่าย ก่อนจะควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำชาร้อน ๆ ออกให้มากที่สุด และกำลังจะเอ่ยปากต่อว่ามารดา แต่เหม่ยอิงส่ายหน้าบอกไม่เป็นไร
เหม่ยอิงรับน้ำชาถ้วยใหม่มาจากจางไห่ ก่อนจะยื่นออกไปตรงหน้าสตรีวัยกลางคนอีกครั้งหนึ่ง
“ท่านแม่”
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่จางฮูหยินไม่สนใจเหม่ยอิง แม้คราวนี้นางจะเรียกเสียงดังกว่าเดิม อีกฝ่ายก็คุยหัวเราะกับสตรีที่ถือเป็นคนนอก บุตรีสกุลเฉียนนี้ก็ชอบกล ไม่รู้อย่างไรหรือ ว่าวันนี้ควรเป็นวันของคนในครอบครัว
...ได้ ในเมื่อจะเล่นแบบนี้ นางก็ต้องเล่นให้ใหญ่กว่า...
ในเมื่อมารดาของสามีไม่ยอมรับน้ำชาจากลูกสะใภ้อย่างนาง เหม่ยอิงจึงสวมบทบาทแสดงงิ้วเป็นสองตัว ตัวหนึ่งนางเล่นเป็นตัวเอง อีกตัวหนึ่งสวมบทเป็นจางฮูหยิน ระหว่างที่แสดงงิ้วให้ทุกคนดู หญิงสาวก็เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่งเก้าอี้สลับไปมา
“ท่านแม่น้ำชาเจ้าคะ”
“ขอบใจจ้ะลูก ต่อไปเจ้าก็รีบมีหลานให้แม่อุ้มไว ๆ น่ะ แม่อยากอุ้มหลานเต็มแก่”
“เหม่ยอิงจะพยายามเจ้าค่ะ”
ใต้เท้าโจวกับเฉียนกุ้ยหลินอ้าปากค้าง กับการที่เหม่ยอิงพูดเองเออเองแต่เพียงผู้เดียว ส่วนหย่งฝูเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แล้วแอบหัวเราะออกมา ก่อนจะหันกลับมาตีหน้าขรึมตามเดิม
แต่จางฮูหยินกลับผุดลุกขึ้นยืน ยกมือชี้หน้าสตรีที่บุตรชายเลือกเข้ามาเป็นสะใภ้
“เจ้านี้นิสัยเสียอย่างที่ชาวบ้านร่ำลือกันจริง ๆ ขนาดข้าเป็นแม่สามีเจ้า ยังกล้ามาล้อเลียนข้าแบบนี้ ฝูเอ๋อร์จัดการยื่นหนังสือหย่าเสียวันนี้เลยนะ”
“ท่านแม่ ท่านได้ยินที่ข้าพูดด้วยหรือเจ้าคะ แล้วทำไมตอนข้าเรียกรอบแรกท่านไม่ได้ยินเล่า”
เหม่ยอิงลอยหน้าลอยตาถาม ทำตาใสราวกับไม่รู้ว่าตนทำสิ่งใดผิด
“เจ้า ๆ” จางฮูหยินติดอ่างเถียงไม่ออก หน้าอกกระเพื่อมแรงตามโทสะ
“ท่านป้าใจเย็น ๆ ก่อนเจ้าค่ะ”
เฉียนกุ้ยหลินรีบลุกขึ้นมาประคองสตรีวัยกลางคนให้นั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับนำของหอมมาให้สูดดม เพื่อผ่อนคลายอารมณ์
“แม่นางเหม่ยอิง ไม่น่ายั่วโมโหท่านป้าแบบนี้เลย เกิดท่านป้าไม่สบาย จะทำอย่างไรเจ้าคะ”
...แม่ดอกบัวขาว นางเอกผู้แสนดี ปรนนิบัติพัดวีมารดาของฝ่ายชายเป็นอย่างดี แม้อีกฝ่ายจะออกเรือนแล้ว...
“ท่านแม่ข้าขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ไม่คิดว่าสิ่งที่ข้าทำเป็นการยั่วโมโหท่านแม่”
เหม่ยอิงตีหน้าซื่อ พยายามจะหาอะไรช่วยพัดวีให้มารดาสามี แต่ถูกมือหนาฉุดกระชากออกมานอกเรือนเสียก่อน
“ทำบ้าอะไรของเจ้า”
“มารดาของท่านแกล้งข้าก่อนเอง ช่วยไม่ได้” หญิงสาวเห็นอีกฝ่ายกำลังจะอ้าปาก ก็รีบชิงเอ่ยขึ้นมาก่อน
“อย่าคิดจะต่อว่าข้าเชียว ท่านจะให้ข้าอดทนให้ผู้อื่นรังแกอยู่ฝ่ายเดียวหรือ คนอย่างข้าใครร้ายมาข้าร้ายกลับ ใครดีด้วยข้าดีตอบ”
“แต่นั่นท่านแม่ของข้านะ และเป็นท่านแม่ของเจ้าเหมือนกัน”
“แต่ข้าเป็นสะใภ้กำมะลอ ท่านลืมไปแล้วหรือ” เหม่ยอิงเชิดหน้า แม้รู้ดีว่าสิ่งที่ทำลงไป ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย แต่จะให้นางอดทนให้ผู้อื่นโขกสับคงจะไม่ได้เหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ต่างคนต่างอยู่ อย่าหาเรื่องทะเลาะกับมารดาข้า ทำได้หรือเปล่า” หย่งฝูใช้น้ำเสียงที่อ่อนลง
“ได้ ถ้าไม่มีใครมายุ่งกับข้าก่อน โดยเฉพาะแม่ดอกบัวขาวนั่น”
เหม่ยอิงสะบัดหน้าเดินกลับเรือนส่วนหลังไป ทิ้งให้หย่งฝูขบคิด ว่าทำไมอยู่ ๆ มารดา ถึงได้ไม่ชอบหน้าฮูหยินของตน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้น ยังบอกว่า ไม่ว่าเขาจะพึงพอใจสตรีใด มารดาล้วนพึงพอใจด้วย หรือว่าเรื่องนี้จะมีเบื้องลึกเบื้องหลัง...เฉียนกุ้ยหลิน